ไพบูลย์เสนอตั้งคนกลาง ช่วยเจรจา3ฝ่ายผ่าทางตัน

"ไพบูลย์"เสนอตั้งคนกลาง ช่วยเจรจา3ฝ่ายผ่าทางตัน

อดีตตุลาการศาลรธน.เสนอวิธีผ่าทางตันการเมืองไทย "ทักษิณ" ต้องเสียสละ เว้นวรรคทางการเมืองไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อยุติปัญหา "จวกยับ" ยืดวันเลือกตั้ง ปัญหาเกิดจากรัฐบาลเองที่คิดจะรวบรัด "ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม " เสนอตั้ง "คนกลาง "ระดับอดีตนายกฯขึ้นมาเปิดฉากเจรจา 3 ฝ่าย "ชี้" รัฐประหารเกิดขึ้นได้ยากยุคนี้เพราะไม่ได้รับการยอมรับ

วันที่ 28 ก.พ. ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารเนชั่นฯ ได้มีจัดเสวนาในหัวข้อเรื่อง "ผ่าทางตัน:วิกฤติการเมืองไทย "โดยมี ดร สุจิต บุญบงการ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์และอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดร. เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ จากสถาบันวิถีทรรศน์ และนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม เข้าร่วมเสวนา โดยมีนายประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เป็นผู้ดำเนินรายการ

ดร.สุจิต กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะมีการเลือกตั้งขึ้นหรือไม่ ซึ่งอาจไม่มีก็ได้แต่ตนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมถึงจะไม่มีการเลือกตั้ง เหตุเพราะเมื่อก่อนบ้านเมืองไม่มีปัญหาซับซ้อนอย่างนี้

"ผู้ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งขึ้น คงคิดว่าการเลือกตั้งจะช่วยคลี่คลายปัญหาที่วิกฤตของบ้านเมืองลงได้ แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้สถานการณ์ยิ่งเขม็งเกลียวขึ้นอีก อย่างไรก็ตามในสถานการณ์เช่นนี้ ผมคิดว่าหากมีการเลือกตั้งขึ้น ก็จะมีปัญหาแน่เพราะเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับการเลือกตั้งอย่างมากที่พรรคการเมืองใหญ่ ไม่ส่งคนลงสมัคร ที่จริงแล้วผมเองรู้สึกเสียดายไม่อยากให้พรรคการเมืองใหญ่บอยคอต เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่พร้อมลงคะแนนให้โดยบอกว่าไม่ชอบรัฐบาล" ดร.สุจิต กล่าว กล่าวและว่า

ที่จริงแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เกิดจากรัฐบาลโดยเฉพาะตัวผู้นำที่เป็นผู้ก่อขึ้น อันเนื่องมาจากการขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับสิงคโปร์ ทำให้คนทนไม่ไหวออกมาเคลื่อนไหว

"ดังนั้นคนที่เป็นต้นตอของปัญหาคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ต้องยอมเสียสละบ้าง ไม่ใช่เล่นเกมกันไปมาอย่างนี้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เขาจะรู้ตัวหรือไม่เพราะเขาบอกเสมอว่าเขาไม่ผิด ทำถูกกฎหมาย แต่ไม่บอกว่าถูกจริยธรรมอย่างไร ที่จริงแล้วคนระดับนี้ต้องรู้ตัวเพราะมีคนออกมาเคลื่อนไหวจำนวนมาก" สุจิต กล่าว

อดีตอาจารย์รัฐศาสตร์ กล่าวอีกว่า ตามหลักแล้วการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ต้องเกิดจากความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับสภา แต่ปัญหาที่เกิดในขณะนี้เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างนายกฯกับประชาชน ดังนั้นฝ่ายบริหารควรใช้อำนาจด้วยความระมัดระวัง

" ทางแก้ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยต้องเสียสละ ในฐานะที่เป็นผู้นำบริหารชาติบ้านเมือง ต้องสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อมีปัญหารุนแรงเกิดขึ้นพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเสียสละ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้นทั่วประเทศ" ดร.สุจิต กล่าว

ส่วนกรณีที่มีการนำมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นช่องทางในการขอนายกฯพระราชทานนั้น เขากล่าวว่า กรณีมาตรา7 จะนำมาใช้เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น จึงจะนำประเพณีที่เราใช้อยู่ซึ่งสอดคล้องกับประชาธิปไตยมาใช้ ดังนั้นหากจะมีการนำมาตรา7มาใช้ต้องคุยกันให้ถ่องแท้เสียก่อน ซึ่งตนเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เปิดช่องทางให้มีนายกฯพระราชทานได้

ส่วนกรณีที่ทางพรรคไทยรักไทยจะนำมาตรา 65 ของรัฐธรรมนูญมาต่อต้านผู้ที่คิดจะยกมาตรา 7 มาใช้นั้น ดร.สุจิต กล่าวว่า มาตรา 65 บัญญัติไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้กำลังล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น

เขายังกล่าวถึง กรณีที่จะมีการยืดวันเลือกตั้งออกไปอีก ว่า ที่รัฐบาลต้องยืดวันเลือกตั้งออกไปเพราะมีแรงต่อต้าน ซึ่งตอนแรกรัฐบาลต้องการรวบรัดให้มีการเลือกตั้ง ดังนั้นเมื่อไม่มีความคงเส้นคงวา พลิกผันได้ตลอดเวลาก็ไปเข้าล็อค ผู้ชุมนุมประท้วงที่ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้นำอีกต่อไป และหากเลื่อนวันเลือกตั้งส.ส. ไปตรงกับวันเลือกตั้งสว. ก็จะทำให้ยุ่งไปหมด รัฐบาลนี้คิดอะไรเร็ว พอเกิดปัญหาก็ไปโทษคนนั้นคนนี้

ต่อข้อถามที่ว่า จะมีโอกาสเกิดรัฐประหารหรือไม่ เขา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทหารจะไม่ออกมาอย่างเมื่อก่อน เพราะการทำรัฐประหาร ไม่ได้รับการยอมรับ

ด้าน ดร.เทียนชัย กล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ แต่สถานการณ์ขณะนี้หลายฝ่ายเผชิญหน้ากันอยู่ ดังนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ได้ก่อนวันที่ 2 เมษายนนี้ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงวันต่อวัน

"ที่จริงแล้วต้นตอของปัญหาก็อย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า คือ ระบอบทักษิณ เพราะระบอบทักษิณกับระบอบประชาธิปไตย ไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้ เพราะระบอบทักษิณ คือ การรวบอำนาจ รวบผลประโยชน์ อาจมีการโกงกิน และเผด็จการไปพร้อมกันด้วย หรือที่เรียกว่า " ขบวนการมาร์กอสประเทศไทย " ดังนั้นประเทศไทยจะปล่อยให้ขบวนการมาร์กอสประเทศไทยเดินไปเรื่อยๆ มันเป็นสิ่งซึ่งเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ที่พรรคฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมเลือกตั้ง ก็เพราะกลัวว่าจะเป็นการเข้าไปช่วยสร้าง"ขบวนการมาร์กอสประเทศไทย "ด้วย ดังนั้นพรรคฝ่ายค้านจึงต้องเลือกว่าจะเลือกขบวนการระบอบประชาธิปไตยหรือขบวนการมาร์กอสประเทศไทย" ดร.เทียนชัย กล่าว

เขากล่าวอีกว่า การยุบสภาฯของนายกฯอาจจะถูกกฎหมายหมาย แต่ผิดหลักรัฐศาสตร์ เพราะการที่จะยุบสภาได้ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างฝ่ายบริหารกับสภา

" การเมืองมีทางออกของมันอยู่แล้ว หากคิดว่าการเมืองเหมือนร่างกายของมนุษย์ ระบอบทักษิณ ก็เหมือนมะเร็งในร่างกาย ซึ่งร่างกายก็ต้องสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อต้านมะเร็ง " ดร.เทียนชัย กล่าว

เขา ยังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ เปิดเวทีการเรียนรู้ใหม่ของภาคสังคมครั้งสำคัญ ซึ่งไม่เหมือนกับเหตุการณ์14 ตุลาคม เพราะเกิดกรณี แอมเพิล ริช การโกงกิน การไปทำสัญญาพันธมิตรกับนาโต้ เอาประเทศไปผูกพันกับสหรัฐฯ นี่คือ ระบบทักษิโนมิคส์ ซึ่งประชาชนต้องเรียนรู้ และขบวนการชุมนุมของประชาชนในครั้งนี้ ได้พัฒนา เพราะมีการใช้สื่อ พิมพ์เอกสาร หนังสือแจกจ่าย ต่อผู้ชุมนุม เป็นการต่อสู้ด้วยสติปัญญา เป็นการเคลื่อนไหวโดยสันติธรรม

" พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกล้าหาญพอที่จะตอบคำถามทุกฝ่ายของสังคมและนักวิชาการ หากเคลียร์ตัวเองไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณควรตัดสินใจลาออก ต่อหน้าประชาชน หากตอบได้ก็บริหารบ้านเมืองต่อไปได้ " ดร.เทียนชัย กล่าว

เขา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการยืดวันเลือกตั้งออกไปอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนฉลาด พลิกเกมไปเรื่อยๆซึ่งไม่รู้ว่าจะไปไหนต่ออีก คนที่กำลังจะสูญเสียอำนาจ ก็จะดิ้นสุดฤทธิ์ แต่ยิ่งดิ้นมาก ยิ่งตายเร็วขึ้น ซึ่งเป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย

"มันเป็นเรื่องของอำนาจ น้ำลดตอผุด และจะมีตอผุดอีกหลายต่อ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ หมดอำนาจ ก็จะมีการนำมาไต่สวนกัน เช่น กรณีทนายสมชาย ใครเป็นคนสั่ง เรื่องทุจริตลำไยภาคเหนือ ไม่มีนักการเมืองเกี่ยวข้องเลยหรือ

ต่อข้อถามที่ว่า โอกาสที่เกิดการรัฐประหาร มีมากน้อยแค่ไหน เขา กล่าวว่า การคุ้มกันไม่ให้เกิดการรัฐประหาร ก็คือประชาชนที่ชูธง ไม่เอานายกฯทักษิณ โดยเห็นว่าขาดความชอบธรรม ดังนั้นหากเกิดการรัฐประหารขึ้น ก็เท่ากับว่าเกิดความไม่ชอบธรรมครั้งที่ 2 ขึ้น ดังนั้นสถานการณ์แบบนี้รัฐประหารเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะประชาชนจะก่อคลื่นขึ้นมาต่อต้านอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายไพบูลย์ กล่าวว่า ทางออกผ่าทางตันการเมืองในขณะนี้มี 2 ทางคือ 1.พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเว้นวรรคการเมืองชั่วคราว ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และใช้โอกาสนี้ให้คนในพรรคไทยรักไทย เข้ามาจัดการ พัฒนาพรรคแทน ซึ่งจะเป็นสร้างพรรคไทยรักไทยให้เป็นพรรคของประชาชน แล้วยอมให้การตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบความจริงตามที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ถูกกล่าวหา 2. แนวทางสันติสมานฉันท์ คือทั้ง 3ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและผู้ชุมนุมประท้วงต้องหันหน้ามาคุยกัน แล้วตั้ง "คนกลาง" ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย

"คนกลางนี้อาจจะมี 2-3 คนเป็นระดับอดีตนายกฯ ซึ่งคนกลางจะมาช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้น ลดการเผชิญหน้าเอาแพ้ชนะกันอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เมื่อมีคนกลางก็จะทำให้มีการเปิดการเจรจากันขึ้นซึ่งอาจนำมาซึ่งการยุติปัญหาลงได้โดยเป็นการชนะของทุกฝ่าย ซึ่งอาจจะใช้คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ มาทำหน้าที่เป็นคนกลางก็ได้" นายไพบูลย์ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์