ปชป.แฉเว็บไซต์รัฐบาลเชลียร์ แม้ว ลงผลงานแหกตา ปชช.

ปชป.แฉเว็บไซต์รัฐบาลเชลียร์ แม้ว ลงผลงานแหกตา ปชช.

นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2549 20:34 น.

ปชป.แฉเว็บไซต์รัฐบาลเชลียร์ แม้ว ลงผลงานเยือนต่างประเทศ ทั้งที่ได้พบแค่15 นาที ถ่ายรูปมาลงแหกตา ปชช.ชี้ไม่มีที่ไหนเขาเอามาเป็นเรื่องเป็นราว ระบุ สร้างความกระอักกระอ่วนต่อทูตหลายประเทศ แถมกล่าวหาอดีต 3 พรรคฝ่ายค้านหนุนเคลื่อนไหวนอกสภา วอนรัฐอย่าบิดเบือนข้อมูล พร้อมติงตั้งพรรคมุสลิมในไทยเสี่ยงต่อความแตกแยกในแผ่นดิน

วันนี้ (17 พ.ค.) นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีการลงบทความในเว็บไซต์ของทำเนียบรัฐบาลเกี่ยวกับการเดินทางไปเยือนต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมกับระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวนอกสภา ว่า การชี้แจงดังกล่าวควรเป็นอย่างระมัดระวังเพราะอาจก่อให้เกิดความสับสน เพราะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีที่มาและเหตุผล หากไม่มีการเข้าไปก้าวก่ายกระบวนการเลือกตั้งและการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและหน่วยงานผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบไม่ถูกก้าวก่าย หรือถูกเข้าไปบิดเบือนเจตนารมณ์ ปัญหาก็คงไม่ยืดเยื้อเรื้อรังมาถึงปัจจุบัน การไปชี้แจงเชิงกล่าวหาว่าฝ่ายต่างๆ อยู่นอกเหนือกกฎหมายและฝ่ายค้านมีส่วนร่วมด้วยนั้น ตนคิดว่าต่างประเทศก็เฝ้ามองประเทศไทยอยู่ โดยเขาก็มีแหล่งข่าวมีสถานเอกอัครราชทูตของเขาอยู่ย่อมเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ฉะนั้น แทนที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น อาจจะกลายเป็นสร้างความสับสน และลดความน่าเชื่อถือของไทยลง การพูดข้างเดียวหรือชี้แจงฝ่ายเดียวเป็นความพยายามของฝ่ายที่ไม่เคารพในขั้นตอนครรลองของประชาธิปไตย และผลของการเลือกตั้ง

การระบุว่า การเดินทางของนายกฯเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เป็นความสำเร็จนั้น ก็เป็นการให้ข้อมูลด้านเดียว เหมือนกับนักท่องเที่ยวที่ได้ของที่ระลึกแล้วเอารูปมาลง ทั้งที่เป็นการพบปะภายในซึ่งบางรายเป็นการพบปะเพียง 15 นาที เมื่อพบกันก็ถ่ายรูปเก็บมา จะสังเกตได้ว่า ไม่มีประเทศไหนจะแถลงข่าวเป็นเรื่องราว กว่าเขาจะให้การต้อนรับเรา และกว่าจะตกลงกันได้ต้องใช้เวลายืดเยื้อพอสมควร เพราะเอกอัครราชทูตของเขาค่อนข้างกระอักกระอ่วนใจเพราะไม่ทราบว่าจะต้อนรับในฐานะอะไร ซึ่งไม่แน่ใจว่า การไปชี้แจงนั้นภาพครบหรือไม่และมีการติติงกันอย่างไร มีใครตั้งข้อสังเกตหรือเรียกร้องให้มีการตรวจสอบว่ากระบวนการทั้งหมดถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือถูกต้องตามกระบวนการประชาธิปไตยหรือไม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าว

นายสุรินทร์ กล่าวว่า การกล่าวหาว่าฝ่ายค้านให้การสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวนอกสภานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะกลุ่มดังกล่าวเป็นการรวมตัวของคนจากหลายฝ่ายที่ได้ตั้งคำถามต่อพฤติกรรมของหัวหน้ารัฐบาลเอง และไม่ยอมรับการจัดการทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่เป็นการรวมตัวกันเพื่อบีบคั้น หรือกดดันใดๆ ซึ่งหากยังมีสภาเราก็จะดำเนินการได้ตามกรอบ แต่เมื่อไม่มีสภาเราจะไปขัดขวางคนอื่นที่ดำเนินการแสดงประชามติ หรือแสดงความคิดเห็นไม่ได้ ดังนั้น การชี้แจงของรัฐบาลในครั้งนี้ถือเป็นการใส่ร้ายและพูดไม่ครบถ้วนไม่มีการอธิบายว่าที่มาของการเลือกตั้งเป็นอย่างไร จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลระมัดระวังการให้ข้อมูลกับต่างชาติและอย่าบิดเบือน อย่าพยายามที่จะโน้มน้าวไปในทิศทางที่เห็นว่าในประเทศไทยทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย ส่วนพวกที่ไม่เห็นด้วยเป็นพวกอยากทำลายประชาธิปไตย คำนั้นไม่ควรไม่จะเกิดขึ้น เพราะทุกต้องการประชาธิปไตยที่โปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม
ทั้งนี้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวการจัดตั้งพรรคร่วมมุสลิมในประเทศไทย ว่า การแบ่งแยกเป็นพรรคที่อยู่บนพื้นฐานของการแตกต่างทางด้านศาสนา วัฒนธรรมนั้น จะนำไปสู่ความแบ่งแยกกันมากขึ้น ซึ่งตนคิดว่า การที่เราอยู่ร่วมกันแล้วพยายามใช้กลไกที่ครอบคลุมที่มีพื้นที่ให้ในเรื่องนโยบายและประเด็นที่สนใจ และมีความห่วงกังวลในกรอบของพรรคการเมืองใหญ่ๆ ที่มีฐานอยู่ทั่วประเทศจะดีกว่าการที่จะไปแยกเป็นภาคส่วนเล็กๆ มีพื้นที่เฉพาะส่วนและมีสมาชิกที่แยกออกค่อนข้างจะเด็ดขาด แม้ในทางทฤษฎีจะบอกว่าเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายรวมถึงพุทธศาสนิกชนร่วมได้ด้วยก็น่าเป็นห่วงว่าอาจนำไปสู่ความแบ่งแยกอย่างชัดเจน และขัดแย้งต่อความพยายามที่จะปรองดองที่จะให้มีความร่วมมือกันแลกเปลี่ยนปรึกษาหารือกัน และพยายามมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาร่วมกัน

ผมคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ประชาชนไม่มีส่วนร่วม และยังมีการรวบยอดอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ก่อนหน้านี้ มีพื้นที่เวทีให้กับประชาชนชาวมุสลิมและประชาชนใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ที่ผ่านมาถูกปิดกั้น ยุบเลิกไป คนเหล่านี้จึงไม่มีส่วนร่วม เมื่อเป็นเช่นนั้นจะไปหาทางออกแยกพรรคออกไปเป็นเฉพาะศาสนิกดีหรือไม่ ผมคิดว่าจะทำให้ปัญหาแหลมคมยิ่งขึ้น ทำให้มีการแยกกันชัดเจนยิ่งขึ้นทำให้ไๆม่มีโอกาสมีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนพึ่งพาอาศัยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นหนทางปรองดองกันในสังคมที่ดีที่สุด นายสุรินทร์กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์