บิ๊กบังให้ทบ.ชี้แจงเอกสารลับ

พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ รองผบ.สส. เข้าพบพล.อ.สนธิ ที่ห้องทำงาน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

พล.อ.มนตรีเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า พล.อ.สนธิเชิญมาพบ เมื่อถามว่า มารายงานเรื่องเอกสารลับที่นายสมัครนำออกมาเปิดเผยด้วยหรือไม่ พล.อ.มนตรีปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ตนไม่ได้เป็นคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง

จากนั้นเวลา 10.00 น. พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมัครเปิดเผยเอกสารลับว่า ต้องไปดูที่ทบ.ว่าจะเป็นอย่างไร

ตนยังไม่เห็นเอกสารตัวจริง เมื่อถามว่าเอกสารดังกล่าวรายงานในช่วงที่ท่านเป็นประธานคมช. พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเอกสารตัวจริง ขอให้กองทัพชี้แจงเรื่องนี้ดีกว่า ต่อข้อถามว่าจะสั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ของจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ปกติแล้วเรื่องคำสั่งต่างๆ พวกนี้ ทบ.ทำมาเยอะเพื่อความมั่นคงของประเทศ ฉะนั้นเอกสารเป็นมาอย่างไรตรวจสอบได้อยู่แล้ว

ต่อข้อถามว่าจะขอดูเอกสารจากนายสมัครโดยตรงหรือไม่

พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่ต้องดู ถ้าเผื่อมีก็มีอยู่ที่นี่ แต่จะเป็นอันเดียวกันหรือเปล่า ไม่ทราบ ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ายอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยสั่งการลักษณะนี้จริง ในช่วงที่ประเทศชาติเกิดความวุ่นวายใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ทั้งประเทศเป็นมาอย่างนี้ทุกครั้ง ทุกประเทศของโลก เรื่องนี้คณะกรรมการและกองทัพบกคงจะตรวจสอบของเขาเอง ส่วนเอกสารจะเป็นเอกสารปลอมอย่างที่โฆษกกองทัพบกตั้งข้อสังเกตหรือไม่ตรงนี้คงต้องแล้วแต่กองทัพ ทางเราไม่รู้"

เมื่อถามว่าเหตุผลที่ต้องสั่งการลักษณะนั้นเป็นเพราะอะไร

พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของความมั่นคงของประเทศอย่างเดียว แต่ทุกเรื่องที่เป็นความไม่เรียบร้อย จะจัดทำเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งแผนปฐพี 149 ลองไปเปิดดู เมื่อถามว่าไม่มีการสกัดพรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

เมื่อถามว่าเหตุผลที่สกัดเพราะดูแล้วพรรคพลังประชาชนมีโอกาสกลับมามีอำนาจ
 
พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตรงไหนที่เป็นความไม่มั่นคง กองทัพหรือส่วนที่เกี่ยวข้องต้องทำงานในหน้าที่ของตนเอง เรื่องนี้การตรวจสอบความถูกต้องชัดเจน คงต้องรอทบ.เป็นผู้ตรวจสอบ เนื่องจากเห็นเอกสาร ส่วนเอกสารตัวจริงเป็นอย่างไรไม่รู้ ทั้งนี้ไม่ได้กำหนดเวลาตรวจสอบเพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้ว