เทือก ออกอาการฉุน ชท.-พผ.พลิ้วหนี

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย ระบุว่า พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า ต้องไปดูว่าเขาให้เหตุผลอย่างไร แม้กติกาเดิมคือใคร ที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง มีสิทธิ์ที่จะรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่เราไม่จำเป็นต้องนำมาพูดถึงก็ได้ เพราะตามเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญระบุว่า การเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องเลือกด้วยเสียงของ ส.ส.ข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หมายความว่า ใครรวบเสียงข้างมากได้ก็ตั้งรัฐบาลได้ แต่เมื่อพรรคพลังประชาชนอ้างว่า ได้รับเลือกตั้งมามากกว่าพรรคอื่นๆ จึงขอสิทธิ์ในการตั้งก่อน พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยอมให้ดำเนินการ คำถาม คือถ้าจากนี้ไปถึงวันประชุม สภาเพื่อเลือกนายกฯ พรรคพลังประชาชนไม่ใช่พรรคที่มีเสียงมากที่สุด พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินจะตอบคำถามของประชาชนได้อย่างไร คิดว่าทั้งสองพรรคนี้ต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายต่อประชาชน
 

โวยแจกใบเหลือง-แดง 30 ใบน้อยไป 


นายสุเทพกล่าวต่อว่า ในส่วนของตนยังถือว่าตราบใดที่กระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการตรวจสอบผู้ชนะการเลือกตั้งว่าได้ชัยชนะมาอย่างสุจริตไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย ว่ามีทั้งหมดกี่คน ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พล.ต.สนั่นระบุว่า เป็นไปได้ยาก ที่ กกต.จะแจกใบเหลืองแดงถึง 30 ใบ นายสุเทพตอบว่าไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดปกติ คิดว่าการแจกใบเหลืองใบแดง 30-40 ใบยังน้อยเกินไป เพราะคนพวกนี้ทำผิดกันอย่างเอิกเกริก


ชี้ พปช.ผวาเสียงหายรีบรวบรัดจับขั้ว
 

“การรวบรัดจัดขั้วตั้งรัฐบาล เป็นการเบี่ยงเบนเจตนารมณ์ของประชาชน ทั้งที่นักการเมืองต้องคำนึงเจตนารมณ์ของประชาชนเป็นสำคัญ และคิดว่าพรรคพลังประชาชนเริ่มไม่มั่นใจเสียงที่ตนเองได้มาว่ามากที่สุด จึงต้องรวบรัดจับขั้วกัน เพราะสังเกตว่า กรณีที่ กกต.ให้ใบแดง พรรคพลังประชาชนรู้ดีว่า จากที่เคยใช้ วิธีการที่ไม่สุจริตในการเลือกตั้ง วันนี้ได้มีคนมาตรวจสอบแล้ว และพบว่ามีหลักฐานการกระทำผิดจริง และกลัวว่าจะถูกจับได้ จึงต้องรีบรวบรัดเสียก่อน” นายสุเทพกล่าว
 

เผยเตรียมหาหลักฐานโซ้ย พปช. 

นายสุเทพกล่าวว่า วันนี้ประชาชนที่ติดตามการเมืองต้องยอมรับว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ไม่ใช่หัวหน้าพรรคตัวจริง แต่ตัวจริงอยู่ต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ได้ฟ้องต่อประชาชนชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้เห็นว่า การที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งห้าม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมืองนั้น ที่จริงแล้วคนเหล่านี้ไม่ได้หยุด และยังทำมาตลอด ที่จริงคิดว่าประชาชนทุกคนต้องช่วยกันตรวจสอบ ตนจะพยายามหาหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่า คนในกลุ่มอำนาจเก่าได้เข้ามากำกับบงการ และจัดการทางการเมืองตลอดเวลา เป็นที่มาของการเลือกตั้งที่ไม่ สุจริต ประชาชนที่ได้ทราบเรื่องนี้ก็คงเห็นได้ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นตัวบงการการเมืองของประเทศไทยอย่างแท้จริง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์