นิติภูมิชี้มีคนจ้องทำลาย ฐานใหญ่ตั้งในสิงคโปร์

"นิติภูมิ"ชี้มีคนจ้องทำลาย ฐานใหญ่ตั้งในสิงคโปร์

"นิติภูมิ" พล่านหลังถูกแฉโกงเงิน 20 ล้าน โยนขบวนการดิสเครดิตข้ามชาติ จ้องทำลายฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล มีฐานใหญ่ในสิงคโปร์ ขณะอนาคต ปธ.สภาสูง วูบตาม ส่ง"กล้านรงค์" ชนร่างทรง ทรท.ด้านป๋าไหว จี้นิติภูมิเคลียร์ตัวเอง ก่อนเข้าสภาสูง ยันไม่ใช่เรื่องดิส

(6พค.) หลังจากเทปลับที่บันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายนิติภูมิ นวรัตน์ ว่าที่ ส.ว.กทม.กับหญิงมีอายุรายหนึ่ง ที่มีเนื้อหาเป็นการทวงเงินว่าที่ส.ว.กทม.ที่มีคะแนนมากสุดในประเทศ จำนวนกว่า 20 ล้านบาท ถูกเผยแพร่ออกไปตามเว็ปไซต์ต่างๆที่เปิดให้ประชาชนเข้าแสดงความเห็นในประเด็นการเมือง ทำให้นายนิติภูมิ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงกรณีดังกล่าวว่าเป็นการจงใจที่จะกลั่นแกล้งทางการเมือง และได้แจ้งความกับกองปราบปรามให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่นำเทปดังกล่าวมาเผยแพร่

นายนิติภูมิ กล่าวว่า ตอนนี้ตนรอศาลตัดสินชี้ขาดเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องการตอบโต้หรือทะเลาะกับใครทั้งนั้น อย่างไรก็ตามเทปลับที่เผยแพร่อยู่ตอนนี้ไม่น่าจะเป็นฝีมือของป้าคนที่คุยโทรศัพท์กับตนแต่เท่าที่ดูเว็ปไซต์ที่คนส่งมาให้ตนพบว่าต้นตอมาจากประเทศสิงคโปร์ ตนทราบว่าขณะนี้สิงคโปร์คือฐานใหญ่ของขบวนการดิสเครดิตบุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล

"ที่ป้าอ้างว่าผมไปเอาเงินเขามานั้นไม่เป็นความจริง แต่เราเป็นหุ้นส่วนที่ลงทุนร่วมกัน ยกตัวอย่างคุณกับผมร่วมลงทุนทำธุรกิจกันลงหุ้นกันคนละร้อยบาท จากนั้นก็เอาเงินไปซื้อของเพื่อลงทุน เอาไปจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ผมไม่ได้เอาเงินไปไหน แต่ยืนยันว่าได้คืนเงินไปให้ป้ามากแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อตอนตั้งบริษัทร่วมกันนั้นผมเองต้องเป็นฝ่ายออกเงินเองจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นค่าอาคารสถานที่ การใช้จ่ายในการเดินทางไปถ่ายทำสารคดีในเมืองนอกก็เป็นเงินของผมล้วนๆ แม้แต่ตำแหน่งประธานบริษัทก็ยังให้เขา"

นายนิติภูมิ กล่าวว่า หากฟังเทปให้ดีจะพบว่าตลอดการสนทนาตนเป็นฝ่ายเคารพนบน้อมโดยตลอด เพราะตนเป็นคนเคารพผู้ใหญ่ และรู้ดีว่าไปเถียงกับป้านั้นเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ รอให้ศาลเป็นผู้ตัดสินเท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่ที่เทปลัปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปปรากฎว่าบรรดาว่าที่ ส.ว.ชุดไหม่ได้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างขวางถึงเนื้อหาในเทป ซึ่งส่วนใหญ่ต่างตกใจกับข้อมูลที่ได้ฟังและไม่เชื่อว่านายนิติภูมิจะมีพฤติกรรมดังที่ถูกกล่าวหาจากคู่สาย ซึ่งว่าที่ส.ว.ส่วนใหญ่ต่างก็รอคอยการชี้ขาดจากศาลว่าความจริงเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม เทปลับนี้ทำให้อนาคตการเข้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ของนายนิติภูมิดับวูบลงไปทันทีหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเสนอชื่อมาควบคู่กับนายกล้านรงค์จันทิก โดยล่าสุดว่าที่ส.ว.สายเอ็นจีโอ และนักวิชาการ ได้ตัดสินใจสนับสนุนนายกล้านรงค์ ให้ชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา กับอีกฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะเป็นนายสมัคร สุนทรเวช หรือนายอุทัย พิมพ์ใจชน

ด้านนายไสว พราหมณี รักษาการ ส.ว.นครราชสีมา กล่าวถึงกรณีบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างบุคคลที่เรียกตนเองว่า ป้าเช็ง กับนายนิติภูมิ นวรัตน์ ว่าที่ส.ว.กทม. ผ่านเว็บไซด์ www.pantip.com โดยเนื้อของบทสนทนามีการทวงเงินจำนวนกว่า 20 ล้านบาท กับนายนิติภูมิ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของนายนิติภูมิ ที่ทำธุรกิจก่อนที่จะมาลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ว.ซึ่งความจริงจะเป็นอย่างไร นายนิติภูมิต้องรีบแสดงความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชนให้รับทราบโดยเร็ว เพราะจะส่งผลต่อการทำงานในอนาคตด้วย แม้ว่าขณะนี้ กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ว.แต่นายนิติภูมิ เป็นว่าที่ ส.ว.ที่มีคะแนนเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ สังคมจึงต้องให้ความสนใจในการกระทำทั้งในอดีตและในอนาคต หากเข้ามาทำงานเป็นส.ว.แล้วสังคมจะเกิดความสงสัยได้ เพราะมีวาระ 6 ปี ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ส.ว.ชุดใหม่ด้วย

เมื่อถามว่า นายติภูมิ ระบุว่ามีความพยายามดิสเครดิสทางการเมือง นายไสว กล่าวว่า ใครจะไปดิสเครดิสนายนิติภูมิขนาดนายปราโมทย์ ไม้กลัด รักษาการส.ว.กทม.ที่มีคะแนนสูงสุดของประเทศยังไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นความขัดแย้งในธุรกิจส่วนตัวของนายนิติภูมิมากกว่า ซึ่งทุกคนก็มีภูมิหลังกันทั้งนั้นส่วนจะดีหรือชั่วเจ้าตัวน่าจะรู้ดี อย่างไรก็ตามในระหว่างที่กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายนิติภูมิ ควรรีบเคลียร์ตัวเองให้ดีก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง

เมื่อถามว่า การที่คุณนิติภูมิถูกเล่นงานเพราะเป็นสังคมให้ความสนใจ และเป็นหนึ่งในผู้เหมาะสมเป็นประธานวุฒิสภาหรือใหม่ นายไสว กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะส.ว.ที่ได้รับเข้ามาทั้ง 200 คน มีคนดีเยอะแยะเหมาะที่จะเป็นประธานวุฒิสภา และหากมีการเสนอชื่อนายนิติภูมิจริง ส.ว.ที่เหลือ 199 จะเลือกเขามาทำงานอย่างนั้นหรือ ซึ่งขณะนี้ถือว่าเร็วไป บุคคลที่ได้รับเลือกเข้ามามีความเหมาะสมทั้งนั้น

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นแผนสกัดไม่ให้นายนิติภูมิ เป็นวุฒิสภาใช่หรือไม่เพราะมีแนวโน้มว่าจะได้เป็นประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ นายไสว กล่าวว่า คงไม่มีใครคิดไปสกัดกั้นคนที่ได้รับเลือกมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ คงเป็นเรื่องส่วนตัวและการทำธุรกิจของนายนิติภูมิ เพราะเห็นทำธุรกิจหลายอย่าง ส่วนการเป็นประธานกรรมาธิการต่างประเทศนั้นยังถือว่าเร็วเกินไป ต้องรอให้กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งก่อน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์