กกต.โชว์หลักฐานยืนยัน ชัยวัฒน์เป็นสมาชิกปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง มอบหมายให้ นางสุนทรี ไพรหิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาระบบบริหารฐานข้อมูลพรรคการเมือง

นำสื่อมวลชนเข้าชมระบบการทำงานของห้องฐานข้อมูล  หลังมีข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงทะเบียนฐานข้อมูลพรรคการเมือง กรณี นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญในคดีทุจริตเลือกตั้งที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ตกเป็นจำเลย

ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ กกต. ยืนยันว่า ในการบันทึกหรือแก้ไขข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง ต้องทำโดยพรรคการเมือง และทาง กกต.จะดำเนินการตรวจสอบหลังจากพรรคการเมืองได้ทำการบันทึก และส่งเอกสารมาให้ กกต.เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่า การเข้าออก หรือ ตรวจสอบข้อมูลทั้งระบบ มีบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น และจากการตรวจสอบล่าสุด ในบัญชีรายชื่อทั้งระบบเก่าและใหม่ พบว่า นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  โดยล่าสุดคือข้อมูล เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2550 ซึ่งลงนามรับรองความถูกต้องโดย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ กรรมการบริหารพรรค  


อย่างไรก็ตาม กกต.จะทำหนังสือไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ ให้ยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกของ นายชัยวัฒน์ ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย

ต่อมา นายศิริโชค โสภา กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงเอกสารการสังกัดพรรคการเมืองของ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ พยานในคดีทุจริตการเลือกตั้ง นายยงยุทธ ติยะไพรัช โดยระบุว่า กกต.ชี้แจงไม่ตรงประเด็น พยายามปกปิดความเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยของนายชัยวัฒน์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันมาตลอดว่า นายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2547 แต่เมื่อปี 2548 ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย แต่กลับมีการปกปิดข้อมูลดังกล่าวมาตลอด

นายศิริโชค กล่าวว่า เอกสารที่เป็นบัญชีพยานในศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ปรากฏว่าเอกสารที่ถามว่า นายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดบ้างนั้น ไม่ได้ถูกนำส่งเป็นบัญชีพยาน

ซึ่งถือเป็นการชี้นำให้ศาลเข้าใจว่าคนๆ นี้ ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย เนื่องจากการที่ กกต.ตอบว่าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ตรงนี้จึงเป็นการสมคบร่วมกันปกปิด

"พรรคประชาธิปัตย์ขอตั้งข้อสังเกตเพื่อถาม กกต.เรื่องการแก้ไขฐานข้อมูลของพรรคการเมือง เนื่องจากเรามีเอกสารที่ได้จาก กกต.เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2551 ก่อนที่จะมีการสืบพยาน ปรากฏว่าผลการตรวจสอบสถานภาพสมาชิกพรรคการเมือง มีนายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเดียว แต่เมื่อมาถึงวันที่ 9 มิ.ย.  2551 หลังจากมีการสืบพยานเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบอีกครั้งพบว่า นายชัยวัฒน์เป็นสมาชิก 2 พรรค คือพรรคพลังประชาชนด้วย จึงขอถาม กกต.ว่าคืออะไรกันแน่" นายศิริโชค กล่าวในที่สุด

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์