นครบาลเรียกประชุม เอาผิดดา ตอร์ปิโด ปราศรัยหมิ่นฯ

รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แจ้งว่า ช่วงเย็นวันที่ 21 กรกฎาคม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ประธานคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นเบื้องสูงของ บช.น.

เรียกประชุมคณะกรรมการทุกคนเพื่อพิจารณาคดีหมิ่นเบื้องสูงในท้องที่ สน.ชนะสงคราม มาพิจารณา โดยทาง สน.ชนะสงครามแจ้งว่าได้นำกรณี น.ส.ดารณีปราศรัยบนเวทีสนามหลวงส่อหมิ่นเบื้องสูงมาพิจารณาด้วย หากที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่น บช.น.มีความเห็นว่า น.ส.ดารณีมีความผิดก็จะขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีต่อไปทันที

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยกองทัพบกได้รับทราบข้อมูลข่าวสารว่า นางดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ "ดา ตอร์ปิโด" ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในการชุมนุม ณ บริเวณท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ 18 ก.ค.51

โดยมีการใช้ถ้อยคำดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และถือเป็นการมิบังควรอย่างที่สุด
จากการกระทำดังกล่าว กองทัพบกจึงได้มีหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 51 ถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรื่อง ขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์

โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า กองทัพบก ขอให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้กรุณาตรวจสอบการปราศรัยของนางดารณีฯ

หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวได้ส่งไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้วในวันเดียวกัน
กองทัพบกในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ในการเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำใดๆอันเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท โดยเด็ดขาด
 

ทั้งนี้ กองทัพบกจะติดตามผลของการดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ 'เจ๊ดา ตอร์ปิโด' วัย 45 ปี เคยขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และบทบาทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อย่างรุนแรง

จนนางยุพา อิ่มแดง แม่ค้าขายดอกไม้ ย่านปากคลองตลาด ปาอุจจาระใส่ถุงพลาสติคใส่หน้า ทำให้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
ทั้งนี้ น.ส.ดารณี เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ.2550 ว่า พื้นฐานเป็นคนสนใจข่าวสารบ้านเมือง จึงเลือกเรียนที่คณะรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นผู้สื่อข่าวด้านการเมืองและเศรษฐกิจหลากหลายสำนักพิมพ์ ทั้ง วัฏจักร พิมพ์ไทย ไทยสกายทีวี

'หลังการปฏิวัติ ยึดอำนาจ ดิฉันตัดสินใจลาออกมาเป็นนักข่าวอิสระและนักเคลื่อนไหว เพราะไม่อยากเป็นสื่อมวลชนที่ถูกครอบงำ อยากทำงานอย่างอิสระ วิพากษ์ วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและ คมช. เรียกร้องประชาธิปไตยได้อย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา ไม่ต้องมีใครกลัวใคร เพราะนิสัยส่วนตัวจะเป็นคนที่ตรงมาตรงไป ยึดหลักความถูกต้อง อะไรที่ไม่ถูกต้องก็คงทำงานร่วมกันไม่ได้ จึงออกมารวมกลุ่มกับเพื่อนตั้งเป็นเครื่อข่ายสภาประชาชน เรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งมีจุดยืนในการนำรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2540 กลับมาใช้เลือกตั้ง'

ส่วนฉายา 'ดา ตอร์ปิโด' นั้น น.ส.ดารณี กล่าวว่า เพื่อนๆ ในกลุ่มเป็นคนตั้งให้ เพราะเห็นลีลาการปราศรัยบนเวทีที่ดุเด็ด

เผ็ดมันทั้งอารมณ์ น้ำเสียง ถ้อยคำ เพื่อนบอกว่า ปราศรัยทีไรเหมือนกับระเบิดลง คล้ายกับระเบิดตอร์ปิโด จึงตั้งฉายานี้ให้ ซึ่งความจริงแล้วส่วนตัวก็ไม่ได้เป็นคนดุ แต่เป็นคนพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่เวลาปราศรัยบนเวที ต้องปลุกเร้าอารมณ์ผู้ฟังให้มีอารมณ์ร่วมไปด้วย จะไปพูดเรียบๆ เหมือนกับอาจารย์ สอนเล็คเชอร์ให้นักศึกษาก็คงไม่ได้

สำหรับเหตุการณ์ปาอึที่เกิดขึ้น น.ส.ดารณี กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า

'โดนปาอึครั้งนี้ไม่รู้สึกอะไรเลย ดิฉันไม่โกรธ ไม่โมโห เพราะจริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรก อีกอย่างคนที่ทำก็คงมีเหตุผลของเขา เพราะก่อนที่จะถูกปาอึใส่หน้า ก็ถูกปาอึใส่รถมาแล้ว แล้วตลอดเวลาที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งนี้ ก็ถูกข่มขู่มาตลอดให้หยุดปราศรัยโจมตีคนอื่น แต่ก็ไม่รู้สึกกลัว เพราะในชีวิตจะยึดหลักที่ว่า คนเราเกิดมาครั้งเดียว ตายครั้งเดียว แม้จะทำความดีแล้วคนไม่เห็น แต่ฟ้าดินเห็นก็พอใจแล้ว และจะยืนหยัดเรียกร้องจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยและประเทศไทยมีการเลือกตั้งโดยรัฐธรรมนูญที่มาจากวิถีของประชาธิปไตยที่แท้จริง'


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์