มาร์คลั่นกลางเวทีหาดใหญ่ระบอบทักษิณทำคนใต้เจ็บลึก-โชคดีรู้ทันจับมือกันสู้

"มาร์ค"ลั่นกลางเวทีหาดใหญ่"ระบอบทักษิณ"ทำคนใต้เจ็บลึก-โชคดีรู้ทันจับมือกันสู้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2549 22:34 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ "อภิสิทธิ์" แฉความเลวร้ายของระบอบทักษิณที่มอมเมาประชาชนด้วยข่าวสารข้างเดียว แต่ไม่สามารถกล่อมคนใต้ให้มอบคะแนนเสียงได้ มีแต่สร้างความบาดลึกในปัญหาความไม่สงบ 3 จชต. เพราะลุแก่อำนาจ แถมดันทุรังอยากอยู่ต่อจึงใช้กลอุบายการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือ แต่คนใต้รู้ทันจึงรวมตัวกันต่อสู้เพื่อปลดแอกเชื้อร้าย

วันนี้ (21 เม.ย.) ช่วงเย็นที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีปราศรัยเพื่อร่วมกันหยุดระบอบทักษิณให้ได้ และเดินหน้าปฎิรูปการเมืองต่อไป ซึ่งจัดขึ้น ณ สนามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ว่า จากการที่มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้นมา ทำให้เพิ่มเสถียรภาพของรัฐบาล และจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อทำงาน และเราเข้าใจเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญฉบับนี้แม้จะเขียนไว้ไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ก็ให้การสนับสนุนดังกล่าว แต่ขณะนี้ประชาธิปไตยกลับถูกปล้น ฉ้อฉลด้วยกลโกงครั้งใหญ่ในระบอบทักษิณ มีการดันทุรังให้เกิดการเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำอีกที่ไม่ตรงเจตนาของประชาธิปไตย เนื่องจากระบอบทักษิณนั้นไม่เชื่อว่าประชาชนเป็นใหญ่

พ.ต.ท.ทักษิณ มองการเมืองเป็นเรื่องแพ้-ชนะ ทำให้เดินตามใจชอบ สะสมกำลังอำนาจเพื่อต่อยอดกำลังเงินเข้าหาส่วนตน และความเลวร้ายของระบอบนี้ก็ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อคนไทยทั้งประเทศ โดยคิดเพียงว่าคนที่มีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ ดังนั้น แม้ว่าจะมีการเว้นวรรคทางการเมือง แต่มรดกบาปเหล่านี้ก็ทิ้งไว้ให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาคลี่คลาย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ความเลวร้ายของระบอบทักษิณนั้น ส่งผลกระทบโดยตรงอย่างแสนสาหัสต่อพี่น้องชาวใต้ เห็นได้ชัดในสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งใช้อำนาจแก้ปัญหาโดยไม่มีความเข้าใจ ทั้งที่รัฐบาลชุดก่อนมีแนวทางที่จะพยายามรักษาบาดแผลจากเหตุผลทางประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์ได้สานต่อนโยบายของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และปีสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นไม่ถึง 10 ครั้ง แตกต่างจากปัจจุบันที่เหตุรุนแรงเกิดขึ้นทุกวัน เพราะความลุแก่อำนาจ อ้างว่าเป็นฝีมือของคน 2 สัญชาติ ขบวนการค้ายาเสพติด ทำให้มีการลิดรอนสิทธิมนุยชน อุ้มฆ่า ล้วนไปสร้างความแตกแยกตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้น เมื่อประชาชนรู้เท่าทันความเลวร้ายของระบอบทักษิณ จึงได้แสดงออกด้วยการต่อต้าน พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะฝ่ายค้านก็ได้พยายามทำหนังสือเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้รับการเพิกเฉยจากรัฐบาล เนื่องจากกลัวการเสียหน้า ปัญหาเหล่านี้จึงยากที่จะเยียวยาจนถึงบัดนี้ จนกระทั่งความแตกแยกที่เกิดจากระบอบทักษิณได้ลุกลามไปทั่ว

แม้แต่กรณีน้ำท่วมที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รัฐบาลปฎิเสธเป็นคนกลางประสานงานในการรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือชาวใต้ แต่เมื่อถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ จึงใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการลงพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีแนวคิดที่จะช่วยเหลือพื้นที่ซึ่งให้การสนับสนุนพรรคไทยรักไทยเป็นอันดับแรกก่อน ทำให้มีการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ตนนับถือน้ำใจของพี่น้องชาวใต้ที่ต่อสู้มาโดยตลอด มีศักดิ์ศรี แม้ว่าจะถูกกระทำหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เปลี่ยนใจมาสนับสนุนพรรคไทยรักไทย ทั้งหลอกลวง หรือข่มขู่สารพัด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องราคายางที่อ้างว่าหากไม่มีพรรคไทยรักไทยคงจะไม่ได้ราคาดีเช่นนี้ แต่หารู้ไม่ว่าคนใต้รู้ทันทักษิณ

และอีกวิธีหนึ่งที่ระบอบทักษิณได้ซึมซับทำลายสังคมให้อ่อนแอลง คือการปิดกั้นข่าวสารและเสรีภาพของสื่อ ปลดรายการที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พยามยามแทรกแซงสื่อเพื่อให้เกิดความกลัว และเข้าครอบงำสื่อเสนอข่าวสารเพียงด้านเดียว หวังจะให้ประชาชนดูดซับข้อมูลในด้านดีเท่านั้น แต่โชคดีที่การต่อสู้ของภาคประชาชนนั้นไม่ได้หยุดนิ่ง จึงไม่ยอมให้ถูกครอบงำง่ายๆ

หรือแม้แต่ปรากฎการณ์ต่อสู้ของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้มีส่วนสำคัญในการหยุดยั้งการครอบงำสื่อ แต่ได้พยายามใช้สื่อเท่าที่มีอยู่เสนอความจริงที่คนไม่เคยรู้ ทำให้ประชาชนรู้ข้อเท็จจริง แต่ก็ต้องชื่นชมพี่น้องชาวใต้เช่นกันที่รู้ทันทักษิณมาก่อนแล้ว จึงรวมตัวกันเข้มแข็งมากขึ้น ทำให้ข้อเท็จจริงกระจายวงกว้างสู่ภาคอื่นๆ

นายอภิสิทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ระบอบทักษิณครอบงำหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับฝ่ายรัฐบาล เห็นได้ชัดจากการก่อกวน วางระเบิดสถานที่สำคัญของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นการสร้างความไม่สงบในบ้านเมืองแต่ไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดีได้แม้แต่ครั้งเดียว ทั้งการวางระเบิดสำนักงานผู้จัดการ ถ.พระอาทิตย์ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองมนตรีและรัฐบุรุษ แต่เจ้าหน้าที่กลับให้ความสนใจในการจ้องจับผิดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งเป็นไปตามสิทธิภายใต้ระบอบประชาธิปไตย

หากกรณีวางระเบิดมันจับยากไป ลองมาดูคดีที่ทำง่ายๆ ที่กลุ่มเชียงแม้วล้อมเวทีปราศรัยพรรคประชาธิปัตย์ดีกว่า นั่นก็เป็นเพราะฝีมือระบอบทักษิณที่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น แม้เราจะรู้ล่วงหน้าแต่ก็พร้อมเดินหน้าต่อเพราะคนเชียงใหม่จริงๆ เขาอยากฟังอีกมาก แต่ที่มาก่อเหตุเป็นกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมา โดยใช้เงินจ้างนักจัดรายการวิทยุเป็นเครื่องมือปลุกระดม ให้มาตะโกนไล่ที่สนามบินเชียงใหม่ และก่อกวนเวที ซึ่งสื่อมวลชนที่มาทำข่าวได้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน และระหว่างที่มีการทยอยเข้ามาก่อกวน อดีตนายกชวนก็สเก็ตช์รูปคนที่เข้ามาลงในสมุดบันทึกประจำตัวเล่มสีแดงของท่านไว้แล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ด้วยความเลวร้ายของระบอบทักษิณดังกล่าวนี้เอง เป็นสาเหตุสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการตกเป็นเครื่องมือในการต่ออายุของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการเข้ามาบริหารประเทศ โดยใช้การเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่ายังมีประชาธิปไตยอยู่ และแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ลงแข่งขัน แต่ก็ยังมีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างแรงกล้า อย่างน้อย 54 เขตในภาคใต้ประชาธิปัตย์ก็ยังมีชัยชนะอยู่ เช่นเดียวกับกระแสในภาคอื่นๆ ที่ไม่น้อยไปกว่าเดิม ดังนั้น นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์จึงยอมเจ็บ ที่เห็นการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ดีกว่าตกเป็นเครื่องมือต่ออายุการโกงกินขายชาติของระบอบทักษิณ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์