ธีรยุทธ ชี้สภาวะ 5 เสื่อม นำประเทศถลำสู่วิกฤติ

นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)

กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน
วันสัญญา ธรรมศักดิ์ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วันนี้ (5 เม.ย.) เรื่อง ตุลาการภิวัติน์กับการรอมชอมในสังคมไทยว่า กระบวนการตุลาการภิวัตน์จะขยายพื้นที่ความยุติธรรมให้กว้างขึ้นและจะช่วยการรอมชอมระหว่างสิทธิ  ที่เกิดความขัดแย้งกัน เพื่อรักษาหลักความเสมอภาคเท่าเทียมกันให้กับประชาชนทุกคน ขณะเดียวกันก็จะเป็นสถาบันที่ตรวจสอบกำกับฝ่ายบริหารที่มีการขยายบทบาทของตัวเองกว้างขวาง ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งกับสิทธิประโยชน์ของประชาชนในกลุ่มต่าง ๆ จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายตุลาการที่มีอำนาจในการตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายในทุกมิติ

อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ. กล่าวถึงความสัมพันธ์ของหลักนิติรัฐและหลักประชาธิปไตยว่า  

โลกประกอบด้วยหลายส่วนที่เชื่อมโยง มีความสัมพันธ์ทัดเทียมกัน ดังนั้น ต้องเคารพทุกส่วนในสังคมจึงจะช่วยประคองตัวไปสู่ความสุข ประกอบด้วย หลักการปกครองโดยหลักกฎหมาย หลักประชาธิปไตยของประชาชน หลักสิทธิต่าง ๆ ของประชาชน หลักการตรวจสอบโดยตุลาการ หลักการอดทนอดกลั้น และหลักการเอื้ออาทรต่อกัน

ปัจจุบันคนไทยกำลังเข้าสู่สภาวะ 5 เสื่อม หรือ ปัญจอันตรธาน ทั้งความสามัคคีในบ้านเมืองเสื่อม โดยเฉพาะในประชาชนระดับรากหญ้าที่เริ่มเกิดปัญหาระหว่างกลุ่มที่นิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับชนชั้นกลาง ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าว จะดำรงอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อย 1-2 สมัยเลือกตั้ง รวมถึงภาคการเมืองเสื่อม มีการใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมของพรรคการเมือง และเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ทำให้รัฐสภา หรือ การเลือกตั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และนำไปสู่ความรุนแรง คุณธรรมเสื่อมที่คนมองการทุจริตเป็นเรื่องปกติธรรมดา โกงได้แต่ขอให้ทำงาน อมาตยาธิปไตยเสื่อม มีความคิดล้าหลัง ไม่สามารถบริหารประเทศได้ และสถาบันวิชาการและสื่อเสื่อม มีการแตกแยกทางความคิดเห็นสูง การถกเถียงด้วยเหตุผลไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ประเทศไทยเริ่มถลำเข้าสู่วิกฤติตีบตัน ไร้ทางออก ประเทศไทยจึงเหลือเพียงสถาบันเดียว คือ ศาลยุติธรรม ที่จะมาช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น
นายธีรยุทธ กล่าว

นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า การถลำเข้าสู่วิกฤติตีบตัน เป็นเพราะคนไทยไม่มีกลไกที่ดีในการแก้ไขความขัดแย้ง นอกจากนี้ สถานการณ์ยังถูกซ้ำเติมจากการรีบร้อนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงอาจจะมีโอกาสนำไปสู่การชุมนุมเผชิญหน้าวัดพลังของแต่ละกลุ่ม การปะทุของสถานการณ์จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และขยายผลลุกลามได้ง่าย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์