ชุมพล แนะให้ตั้งสติ จุดพลุแก้รธน.มาตรา237

นายชุมพล ศิลปอาชา อดีตสมาชิกวุฒิสภา กทม.ปี 2543  กล่าววันนี้ (24 มี.ค.) ถึงความพยายามในแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่า

ประเด็นของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมา พุ่งเป้าไปจัดการคนหนึ่งคน แต่กระทบคนจำนวน 65 ล้านคน แทนที่การพัฒนาประชาธิปไตยจะเดินหน้า ต่อยอดขึ้นไป กลับกลายเป็นถอยกลับสู่อดีต  ซึ่งไม่ควร โดยเฉพาะวุฒิสภา โครงสร้างปี 2540 คิดกันมานาน กว่าจะยุติ ดีพอแล้ว แต่พฤติกรรมของคน ที่ไปอยู่ในโครงสร้างต้องแก้ไขกันไป  ไม่ใช่รื้อทิ้งหมด แล้วไปเอาลูกผสมมาใช้ ไม่น่าจะถูก  แถมห้ามลูกห้ามเมีย เอาภาพพฤติกรรมไปเขียนรัฐธรรมนูญ กีดกันนักการเมืองบางคน
  

จำนวนส.ว.ยุคผม 200 คน ถือว่ามากแล้ว แต่ลดเหลือ 150 คน ยิ่งไปกันใหญ่ ยิ่งแยกเป็น 2 ระบบ ผมว่า ทำให้จำนวนมีปัญหาต่อไป ยิ่งกว่ารุ่นผม ขณะที่ ส.ส.ตอนนี้ยังไม่ออกฤทธิ์ออกเดช ลงมติได้โดยอิสระทุกเรื่อง ไม่ต้องฟังมติพรรค เขียนเปิดช่อง
นายชุมพล กล่าว และว่า ควรตั้งสติ แยกการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกจากการยุบพรรค 
 

อดีต ส.ว.กทม. กล่าวอีกว่า การที่เราจะแก้ไขอะไร ไม่มีปัญหา จะไม่ทำกัน แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นหาแนวร่วม


อย่าไปแก้เพื่อ มาตรา
237 เท่านั้น ไม่ใช่ มาตรา 237 แค่เป็นจุดเริ่มต้นให้เราแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ตอนนี้อย่างไปนึกว่า มีคนจุดพลุขึ้นมา แล้วบางคนอาจพูดเข้มไปว่า จะแก้มาตราเดียวให้จบไปเร็ว ๆ ทำอย่างนั้นไม่ได้ กฎหมายเวลานี้มีอยู่อย่างไร ต้องเคารพก่อน ดุลยพินิจของ กกต.มีอย่างไร ต้องเคารพก่อน เดินไปตามระบบ ปัญหา 237 เป็นปัญหาดุลยพินิจ ไม่ใช่ปัญหาเรื่องของกฎหมาย 

 
มาตรา 237 เขียนถูกแล้ว โดยเฉพาะวรรค 1 ลงโทษตัวผู้สมัคร วรรค 2 ลงโทษพรรคที่มีส่วนรู้เห็น  ซึ่งเป็นดุลยพินิจ ที่กกต.ใช้นั้น ไม่ถูก เมื่อเป็นอำนาจของเขา เราทำอะไรไม่ได้ นายชุมพล กล่าว และว่า การแก้มาตรา 237 เป็นแค่ประเด็นหนึ่ง ทั้งนี้ พรรคการเมือง ในต่างประเทศเขาไม่ยุบกัน  การยุบพรรคการเมืองง่าย ๆ แบบนี้ไม่มี หากก้าวไปไกลกว่านี้ มาตรานี้ตัดได้ตัดไป แล้วมาลงโทษคนกระทำความผิดเท่านั้น อย่าลงโทษพรรค พรรคพูดไม่ได้

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์