องค์กรเด็ก-สตรียื่นข้อมูลทุจริตปลัด พม. ให้ ป.ป.ช.

วานนี้ (15 มิ.ย.) เครือข่ายองค์กรด้านเด็กและสตรีเพื่อติดตามตรวจสอบจริยธรรมทางเพศผู้บริหารระดับสูง

ได้จัดเสวนาหัวข้อ "ย้อนรอย...เส้นทางการตรวจสอบข้าราชการระดับสูง...
?" โดย นพ.พลเดช ปิ่นประทีป อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวง พม. ว่า ดำเนินการด้วยความชอบธรรม คณะกรรมการชุดนั้นได้สรุปว่า บางเรื่องเป็นความผิดที่ดูยากและบางเรื่องก็เพียงบกพร่องในหน้าที่ มีเพียงประเด็นการทุจริตในสำนักงานธนานุเคราะห์ที่มีการประเมินราคาทรัพย์ที่นำมาจำนำเกินจริง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนเงินถึง 40 ล้านบาท ที่คณะกรรมการฯ ระบุว่า มีมูลให้เห็นว่าเป็นการบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่  

นพ.พลเดช กล่าวต่อว่า ส่วนการโยกย้ายข้าราชการในสังกัด พม.โดยมิชอบนั้น คณะกรรมการฯ มีหลักฐานยืนยันว่า น่าจะมีการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้นด้วย


เนื่องจากข้าราชการที่ใกล้ชิดของนายวัลลภมีเงินในบัญชีเคลื่อนไหวมากผิดปกติ
ด้านนางทิชา ณ นคร ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก และเครือข่ายองค์กรด้านเด็กและสตรีเพื่อติดตามตรวจสอบจริยธรรมทางเพศผู้บริหารระดับสูงกล่าวว่า แม้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ผู้ลงนามยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายวัลลภ จะยืนยันว่า คำอุทธรณ์ของนายวัลลภฟังขึ้น แต่เครือข่ายเห็นว่าหลายประเด็นที่ถูกกล่าวหายังขับเคลื่อนต่อได้ โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรมทางเพศ รวมทั้งบางข้อมูลมีความน่าสงสัยว่า อาจจะมีการซื้อขายตำแหน่ง เช่น กรณีข้าราชการระดับ 8 ซึ่งเป็นข้าราชการธรรมดาเพียงคนเดียวแต่มีบัญชีถึง 6 บัญชีที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเป็นหลักแสนถึงหลักล้าน 


นางทิชา กล่าวว่า เครือข่ายฯ คงต้องเคลื่อนไหวต่อ โดยจะขอเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. เพื่อขอให้มีการสอบสวนนายวัลลภใหม่
 

รวมทั้งทบทวนการกลับเข้ามารับตำแหน่งปลัดกระทรวงของนายวัลลภ นอกจากนี้ จะยื่นเอกสารข้อมูลให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบถึงความไม่ชอบมาพากลทางการเงินที่มีบัญชีเคลื่อนไหวผิดปกติ  รวมทั้งมอบให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ  นำไปสู่การอภิปรายในสภาฯ รวมทั้งจะมอบข้อมูลให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย พร้อมกับเสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรภาคสังคมที่เข้มแข็ง  เพื่อเป็นแหล่งรับข้อมูลและขับเคลื่อนต่อไป  อย่างไรก็ตาม บทเรียนครั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่า อย่าหวังอะไรกับการเมืองและข้าราชการประจำ แต่ภาคสังคมต้องเข้มแข็งและร่วมกันตรวจสอบ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์