เด็ก ทรท.มาแปลก การันตี 3 กกต.ลาออกแน่ หลังเคลียร์งานเสร็จ

เด็ก ทรท.มาแปลก การันตี 3 กกต.ลาออกแน่ หลังเคลียร์งานเสร็จ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2549 15:12 น.

วัฒนา เซ่งไพเราะ กลับมาอีกครั้ง แฉ ปชป.ขูดรีดข้าราชการ กทม.ขายโต๊ะระดมทุนรับมือเลือกตั้งใหม่ จี้ อภิรักษ์ ชี้แจง พร้อมยุ ปชช.ต้านไม่เลือกผู้สมัคร ปชป.หากยังเมินเฉย กลับลำเชื่อ กกต.เคลียร์งานเสร็จลาออกตามมติ 3 ศาลแน่ แถมไม่วายติงศาลหวั่นไม่เป็นกลาง

วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.นายวัฒนา เซ่งไพเราะ ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย แถลงข่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติที่จะจัดงานระดมทุนในวันที่ 27 พ.ค.เพื่อนำมาใช้ในการเลือกตั้งใหม่ ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะขายโต๊ะในราคาโต๊ะละ 5 แสนบาท จำนวน 600 โต๊ะ เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินการทางการเมือง ถ้าไปขายให้นักธุรกิจตนคงไม่ว่าอะไร แต่ตอนนี้มีข้าราชการหลายคนใน กทม.ได้โทรศัพท์มาขอความเป็นธรรมกับตน ว่า มีการบังคับให้ข้าราชการในสังกัด กทม.และผู้อำนวยการเขตต่างๆ 25 เขต เขตละ 1 โต๊ะ สำนักต่างๆ อีก 14 สำนัก 20 โต๊ะ โดยมีคนของพรรคประชาธิปัตย์นำไปมอบให้ผู้อำนวยการเขตต่างๆ แล้วระบุว่า ผู้ว่าฯกทม.ฝากมา ทำให้ข้าราชการเหล่านั้นไม่สามารถปฏิเสธได้

นายวัฒนา กล่าวอีกว่า มันไม่เหมาะสมนักในการบังคับขายโต๊ะให้กับข้าราชการ และนำเงินไปใช้เล่นการเมือง ในอดีต ขณะที่ตนเป็นกรรมาธิการอยู่ในกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร ก็มีการบังคับขายโต๊ะงานการกุศลของตำรวจ ให้กับข้าราชการตำรวจ และตนได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งตอนนั้นประธานกรรมาธิการตำรวจก็เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนคิดว่าวิธีการแบบนี้น่าจะเลิกได้แล้ว

นายวัฒนา กล่าวว่า ถ้าเรื่องที่ตนออกมาเรียกร้องนี้ไม่เป็นความจริง ขอให้ผู้ว่าฯกทม.ออกมาเคลื่อนไหว ให้มีการหาข้อเท็จจริง และประกาศไปเลยว่าข้าราชการ กทม.ไม่ต้องซื้อโต๊ะในงานระดมทุนของพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ ตนอยากให้ผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ออกมาป้องปรามคนของตัวเองด้วยว่าอย่าทำแบบนี้ เพราะการบังคับขายให้ข้าราชการ ก็คือ การไปไถข้าราชการนั่นเอง แต่ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาจากทางฟากของพรรคประชาธิปัตย์ตนจะถือว่าเรื่องที่ตนได้รับทราบมาเป็นความจริง และจะเรียกร้องให้ข้าราชการและประชาชนใน กทม.ร่วมกันต่อต้านระบบประชาธิปัตย์ ด้วยการไม่เลือกพรรค และผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งใน กทม.และการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ และลงโทษเป็นการเตือนถึงพฤติกรรมดังกล่าวในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ในวันที่ 23 ก.ค.นี้

อดีต ส.ส.กทม.กล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการกองทัพเรือเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เหลืออีก 3 คนเสียสละลาออกจากตำแหน่งตามมติของ 3 ศาล ว่า เป็นสิทธิของผู้บัญชาการกองทัพเรือที่จะแสดงความคิดเห็น แต่ กกต.ก็ได้แสดงออกถึงแนวทางที่ชัดเจนแล้วว่าจะลาออกจากตำแหน่ง แต่ขอเคลียร์งานในคดีที่ได้วินิจฉัยไว้แล้วให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งเราก็น่าที่จะให้โอกาส กกต.ได้สะสางงานที่ค้างอยู่ เพราะตนเชื่อว่า กกต.แต่ละคนก็มีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่คงไม่อยากให้ใครเข้ามาจัดการงานที่ตัวเองทำคาราคาซังไว้และยังไม่เรียบร้อย

นายวัฒนา กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนได้ฟังการแถลงของนายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา ก็สบายใจมากขึ้น เพราะได้ระบุชัดเจนว่า จะรอจนกว่า กกต.จะสะสางเสร็จและลาออก เพราะวันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า กกต.ที่เหลืออยู่จะต้องลาออก และศาลจะต้องเข้ามาจัดการแทน กกต.อย่างแน่นอน

ผมคิดว่า กกต.น่าจะอยู่เพียงแค่เคลียร์งานที่ได้วินิจฉัยไปแล้วเท่านั้น ส่วนเรื่องใหม่ที่ยังไม่ได้วินิจฉัย กกต.ชุดนี้ก็ยังไม่ควรทำ ซึ่งรวมไปถึงเรื่องผลสอบของอนุกรรมการการเลือกตั้งที่ระบุว่าแกนนำพรรคไทยรักไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง กกต.ชุดนี้ก็คงทำได้แค่สั่งให้อนุกรรมการไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนการวินิจฉัยก็ควรปล่อยให้ กกต.ชุดใหม่ เข้ามาวินิจฉัยจะดีกว่า เพราะเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นต้องยุบพรรคไทยรักไทย หรือยุบพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น จึงควรปล่อยให้ กกต.ชุดใหม่ที่เข้ามา ซึ่งน่าจะได้รับความน่าเชื่อถือจากสังคมมากกว่ามาเป็นผู้จัดการ อดีต ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย กล่าว

นายวัฒนา ยังกล่าวอีกว่า ตอนแรกพรรคไทยรักไทยไม่สบายใจที่ท่านวิรัช (วิรัช ชินวนิจกุล เลขานุการศาลฎีกา) ออกมาบอกว่า 3 ศาล ออกมาเพื่อคน 60 ล้านคน ไม่ใช่คน 16 ล้านคน หรือ 19 ล้านคน เพราะในทางการเมืองตัวเลข 16 ล้าน และ 19 ล้านนั้น เป็นคะแนนที่ประชาชนเลือกพรรคไทยรักไทยเข้ามา ฟังแล้วเป็นห่วงเรื่องความเป็นกลาง เรามองว่า ตอนนี้ศาลเหมือนพ่อ เห็นลูกๆ ทะเลาะกัน ก็เข้ามาช่วยให้เรื่องมันยุติ เราก็อยากเห็นพ่อเป็นกลาง และตัดสินให้เรื่องยุติได้โดยที่ลูกไม่เกลียดกัน เพราะตอนนี้แม้กระทั่งภาคประชาชนก็เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันแล้ว และตอนนี้พรรคไทยรักไทยก็สบายใจขึ้น เมื่อได้ยินเสียงของศาลที่ออกมาห้ามปรามเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ให้ชุมนุมและเดินขบวนไปให้กำลังใจศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์