ปริญญาอ้างรอบคอบปัดตัดตอนช่วยพรรคใหญ่พ้นข้อหาจ้างนอมินี

"ปริญญา"อ้างรอบคอบปัดตัดตอนช่วยพรรคใหญ่พ้นข้อหาจ้างนอมินี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 เมษายน 2549 16:42 น.

"ปริญญา" ยันไม่ได้ตัดตอนเข้าด้วยช่วยเหลือพรรคการเมืองใหญ่กรณีถูกหาว่าจ่ายเงินจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ยันการสอบสวนต้องทำอย่างรอบคอบและพยานหลักฐานต้องชัดเจน อ้างเวลานี้มีการร้องเรียนทั้งสองพรรคใหญ่ ย้ำกรณีผู้ว่าที่ ส.ว.ขึ้นเวทีพันธมิตรฯยังไม่ได้ระบุว่าผิดแต่ต้องสอบสวนตามที่ถูกร้องเรียนไม่เช่นนั้นมีความผิดฐานละเว้น

วันนี้( 22 เม.ย.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า กกต.พยายามที่จะตัดตอน และให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และสั่งยุบพรรคการเมืองขนาดเล็กเท่านั้นว่า ตนยืนยั่นว่า ไม่มีการตัดตอนเด็ดขาด เพราะตามที่นายนาม แย้มยิ้ม เป็นประธานอนุกรรมการสอบสวน การร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่ กกต.ปลอมแปลงแก้ไขทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองขนาดเล็ก และมีผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทยให้เงินสนับสนุนพรรคเล็กนั้น ขณะนี้ กกต.ได้สั่งการให้ไปสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม และมารายงานภายใน 10 วัน
นายปริญญากล่าวว่า จากรายงานผลการสืบสวนสอบสวนผู้ที่กระทำผิดได้มีการกล่าวซัดทอดไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายคน ซึ่ง กกต.เชื่อว่ามีการบงการกันเป็นทอดๆ นอกจากนี้ในรายงานยังระบุว่าการจ่ายเงิน รับเงินนั้นมีกล่าวอ้างถึงพรรคการเมืองขนาดใหญ่ 2 พรรค

การสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารการสมัครนั้นเราได้ดำเนินการเอาผิดไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็เข้าสู่กระบวนการสอบสวนขยายผลว่ามีใครรับเงินบาง และมีใครเป็นผู้จ่ายเงินบ้าง ตรงนี้ต้องรวบรวมพยาน และหลักฐานให้ได้เป็นจำนวนมาก เพราะหากจะต้องดำเนินคดีทางอาญานั้น พยานหลักฐานต้องชัดเจน ส่วนจะมีการขยายผลไปถึงตัวการใหญ่หรือพรรคการเมืองใหญ่หรือไม่นั้นต้องรอผลการสอบสวน ส่วนจะถึงขั้นยุบพรรคผมยังไม่อยากพูดต้องดูข้อมูลหลักฐานก่อนเกี่ยวข้องกับตัวบุคคลหรือพรรคนายปริญญากล่าว

นายปริญญายังกล่าวชี้แจงถึงการให้สัมภาษณ์ผ่านวิทยุที่ระบุว่า จะดำเนินคดีกับผู้ที่ขึ้นเวทีพันธ์มิตร และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ว่า ตนขอชี้แจงในข้อเท็จจริงว่า การให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมานั้นตนยังไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินคดี และยังไม่ได้บอกว่าบุคคลที่ขึ้นเวทีพันธ์มิตรและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ทำผิดกฎหมาย และต้องโดนใบแดง ใบเหลือง เพราะการที่บุคคลที่ขึ้นเวทีปราศรัยนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องดูว่าขึ้นไปปราศรับเรื่องอะไร เพราะขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่ามีใครบ้างที่ขึ้นเวที และพูดเรื่องอะไร เพราะยังไม่ได้ดูเทปการปราศรัย อีกทั้งเมื่อมีการร้องเรียนเข้ามาก็ต้องรับ ซึ่งเรื่องร้องเรียนที่ผ่านมาก็มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก และบางเรื่องหากไม่มีหลักฐานเราก็ยกคำร้อง แต่หากคำร้องไหนมีมูลอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดเลือกตั้งที่อาจจะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจรติเราก็ต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนสืบสวนหาข้อเท็จจริง เมื่ออนุสรุปผลก็ต้องเอาเข้าที่ประชุม กกตงเพื่อให้มีมติก่อน

ผมอย่าชี้แจงว่า เรื่องร้องเรียนใดที่ยังไม่มีการสืบสวนสอบสวน และยังไม่เป็นมติของ กกต.อย่าเพิ่งไปฟัง เพราะนั้นเป็นเพียงกระแส และจะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด อีกทั้งเมื่อมีการร้องเรียนเข้ามาเราก็ต้องดำเนินการสืบสวน ว่ากันไปตามข้อมูลหลักฐานที่หามาได้ และหากเห็นว่ามีมูลเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง เราก็ต้องเชิญผู้ที่ถูกร้องเรียนเข้ามาชี้แจแก้ข้อกล่าวหา และก็มีหลายครั้งที่ผู้ถูกร้องสามารถที่จะแก้ข้อกล่าวหาได้ และ กกต.ก็มีมติยกคำร้องนายปริญญากล่าว และว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ กกต.เพราะเมื่อมีการร้องเรียนเราก็ต้องดำเนินการไม่อย่างนั้นเราก็จะถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และการร้องเรียนก็ร้องกันทุกฝ่าย แต่กกต.ไม่ได้ยึดว่าฝ่าย และไม่เข้าข้างใครด้วยว่ากันไปตามกฎหมาย ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ผิดเราก็ยกคำร้อง และยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องร้องเรียนใดๆ เราไม่มีการหยิกกระแสสังคมมามีส่วนในการตัดสิน

นายปริญญากล่าวว่า ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ตนจะไปตรวจหน่วยเลือกตั้ง และจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งโรงเรียนแก้วอินทร์ ประชาอุทิศ เพราะมีชื่ออยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นอกจากนี้การที่ กกต.ต้องดำเนินการให้จัดการเลือกตั้งบรรลุวัตถุประสงค์นั้น เพราะถือเป็นหน้าที่ของ กกต.โดยตรง และหากมีการยุบ กกต. ไล่ กกต.ออกแล้วจะมีใครมาจัดการเลือกตั้ง เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กกต.จัดการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าหากจัดการเลือกตั้งไม่ได้ รัฐบาลนี้ก็ต้องรักษาการต่อไปอีกนาน และจะนานแค่ไหนก็ไม่รู้ การเมืองก็จะไม่เข้ามาสู่ระบบที่ถูกต้อง ประเทศก็ไม่สามารถเดินหน้าไปได้ สถานการณ์ก็จะตึงเครียดต่อไปอีก ดังนั้นทุกฝ่ายต้องออกมาช่วยกัน เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข

ด้านพล.ต.ต.เอกชัยวารุณประภา เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงการดำเนินการเลือกตั้งของ กกต.ว่า กกต.จัดการเลือกตั้งไปตามกฎหมาย หากครบกำหนด 30 วัน ที่ กกต.ต้องมีการประกาศผลการเลือกตั้ง ตอนนั้นหาก กกต.ดำเนินการจัดการเลือกตั้งและได้ ส.ส.เท่าไหร่ กกต.ก็ต้องประกาศไปเพียงเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องออกมาช่วยกันพิจารณาเพื่อหาทางออกให้กับสภา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์