บุญรอด เคลียร์ปมกฎหมายร้อน

ในภาวะที่กองทัพพยายามวางจุดยืนไม่ให้ถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง ประกอบกับ พ.ร.บ.การจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมเพิ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชนกำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า รัฐบาลใหม่กับกองทัพยังมีทัศนคติที่ไม่กลมกลืนกันนั้น ล่าสุดนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และว่าที่ รมว.กลาโหม ได้ถือโอกาสที่ไปร่วมพิธีวางพวงมาลาวันทหารผ่านศึก พูดคุยกับ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหมในรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ ปรับความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม นอกจากนี้นายสมัครยังเปิดเผยถึงงาน 3 โครงการแรกที่จะทำหลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 08.30 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์วางพวงมาลาเนื่องในวันทหารผ่านศึก โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปร่วมวางพวงมาลาด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายสมัครรอ พล.อ. พิจิตรเดินทางมาที่งาน

โดยมี พล.อ.บุญรอดนั่งเคียงข้างอยู่ภายในเต็นท์ พล.อ.บุญรอดได้ชี้แจงกับนายสมัครถึงกรณีที่ พ.ร.บ.การจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลใหม่กำลังจะเข้ามาบริหารงานว่า เป็นเรื่องบังเอิญที่ พ.ร.บ. ดังกล่าวประกาศใช้ในช่วงนี้ เพราะกระทรวงกลาโหมดำเนินการมานานแล้ว เรื่องผ่านหลายขั้นตอนจนกระทั่งมาเสร็จพอดี ขณะที่นายสมัครกล่าวตอบว่า ตนไม่มีอะไร ตั้งใจ เข้ามาทำงานในกระทรวงกลาโหม ก็ขอให้ ผบ.เหล่าทัพว่ากันไปเองตามขั้นตอน จะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวด้วย จะขอดูเฉพาะภาพรวมของกองทัพ และขอวางตัวเป็นกลาง เรื่องนี้ไม่มีปัญหา เข้าใจดี ขอให้สบายใจได้ 

ภายหลังเสร็จพิธี พล.อ.บุญรอดให้สัมภาษณ์ว่า ได้คุยกับนายสมัครจนเป็นที่เข้าใจแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นระเบียบของกระทรวงกลาโหมที่เตรียมการมาหลายปี

โดย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด เป็นผู้ดำเนินการ ผ่านขั้นตอนต่างๆขึ้นมาถึงตนเพื่อนำเข้าสู่ ที่ประชุมสภากลาโหม ก่อนจะส่งไป ครม.นำเข้าพิจารณาใน สนช. และผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการการทหารก่อนจะออกมาเป็นกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการโยกย้ายที่ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญที่ว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้ การเมืองเข้ามาแทรกแซง จึงได้เขียนลงไปใน พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างชัดเจนว่าจะต้องมีคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาตามลำดับ ก่อนจะมาถึงกระทรวงกลาโหมก็มีคณะกรรมการพิจารณาอีก ถึงจะส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา โดยมี รมว.กลาโหมเป็นประธาน มี ผบ.เห ล่าทัพเป็นกรรมการ และปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นกรรมการและเลขานุการ 

ต่อข้อถามว่า นายสมัครอาจมองว่าเป็นการจงใจที่กองทัพออกกฎหมายมาในช่วงนี้พอดี พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า นายสมัครเข้าใจว่าเป็นเหตุบังเอิญ และตอนที่กองทัพดำเนินการก็ไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ฉะนั้นจึงไม่ใช่การ 

เมื่อถามว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้สามารถแก้ไขปัญหาการล้วงลูกแต่งตั้งโยกย้ายทหารในอนาคตใช่หรือไม่

พล.อ.บุญรอดตอบว่า แน่นอน เพราะในอดีตมีคำสั่งให้กรรมการพิจารณา แต่การปฏิบัติไม่ได้ปฏิบัติไปตามที่ต้องการ ทำให้มีเหตุเกิดขึ้น มีการโยกย้ายข้ามกัน หรือบางครั้งเมื่อส่งมาถึงกระทรวงกลาโหม พอเสนอไปถึงนายกรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนกันอุตลุด ดังนั้น พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาเพื่อป้องกันการปรับแก้รายชื่อนายทหาร เมื่อถามว่า หากจะมีการแก้ไข นายกฯสามารถทำได้หรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า นายกฯไม่มีอำนาจในการแก้ไข เพราะเมื่อผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการแล้ว จะต้องไม่มีการแก้ไข ทั้งนี้ นายสมัครมีเจตนาดีอยู่แล้วที่จะไม่เข้าไปแทรกแซง 

เมื่อถามว่า เป็นห่วง รมว.กลาโหมที่มาจากพลเรือนหรือไม่

พล.อ.บุญรอดตอบว่า นายสมัครเป็นคนเข้าใจง่าย การที่เข้ามาเป็น รมว.กลาโหม เพราะไม่อยากให้มีปัญหารุ่นพี่รุ่นน้องในกองทัพ ก็ต้องมานั่งเอง โดยมีเจตนาที่ไม่ แทรกแซงกองทัพ เพราะฉะนั้น เท่าที่คุยกันก็ถือว่าธรรมดา ต่างเข้าใจเจตนาซึ่งกันและกัน ส่วนการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่นั้น ต้องให้โอกาส จะเป็นกำลังใจเพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า