เหลิม เกทับ! ปิด เอเอสทีวี ปากเปล่าได้

'เฉลิม' พลิ้วสั่งปิดเคเบิลท้องถิ่น ถ่ายทอดได้แต่ผิด กม. ยันไม่ต้องมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ชี้ไม่สกัดทำชาติเสียหาย 3 ประการ เย้ยบึ้ม 'ผู้จัดการ' แค่ลูกไม้ตื้นๆ ยันรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

กล่าวถึงกรณีมีนโยบายให้ผู้ว่าราชการทั่วประเทศตรวจสอบการถ่ายทอดเผยแพร่ภาพและข่าวการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรผ่านทางเอเอสทีวี และผู้ประกอบการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกในท้องถิ่น หรือเคเบิลทีวี ว่า ขอย้ำว่า พันธมิตรสามารถที่จะปราศรัยได้ตามระบอบประชาธิปไตย และเอเอสทีวีก็สามารถที่จะถ่ายทอดได้ เพราะศาลปกครองคุ้มครองอยู่ แต่เคเบิลทีวีที่ถ่ายทอดการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งมีพูดจาหยาบคาย โจมตีรัฐบาล และด่าทอบรรพบุรุษผู้อื่น ถือว่าทำผิดกฎหมาย


ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เมื่อมีการกระทำความผิด และยังนำมาเผยแพร่ก็ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85

ซึ่งมีใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2500 เท่ากับใช้มาแล้ว 51 ปี แต่ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้เอามาบังคับใช้ เพราะตั้งแต่มีประเทศไทยมา ไม่เคยมีกลุ่มใดที่มีการชุมนุม และปราศรัยหยาบคาย ดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย และไม่มีสถานีโทรทัศน์ช่องใดนำมาถ่ายทอดข้อความที่ผิดกฎหมาย

''ผมบอกแล้วว่า การถ่ายทอดสามารถทำได้ แต่ใครจะไปปิดไม่ได้ ไม่ได้ถอย ไม่ได้กลัว แต่ไม่เคยพูดว่าสั่งปิด เพราะไม่มีอำนาจสั่งปิด ไม่ได้ปัญญาทึบขนาดนั้น จากนี้ไปจะมีการเล่นงานอย่างหนัก เอาผิด โดยการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีกับเคเบิลทีวีที่แพร่ภาพและเสียงจากกลุ่มผู้ชุมนุม และการที่พันธมิตรไป กกต. ถ้าใครถ่ายทอดพันธมิตรทำผิด เคเบิลทีวีและเอเอสทีวีจะต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้ผู้ว่าฯจะต้องมีทีมงานบันทึกเทปการถ่ายทอด หากมีความผิดต้องดำเนินการ แต่ถ้าไม่ได้ทำผิดก็ปล่อยให้ถ่ายทอดต่อไป ซึ่งตอนนี้มีบางจังหวัดที่มีความกังวล และงดการถ่ายทอดไปแล้ว'' ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว


ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้ได้เตรียมทีมงานไว้หมดแล้ว พร้อมนักกฎหมายไว้เสริม

ขืนปล่อยไว้จะส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ 3 ประการคือ 1.ด้านเศรษฐกิจ ที่ทำให้ต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุน 2.ด้านสังคม ตำรวจไม่เป็นอันต้องทำอะไรกันแล้ว ทั้งที่การปราบปรามยาเสพติดกำลังเป็นไปด้วยดี แต่กลับต้องมาดูแลความสงบให้กับผู้ชุมนุม 3.ด้านการเมือง ที่เสียหายหนัก เพราะมีคำพูดที่เลวร้าย หยาบคาย ไม่กลัวความผิด
 

''ขอย้ำว่าคำพูดแบบนี้ถ่ายไม่ได้ ไม่ได้ข่มขู่ และไม่ได้รังแกใคร แต่งานนี้ต้องเดินหน้าสุดตัว และรัฐบาลก็ไม่ได้ใช้อำนาจมืด ไม่มีการอุ้มไม่มีการทุบตี เพียงแต่ดำเนินการตามกฎหมาย และเคเบิลทีวีต้องมีวิจารณญาณในการนำเสนอ'' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องที่หน้าจวนผู้ว่าฯไม่ให้มีการระงับสัญญาณเคเบิลทีวี

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า บอกแล้วว่าไม่มีการสั่งระงับ จะมีแต่การจับกุมดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ แต่เคเบิลทีวีสามารถถ่ายทอดได้ ดังนั้น ผู้ชุมนุมจะเรียกร้องไปทำไม ไม่มีใครไปปิดอะไรทั้งนั้น จับเสร็จก็เปิดต่อ ดังนั้น บอกได้เลยว่าเสียเวลาเปล่า ไม่ต้องมาชุมนุม
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเตือนว่าผู้ว่าฯอาจจะทำผิดกฎหมายได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มีผู้ว่าฯคนไหนเชื่อฝ่ายค้าน เพราะไม่ได้มีการปิดกั้นการสื่อสาร แต่ต้องเอาพวกที่ละเมิดอำนาจรัฐเข้าคุกเข้าตะรางบ้าง เมื่อถามว่า การที่มีผู้ประกอบการบางส่วน รวมทั้งผู้ว่าฯบางจังหวัด จะรอคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรก่อนที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ''ผมไม่ได้สั่ง คนที่พูดแบบนี้คือ คนที่ไม่เข้าใจ พวกนี้เลอะเทอะ เพราะเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีเอกสาร เป็นกฎหมายที่ดำเนินการได้อยู่แล้ว ส่วนนายกฯไม่ได้สั่งหรือกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ใช้บริการกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น''

นอกจากนี้ กรณีที่มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขว้างระเบิดปิงปองเข้าใส่สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 15 มิถุนายน 2551 นั้น 

ร.ต.อ.เฉลิมได้ตั้งข้อสังเกตว่า ''เรื่องนี้ไม่อยากจะพูดถึง แต่อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมมีระเบิดตอนกลางคืน พอตอนเช้ากลุ่มพันธมิตรก็ไป กกต. เรื่องนี้เป็นลูกไม้ตื้นๆ และเคยบอกไปแล้วว่าสายข่าวของผมรายงานว่าจะมีความรุนแรง และจะรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง''


นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า

เห็นด้วยกับ ร.ต.อ.เฉลิม ที่จะเอาผิดกับเคเบิลท้องถิ่นที่แพร่ภาพการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เนื่องจากถ้อยคำที่นำมาออกอากาศเป็นคำพูดที่หยาบคายอย่างมาก เพราะไม่ได้มีการควบคุมเหมือนสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น อย่างไรก็ตาม เห็นว่าร.ต.อ.เฉลิมต้องเอาจริงเอาจังกับเคเบิลที่ทีวีที่ยังแพร่ภาพอยู่ให้มากกว่านี้ เพราะการใช้คำพูดที่ไม่สุภาพทำให้วัฒนธรรมของชาติเสียหาย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์