ปชป.ฉะ สุชน โยนศาลคัด กกต.กลบกระแสไล่-จับตางบรถไฟฟ้าฯ

ปชป.ฉะ สุชน โยนศาลคัด กกต.กลบกระแสไล่-จับตางบรถไฟฟ้าฯ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2549 16:43 น.

ประชาธิปัตย์ อัด สุชน ดึงดันโยนเผือกร้อนให้ศาลฎีกาสรรหา กกต.ให้ครบ 5 คน หวังกลบกระแสสังคมที่กดดันให้ลาออก ย้ำไม่ร่วมปาหี่หารือเลือกตั้งรอบ 2 ตอกโฆษกรัฐบาล แก้ตัวแทน แม้ว เหน็บกลับรีเทิร์น เพราะเสียงเรียกร้องจากลิ่วล้อ ทรท.และพวกพ้องมากกว่า ขณะที่ทีมเศรษฐกิจ จับตางบประมาณหลังมีมติเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าฯ เชื่อน่าจะใช้เป็นแหล่งเงินทุนหาเสียง

วันนี้ (24 พ.ค.) นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ นายสุชน ชาลีเครือ รักษาการประธานวุฒิสภามีมติให้สรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เหลือ 2 คนส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา ว่า ท่าทีของนายสุชนเป็นการกดดันศาล เพราะที่ผ่านมาศาลฎีกาได้ปฏิเสธชัดเจนว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับ กกต.ชุดนี้ ดังนั้น จึงเป็นการโยนเผือกร้อนให้กับศาล มีเจตนาให้สังคมกดดันและเป็นการกลบกระแสในการกดดันให้ 3 กกต.ที่เหลือลาออก อย่างไรก็ตาม การทำอย่างนี้ถือว่านายสุชนวางตัวไม่เหมาะสม โดยรับใช้ระบอบทักษิณมากเกินไป เพราะหลังจากที่นายสุชนไปออกรอบตีกอล์ฟ และทำกิจกรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีพฤติกรรมที่ชัดเจนขึ้นในการรับใช้ระบอบทักษิณ จึงขอเรียกร้องให้นายสุชนวางตัวให้เหมาะสมด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.จะนัดประชุมพรรคการเมืองเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 25 พ.ค.นั้น นายเทพไท กล่าวว่า พรรคคงไม่ไปร่วมประชุม เพราะถือว่าการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต.และพรรคยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่าไม่ขัดข้องว่าวันเลือกตั้งจะเมื่อใด เพราะพร้อมตลอดเวลา แต่อยากเรียกร้องว่าหากเลื่อนวันเลือกตั้งเป็น 29 ต.ค.ก็ควรร่นเวลาวันเปิดรับสมัครให้ห่างจากวันเลือกตั้งไม่เกิน 45 วัน เพื่อปลดล็อก 90 วัน ให้โอกาส ส.ส.ย้ายพรรคได้

ส่วนการที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การกลับมาทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนนั้น นายเทพไท กล่าวว่า อยากถามว่าเป็นเสียงเรียกร้องของใครกันแน่ เป็นของ ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยและม็อบจัดตั้งที่มีข่าวว่าถูกว่าจ้างมาจากคลองเตย และกลุ่มผลประโยชน์ของคนใกล้ชิด ญาติพี่น้องของนายกฯใช่หรือไม่ โดยไม่ได้เป็นเสียงเรียกร้องจากประชาชนส่วนใหญ่ รวมทั้งที่บอกว่านายกฯจะมาแก้ปัญหาภาคใต้นั้นความจริงรัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหานี้ ซึ่งการกลับมาจะเป็นการซ้ำเติมปัญหามากยิ่งขึ้น เพราะการแก้ปัญหาภาคใต้จะแก้ได้โดยไม่มีนายกฯชื่อทักษิณ

ส่วนที่อ้างว่ากลับมาเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดนั้น ปรากฏว่า ผลสำรวจของเอแบคโพลล์ ระบุว่า มียาเสพติดเพิ่มขึ้น 700% แสดงว่าที่ผ่านมารัฐบาลสร้างภาพว่าปราบยาเสพติดในขณะที่ยาเสพติดไม่ได้ลดลงเลย อย่างไรก็ตาม หากนายกฯจะเข้ามาแก้ปัญหายาเสพติดจริงก็อย่าใช้เงื่อนไขตรงนี้ไปฆ่าตัดตอนคู่แข่งทางการเมืองหรือหัวคะแนนของพรรคคู่แข่งหรือคนที่ไม่เห็นด้วยทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย นอกจากนี้ ข้ออ้างที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น ความจริงเป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของพรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยดูจากการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์หลายโครงการ และต้องยอมรับว่า ของแพงและน้ำมันแพงเกิดจากนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ที่ดำเนินการมาไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการอนุมัติงบประมาณที่เน้นแต่การหาเสียง นายเทพไท กล่าว

ขณะที่ นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ รองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง สีน้ำเงิน และสีม่วง โดยที่วิธีการประมูลยังเป็นแบบเดิม คือ เปิดกว้างการลงทุนว่า ตนเห็นด้วยที่จะมีการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าตามลำดับความสำคัญ และความพร้อมของแต่ละโครงการ แต่ไม่เห็นด้วยที่กำหนดเงื่อนไขในการลงทุนว่าไม่มีเงื่อนไขในการลงทุน แม้จะดูเหมือนเป็นการเปิดกว้างในการลงทุนเพื่อให้ได้รูปแบบที่ดีที่สุด แต่ก็สุ่มเสี่ยงต่อการคอร์รัปชัน เพราะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรัฐบาล ซึ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่งโดยเฉพาะรัฐบาลยังอยู่ระหว่างรักษาการ ดังนั้น หากไม่จำเป็น รัฐบาลไม่ควรอนุมัติโครงการที่สร้างภาระผูกพัน รวมทั้งขณะนี้กลไกตรวจสอบฝ่ายบริหารยังไม่สามารถทำงานได้ เพราะยังไม่มีสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภาก็อยู่ในช่วงรักษาการ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติก็อยู่ระหว่างการสรรหา

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนให้มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน และทุกขั้นตอนในการประมูลและการดำเนินการมีความโปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งรักษาการนายกรัฐมนตรีไม่ควรเป็นประธานในการประมูลโครงการ เนื่องจากตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เองยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยของสังคมต่อกรณีผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆ ได้ ซึ่งการนั่งเป็นประธานการประมูลจะทำให้สังคมขาดความเชื่อมั่นและคลางแคลงใจต่อการตัดสินใจของนายกฯ นอกจากนี้ รัฐบาลควรเปิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพิจารณา เพราะเมื่อรัฐบาลบอกว่าโครงการดังกล่าวมีความพร้อม แต่กลับไม่มีการเผยแพร่ผลการศึกษา ทำให้ประชาชน นักวิชาการและสื่อมวลชนไม่สามารถมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเสนอแนะต่อโครงการดังกล่าวเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

ผมอยากเห็นการลงทุนโครงการดังกล่าวทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยเร่งลงทุนในช่วงใกล้จะมีการเลือกตั้งเพื่อสร้างคะแนนเสียง รวมถึงใช้เป็นแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ นายเกรียงศักดิ์ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์