สนธิ แฉเกลือเป็นหนอนทำแพ้ศาลโลก

ขณะที่ในวันเดียวกัน ที่มูลนิธิศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. และอดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างปาฐกถาเรื่องแนวโน้มภาวะวิกฤติของสังคม

ในกรณีปราสาทพระวิหารว่า ตนทำงานตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชามากว่า 30 ปี ขึ้นไปบนเขาพระวิหารบ่อยมาก การเสียเขาพระวิหารครั้งที่แล้ว เพราะการต่อสู้คดีในศาลโลกนั้น มีคนไทยกลุ่มหนึ่งนำข้อมูลการต่อสู้คดีไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ไทยสู้คดีไม่ได้ ครั้งนี้เกิดกรณีพิพาทขึ้นอีก ไม่อยากเสียเป็นครั้งที่ 2 โดยพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร รัฐบาลเข้าใจดีว่าเป็นของเรา ดังนั้น พื้นที่ตรงนี้กลับคืนเป็นของเราก่อนในเบื้องต้น อย่างอื่นค่อยว่ากันอีกที 

ต่อมา พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนทำงาน ที่ชายแดนไทย-กัมพูชามานาน ได้ทำเอกสารวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ทั้งบนพื้นดิน และในทะเล 

รวมถึงรู้ปัญหาความทับซ้อนในแผนที่  ทั้งของกัมพูชา และของไทย ซึ่งเป็นจุดที่ต้องศึกษา พูดมา 5 ปี แล้วว่า ปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา อนาคตจะเป็นปัญหาที่สำคัญ ทั้งนี้ที่เขาพระวิหาร เมื่อก่อนเดินไปจะเห็นว่าไม่มีรั้ว สามารถเดินไปถึงเชิงบันได ซึ่งก็ถือเป็นดินแดนของประเทศไทย แต่ภายหลังมีการกั้นรั้วเพื่อไม่ให้ประชาชนกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในแดนไทย ปรากฏว่า  รั้วนั้นพัฒนาเป็นเขตแดนขึ้นมา  และเกิดคดีความต่อสู้กันระหว่างประเทศ จึงอยากให้รัฐบาลศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตนมีความเป็นห่วง เพราะเราไม่อยากเสียอะไรไปอีก  ตรงนี้คือหัวใจของเรา  การสูญเสียดินแดนไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว คือจิตใจและหัวใจของคนทั้งประเทศ ดังนั้น เราจะต้องรักษาในสิ่งเหล่านี้ไว้ 


ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับการตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาพิจารณาปักปันเขตแดน พล.อ.สนธิตอบว่า ที่ผ่านมา ไม่ว่าดินแดนในด้านกัมพูชา หรือลาว

เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการของไทยมีการเปลี่ยนตัวกันตลอด แต่ขณะเดียวกัน ในประเทศกัมพูชา หรือลาว ได้คงคนของเขาไว้อยู่ จึงนำ ไปสู่เรื่องการเข้าใจต่อปัญหา และเสียรู้ต่อปัญหา ดังนั้นในการตั้งกรรมการขึ้นมาปักปันเขตแดนจะต้องตั้งผู้รู้และมีความเข้าใจ เป็นนักเจรจา นักต่อรอง เป็นมืออาชีพ ซึ่งหากทำเพื่อชาติบ้านเมือง ตนยินดีที่จะช่วย แต่จริงๆแล้ว ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้มีอยู่มาก 


เมื่อถามว่า มองบทบาทกองทัพในเรื่องปราสาทพระวิหารอย่างไรบ้าง พล.อ.สนธิตอบว่า คงพูดไม่ได้ แต่ คิดว่าทหารทุกคนรักชาติบ้านเมือง

มีภาระหน้าที่ในการปกป้องดินแดน เหมือนที่พูดกันเสมอว่า แม้แต่ตารางนิ้ว เดียวเราก็สูญเสียไม่ได้ แต่เรื่องเขาพระวิหารคงไม่เกี่ยวกันกับการเสียดินแดนในทะเล แต่ขึ้นกับว่าแผนที่ที่ใช้เรา จะยอมรับฉบับไหน ถ้าเป็นฉบับที่กัมพูชาใช้แล้วยอมรับ ในฉบับนั้น เราจะสูญเสียค่อนข้างมาก จึงต้องไปพูดถึงเรื่องความถูกต้องของแผนที่แต่ละฉบับด้วย ดังนั้น ปัญหาเรื่องปักปันเขตแดนต้องศึกษาแผนที่ก่อน 

ต่อข้อถามว่า มองว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร พล.อ. สนธิตอบว่า ต่างคนก็มองไม่เหมือนกัน แต่ถ้าถามตน ตน ยังมีความรู้สึกหวงแหนดินแดนของเราอยู่

และหากอ่านจากหนังสือพิมพ์หลายๆฉบับ ขณะนี้ก็หมิ่นเหม่เรื่องเสียเปรียบพอสมควร เมื่อถามถึงนายเตช บุนนาค ที่เข้ามารับ ตำแหน่ง  รมว.ต่างประเทศ  พล.อ.สนธิตอบว่า  ก็ลองดู เพราะตนไม่รู้จักท่าน แต่อยากฝากไปถึงส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะทำอะไรขอให้วางแผนระยะยาวไว้ กัมพูชาส่งคนมา อยู่ในพื้นที่ตรงนี้ 5-6 ปี แสดงว่าคิดไกลมาก วางแผน ระยะยาว ดังนั้น เราคิดอะไรก็ตามเกี่ยวกับประโยชน์ของชาติ ต้องคิดแต่เนิ่นๆ คิดยาวๆ วางแผนเป็นขั้นเป็นตอนว่าจะดำเนินการอย่างไร เมื่อเราจะสู้คดี ก็ต้องทำอย่างไรให้คณะกรรมการที่จะมาตัดสินปัญหาของเรามีความเข้าใจ อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าชาติไหนตรงไหนการล็อบบี้เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น การเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าจึงต้องทำไว้เนิ่นๆ ปัญหาชายแดนตั้งแต่หลักที่ 1 ถึงหลักที่ 73 มีปัญหาเยอะ ต้อง คิดดูทุกหลักเขตว่าจะทำอย่างไรเพื่ออนาคตในระยะยาว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์