กกต.ลั่นไม่หวั่นถูก ยงยุทธ แจ้งข้อหา

วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าแจ้งความต่อกองปราบปรามว่า กกต. 3 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานกระทำการเพื่อกลั่นแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษทางอาญา ว่า กกต.ได้ทำตามหน้าที่ตามปกติพิจารณาตามพยานหลักฐาน ส่วนตัวไม่ได้หวั่นไหวและไม่ทราบว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ แต่ขอเรียนว่า กกต.ทำตามอำนาจหน้าที่ด้วยความสุจริต เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเรื่องเกมการเมืองหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เรื่องการแจ้งความอาจทำให้คนทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่า อยากจะแจ้งความคดีอาญากับใครก็สามารถแจ้งได้ ซึ่งความจริงไม่เป็นอย่างนั้น 

“ยงยุทธ” ฟ้อง กกต.เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี 

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายยงยุทธ ที่ต้องการจะปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของตัวเอง ทางพรรคพลังประชาชนไม่ได้ เกี่ยวข้องด้วยเป็นดุลยพินิจของนายยงยุทธ ซึ่งมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ดำเนินการฟ้องไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะการพิจารณาตัดสินคดีนอมินีของพรรคพลังประชาชน เพราะ กกต.มีอิสระในการทำหน้าที่ไม่มีใครไปกดดันได้ ซึ่ง กกต.ทุกคนต่างก็มีวุฒิภาวะ เป็นอดีตตุลาการอาวุโส มีอิสระมีสิทธิเสรีภาพของตัวเองไม่มีใครไปกดดันได้ คดีทุกอย่างก็พิจารณาไปตามหลักฐานและข้อกฎหมาย 


ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นายถวิล อินทรักษา ผู้รับมอบอำนาจจาก กกต.นำเอกสารพยานหลักฐานจำนวน 2 ชุด ชุดละ 3 แฟ้มใหญ่ ความหนากว่า 1 พันหน้า

พร้อมสำนวนคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ วินิจฉัยและมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 53 (2) และ 57 เมื่อถูกกล่าวหาว่า ทุจริตการเลือกตั้ง จ.เชียงราย ด้วยการแจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่เป็นหัวคะแนนของนายยงยุทธ แจกเงินซื้อเสียงเพื่อให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชาชน

โดยศาลรับคำร้องไว้เป็นคดีดำหมายเลข ลต.38/2551 และนัดฟังคำสั่งในวันที่ 20 มี.ค.51 เวลา 13.30 น.

ทั้งนี้ เอกสารที่ได้ยื่นให้ศาลฎีกาพิจารณาส่วนใหญ่ เป็นคำให้การของพยานที่เข้าให้การกับอนุ กกต. รวมทั้ง ความเห็นของอนุ กกต.และมติของ กกต.ชุดใหญ่ที่มีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีพยานบุคคลกว่า 50 ปาก ที่พร้อมเข้าเบิกความในชั้นไต่สวน ส่วนศาลจะพิจารณาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่นั้นไม่สามารถตอบได้ หากศาลมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว นายยงยุทธต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์