ตร.ระดมกำลังสกัดพันธมิตร

สั่งเด็ดขาด-ไม่ให้มาปักหลักหน้าทำเนียบ

คน ตจว.กับพนักงานรัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมชุมนุมปิดล้อมทำเนียบกับกลุ่มพันธมิตรฯขู่หากรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมจะใช้อารยะขัดขืนแน่นอน ขณะที่ “จำลอง” ระบุ ไม่ได้ปิดล้อม เพียงไปแสดงพลังเพื่อยื่นหนังสือให้รัฐบาลลาออกเท่านั้น ทำให้ข้าราชการในทำเนียบ ผวาลาหยุดงานกันเป็นแถว ด้านตำรวจสั่งปิดโรงเรียนรอบทำเนียบ เพิ่มกำลังอีก 3 เท่าตัว ตั้ง จุดสกัด 5 จุด และจัดกำลังเสริมอีก 4 จุด รับมือม็อบไม่ให้เคลื่อนขบวน “สนธิ” ส่งทนายฟ้อง “พัชรวาท” ต่อศาลปกครองให้สั่งลูกน้องหยุดเปิดเพลงกวนม็อบสะพานมัฆวานฯ “เฉลิม” ยัน เพื่อน จปร.7 บอกมีคนขนอาวุธเข้ามาจริงชื่อ “ไอ้จ๊อก” ขนปืนกลจานมาก่อเหตุร่วมกับพวกทหารพราน 200 คน ในวันเดียวกับม็อบบุกทำเนียบ

ยังคงปิดสะพานมัฆวานรังสรรค์ชุมนุมต่อไปอย่างไม่มีท่าทีว่าจะยุติ

สำหรับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าดูแลรักษาความสงบป้องกันมือที่สามเข้าไปก่อความวุ่นวาย ขณะที่แกนนำพันธมิตรฯยังคงยืนยันว่าจะเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ เพื่อกดดันรัฐบาลให้ลาออก พร้อมกับใช้ระบบอารยะขัดขืนหรือดื้อแพ่งด้วยการนัดหยุดงาน ตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการ และยุให้ประชาชนไม่เสียภาษี ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบนั้น

กำลังตร.ล้อมทำเนียบคืนนี้

แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ทำเนียบฯ เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยว่า เบื้องต้นอาจจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมทำเนียบฯ ไว้ทุกประตูตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เพราะยังไม่รู้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะใช้แผนหรือเริ่มเคลื่อนขบวนเมื่อไหร่ อย่างไร และหากเกิดการชุลมุนก็จะปิดทางเข้า-ออกทันที เพราะหากเปิดประตูอาจจะทำให้เกิดปัญหาชุลมุน ม็อบอาจจะฝ่าวงล้อมเข้ามาในทำเนียบฯ ได้

เพิ่มกำลังตร.เป็น 3 เท่าตัว

รายงานข่าวแจ้งว่า การวางแผนรับมือการเคลื่อนขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยที่ประชุมได้ออกคำสั่งให้เพิ่มกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น 3 เท่าตัวในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ จากเดิมที่ใช้กำลังหมุนเวียนกันดูแลวันละ 18 กองร้อย 2,700 นาย เพิ่มเป็น 8,100 นาย และให้จัดกำลังพร้อม ณ ที่ตั้งภายในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ใช้กำลังตำรวจ บช.น. ตชด. บช.ก.สันติบาล ชุดปราบจลาจล หน่วยอรินทราช ชุดคอมมานโด ตำรวจภูธรภาค 1, 2, 7 เป็นกำลังหลัก พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์ในการควบคุมฝูงชนครบมือทั้งโล่ กระบอง ไฟฉาย เสื้อกันฝน หมวก กุญแจมือ เครื่องเปล่งเสียงชนิดพกพาหรือที่ติดมากับรถให้พร้อมใช้ตลอดเวลา ซึ่งสอดคล้องกับหลักยุทธวิธีการสลายผู้ชุมนุมสากลที่ต้องใช้กำลังเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว จากหลักสูตรการอบรมของตำรวจปราบจลาจลเกี่ยวกับ “การสลายการชุมนุม”

ตั้งจุดสกัดกั้นม็อบ 5 จุด

ทั้งนี้ที่ประชุมได้กำหนดแผนผังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดสกัดกั้นบนถนนทุกสายรอบทำเนียบรัฐบาลแบ่งเป็น 5 จุดหลัก โดยจุดแรกตรึงกำลังบริเวณศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า สะพานมัฆวานรังสรรค์ใช้กำลังหลัก 12 กองร้อย 1,800 นาย จุดที่ 2 เชิงสะพานอรทัย เลียบคลองผดุงกรุงเกษมใช้กำลังหลัก 3 กองร้อย 450 นาย จุดที่ 3 สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ฝั่งถนนพิษณุโลกต่อเนื่องถนนนครปฐม ฝั่งโรงเรียนพาณิชยการพระนครใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 3 กองร้อย 450 นาย จุดที่ 4 แยกสวนมิสกวัน ช่วงระหว่างถนนราชดำเนินตัดถนนพิษณุโลกเยื้องกับทางเข้ากระทรวงศึกษาธิการ ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 3 กองร้อย 450 นาย และจุดที่ 5 บริเวณแยก จปร. ฝั่งถนนราชดำเนินซึ่งเป็นทางออกที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ต่าง ๆ บริเวณหน้าสนามมวยราชดำเนิน ใช้กำลัง 3 กองร้อย 450 นายพร้อมอาวุธครบมือ โดยแต่ละจุดนั้นมีนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมสั่งการ

ยันไม่บุกเข้าไปในทำเนียบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าตำรวจยืนยันมีการกั้นแนวตามทางที่กลุ่มพันธมิตรจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบฯ กลุ่มพันธมิตรจะมีการแก้ไขอย่างไร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ถึงตำรวจกั้น พวกเราก็จะไป ติดอยู่ตรงไหน พวกเราก็จะหยุดอยู่ตรงจุดนั้น เพราะทำตามสถานการณ์ แล้วพวกเราก็จะไม่มีการบุกเข้าไปในทำเนียบฯ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเปิดประตูให้เข้าไป ก็ไม่เข้าไป เพราะพวกเราไม่ได้ไปบุก หรือว่ายึดทำเนียบฯ ทั้งสิ้น แต่ไปแสดงพลังเพื่อที่จะยื่นหนังสือ โดยทำตามความมุ่งหมายเดิม คือ รัฐบาลต้องออกไป แล้วต้องไม่มีความพยายามใด ๆ ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 50 อีก นอกจากนี้ พวกเราก็ไม่หวั่นว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง มันจะรุนแรงได้อย่างไร เพราะพวกเราไม่ได้เป็นคนทำให้เกิดความรุนแรง ถ้าความรุนแรงเกิดขึ้น ต่อเมื่อรัฐบาลลงมือทำ โดยใช้ตำรวจ หรือทหารเป็นเครื่องมือ

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์