ถอนหมายจับสุนัยหมิ่นทักษิณ

ขู่ฟ้องเรียก2พันล.! "อดีตอธิบดีดีเอสไอ"ยันสู้ไม่ให้จนท.รังแกผู้อื่น พปช.ปัดปชป.ซักฟอก
ศาลสั่งเพิกถอนหมายจับ “อดีตอธิบดีดีเอสไอ” ด้าน “สุนัย มโนมัยอุดม” เผยสู้คดีเพื่อสร้างบรรทัดฐานไม่ให้ จนท.รัฐเหิมข่มเหงผู้อื่น ทนายลั่นฟ้องกลับ “สภ.วังน้อย” เรียกค่าเสียหาย 2 พันล้านแน่ หาก “ป.ป.ช.” ฟันธงตำรวจขอหมายจับโดยมิชอบ แจงยิบตะบี้ตะบันลากคอมาพิมพ์ลายนิ้วมือหวังดิสเครดิตเท่านั้น ยัน “สุนัย” พร้อมสู้คดีหมิ่นแม้ว “วิชา” คาดอนุไต่สวน ป.ป.ช. ได้ข้อสรุปในเดือนนี้ ขณะที่ “พปช.” คว่ำข้อเสนอฝ่ายค้าน ปิดประตูไม่ให้ซักฟอก-เปิดอภิปรายทั่วไป เผย “หมัก” ห้าม รมต. เข้าอวยพรวันเกิดปีที่ 73 แกนนำพูดไม่ชัดจูนคลื่นภายในสลาย “เพื่อนเนวิน” โตวันโตคืน ด้าน “ปชป.” รอคำตอบสุดท้ายก่อนยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ฝ่าย “61 ส.ว.” แบะท่าถอนญัตติหากรัฐยอมเปิดซักฟอกตัวเอง “ป.ป.ช.” รับคดี “จารุวรรณ” รวยผิดปกติ ส่วน “จักรภพ” ให้ปากคำคดีหมิ่นเบื้องสูงแล้ว คาดสำนวนถึงอัยการ 2 ก.ค.นี้

ศาลเพิกถอนหมายจับ“สุนัย”
 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ศาลจังหวัด    พระนครศรีอยุธยา ห้องพิจารณาคดี 9 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ ภาค 1 กรณีนายวิเชียร รุจิธำรงกุล  ทนายความ ของนายสุนัย มโนมัยอุดม เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้องขอให้ระงับคำสั่งศาลชั้นต้นชั่วคราวและให้เพิกถอนหมายจับนายสุนัย หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายวิเชียรได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อขอให้เพิกถอนหมายจับมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่านายสุนัยมีความจำเป็นในการเดินทางไปต่างประเทศ และเป็นข้าราชการ แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่มีเหตุที่จะถอนหมายจับ และยังคงให้ดำเนินการตามหมายจับต่อไป ทำให้นายวิเชียรได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์
 
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 มีคำวินิจฉัยเห็นว่าผู้ร้องเป็นข้าราชการ มีที่ทำงานประจำ และเคยชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนถึง 3 ครั้ง อีก ทั้งไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงมีความเห็นไม่พ้องกับศาลชั้นต้น โดยมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับนายสุนัย และเนื่องจากได้มีคำสั่งเพิกถอนแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งระงับชั่วคราว

ตร.เสียงอ่อยยันทำตามขั้นตอน
  นายวิเชียร เปิดเผยภายหลังฟังคำสั่งศาลว่า การขอเพิกถอนหมายจับนี้ไม่ได้เป็นการแสดงอิทธิพลหรืออำนาจแต่อย่างใด การดำเนินคดีนั้นตำรวจก็คงยังต้องดำเนินการต่อ เพียงแต่ต้องไปสอบสวนที่ทำงานของนายสุนัยหรือผ่านทางอัยการ ส่วนเรื่องที่ตำรวจออกหมายจับนั้นตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง และอยากให้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานของการพิจารณาตามหลักการมากกว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคล
 
ด้าน พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รอง ผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจทำตามขั้นตอนและไม่มีใครอยู่เบื้องหลังคดี แม้ศาลจะมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับก็ไม่ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สบายใจแต่อย่างใด สำหรับคดีดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ทนายเข้าแจ้งความที่ สภ.วังน้อย กล่าวโทษนายสุนัยข้อหาหมิ่นประมาทกรณีแถลงข่าวการดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกนายสุนัยให้มารับทราบข้อกล่าวหาแต่นายสุนัยปฏิเสธ จึงได้มีการขอศาลออกหมายจับดังกล่าว  

“สุนัย”ลั่นสร้างบรรทัดฐาน
 ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ท. นายสุนัย มโนมัยอุดม เลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดแถลงข่าวภายหลังศาลอุทธรณ์สั่งให้เพิกถอนหมายจับว่า สาเหตุที่ไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน เพราะเห็นโดยสุจริตว่าหมายเรียกดังกล่าวออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีเหตุที่จะขอออกหมายจับได้ ตนจึงได้ต่อสู้กับกระบวนการการใช้อำนาจรัฐที่มิชอบเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้อำนาจรัฐจะต้องเป็นไปตามกฎหมายบัญญัติ และผู้ใช้อำนาจรัฐจะใช้อำนาจกลั่นแกล้งบุคคลในทางใดทางหนึ่งมิได้ อีกทั้งศาลในฐานะองค์กรที่เป็นกลางและเป็นอิสระ ย่อมอยู่ในฐานะที่จะตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐเพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
 
เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวต่อว่า การดำเนินการของตนในวันนี้เป็นการชี้ให้สาธารณชนรับทราบถึงหลักกฎหมายดังกล่าว และเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ข้าราชการซึ่งปฏิบัติตามกฎหมายได้เกิดความมั่นใจ ตลอดจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ที่ใช้อำนาจรัฐทั้งหลายได้ตระหนัก และถือปฏิบัติเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับ สิทธิเสรีภาพของประชาชน จะต้องได้รับการปฏิบัติโดยเคร่งครัดจากผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

สะกิดบางกลุ่มยุติให้ข่าวสับสน
 นายสุนัย กล่าวอีกว่า ได้ปรากฏว่ามีบุคคลบางกลุ่มได้ออกมาแสดงความคิดเห็นข้อกฎหมายโดยไม่ถูกต้องผ่านสื่อมวลชน จึงขอให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว การแสดงความเห็นในข้อกฎหมายโดยไม่ได้ศึกษาให้ถ่องแท้หรือมีอคติ อาจทำให้สาธารณชนสับสนและสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติไม่สงบสุขจนทุกวันนี้ จากนั้นนายสุนัยได้เดินกลับไปที่ห้องทำงานโดยไม่ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมใด ๆ
 
นายณฐพร โตประยูร ทนายความของนายสุนัย แถลงต่อว่า จากนี้ไปนายสุนัยจะต้องระมัดระวังเรื่องการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เพราะกำลังจะกลับเข้ารับราชการที่ศาลยุติธรรม จึงมอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ชี้แจงแทน ส่วนคดีหมิ่นประมาทที่นายสุนัยถูกแจ้งความดำเนินคดีนั้นจะให้ต่อสู้กันในศาล นายสุนัยคงไม่ไปพบพนักงานสอบสวน เพราะได้ชี้แจงเป็นเอกสารไปครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตามการต่อสู้ให้มีการเพิกถอนหมายจับถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งอยากให้เป็นบรรทัดฐานว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิต่อสู้คดีตามข้อกฎหมาย  

ทนายแจง“สภ.วังน้อย”ดึงดัน
 ทนายความของนายสุนัย ชี้แจงว่า นายสุนัยได้มอบให้ทนายความไปพบพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เมื่อวันที่ 10 มี.ค. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย พร้อมนำสำเนาคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ได้พิพากษายกฟ้องคดีที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นฟ้องนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในความผิดฐานหมิ่นประมาท เพื่อยืนยันว่าคำกล่าวหานายสุนัยไม่เป็นความผิด
 
ต่อมาวันที่ 12 มี.ค. นายสุนัยทำหนังสือชี้แจงอีกว่า ข้อความที่กล่าวหาเป็นการ  คัดลอกมาจากหนังสือพิมพ์ซึ่งไม่ตรงกับคำให้สัมภาษณ์ แต่พนักงานสอบสวน สภ.วังน้อยยังคงออกหมายเรียก แต่นายสุนัยได้ทำหนังสือชี้แจงการไม่ปฏิบัติตามหมายเรียก โดยยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิด และเป็นเจ้าพนักงานแสดงความเห็นไปโดยสุจริต พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน เนื่องจากเป็นความผิดต่อส่วนตัว

เตรียมฟ้องกลับเรียก 2 พันล้าน
 นายณฐพร กล่าวอีกว่า จากนั้นพนัก งานสอบสวนได้ร้องขอให้ศาลออกหมายจับนายสุนัยถึง 3 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุมัติ จนกระทั่งวันที่ 3 มิ.ย. มีการร้องขอให้ศาลออกหมายจับอีกครั้ง และหลังจากศาลอนุมัติหมายจับ พนักงานสอบสวนได้แถลงข่าวเรื่องการออกหมายจับ และแจ้งผู้สื่อข่าวว่าจะมีการจับตัวนายสุนัยที่สนามบินสุวรรณภูมิทันทีที่เดินทางกลับจากต่างประเทศในวันที่ 4 มิ.ย. แต่ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายสุนัยจึงได้ประสานให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลอารักขาและนำตัวนายสุนัยออกจากสนามบิน โดยผ่านพิธีการของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามขั้นตอน จากนั้นทีมทนายจึงได้ต่อสู้คดีกระทั่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ
  
“ผมทราบมาด้วยว่ามีตำรวจระดับสูงสั่งการให้ไปขอหมาย ถ้าไม่ทำก็ออกไป ทั้งที่คดีนี้เป็นคดีมโนสาเร่ ตำรวจสามารถสอบสวนและส่งสำนวนให้อัยการได้ แต่ยังยืนยันว่าจะจับตัวนายสุนัยให้ได้ ทั้งที่การจับตัวไม่ได้เกิดประโยชน์   จะเป็นการนำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อดิสเครดิตเท่านั้น ทั้งนี้หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิสูจน์ได้ว่าเจ้าหน้าที่กระทำการโดยมิชอบ ทีมทนายจะฟ้องกลับเรียกค่าเสียหาย 2 พันล้านบาท และจะนำเงินไปช่วยเหลือมูลนิธิต่าง ๆ” ทนายความ นายสุนัยระบุ

อนุ ป.ป.ช. รับลูกเดินหน้าสอบ
 ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ได้ลงนามแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงตามที่นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้องเรียนพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับโดยมิชอบ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้
 
ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เปิดเผยด้วยว่า ในการพิจารณาจะเชิญนายสุนัยมาให้ข้อมูล พร้อมกับขอคัดคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่ขอให้เพิกถอนหมายจับนายสุนัยในคดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ มาประกอบการพิจารณาด้วย ทั้งนี้การพิจารณาคดีนี้จะใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาใช้ในการพิจารณาเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว     


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์