เทพเทือกไม่หนักใจมัชฌิมาธิปไตยชูประชัยขึ้นแท่นนายกฯ

นายสุเทพ  ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง

ที่ล่าสุดนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคประชาราช และกลุ่มมัชฌิมาออกจากพรรคประชาราชไปสังกัดพรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่า ยังมีเวลาอีกหลายวันกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาประกาศวันเลือกตั้ง ดังนั้นกลุ่มการเมืองยังแตกกันได้ รวมกันได้ และยังคิดกันได้อยู่หลายหน ซึ่งไม่เป็นไร แต่ก็หวังว่าทุกกลุ่มทุกพรรคจะสามารถตั้งหลักได้ทันก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง และเห็นว่าการที่พรรคมัชฌิมาธิปไตยจะชูนายประชัยเป็นหัวหน้าพรรคและเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องดีที่ทำให้การเมืองมีสีสันมากขึ้น

และหากนายประชัยเป็นหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตยจริงก็เชื่อว่า

จะทำให้พรรคมัชฌิมาธิปไตยมีความเข้มแข็งขึ้น แต่ไม่ใช่เป็นคู่แข่งของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฐานเสียงของพรรคมัชฌิมาธิปไตยกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทับซ้อนกันเท่าไหร่ จึงไม่รู้สึกหนักใจ นอกจากนี้ที่ผ่านมาเคยมีการพูดคุยกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับทางกลุ่มมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งหากทางกลุ่มมัชฌิมาธิปไตยยังไม่เปลี่ยนแปลงแนวความคิด หรือจุดยืน ก็สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้
 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า

หากนายประชัย ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีเงินทุน เข้าเป็นหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตยจะทำให้กลายเป็นพรรคไทยรักไทยภาคสองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงไม่เป็นเช่นนั้นเพราะนายประชัยเองก็มีแนวคิด แนวทางดำเนินการทางการเมืองของตนเอง ส่วนที่นายประชัย ลาออกจากพรรคประชาราชนั้น คงเป็นเพราะว่าแนวคิดทางการเมืองไม่เหมือนกันจึงขอแยกกันเดินกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช คงไม่เกี่ยวข้องกับที่เป็นกระแสข่าวว่านายประชัยต้องการทำการเมืองในแบบเอาเงินเข้าแลก แต่นายเสนาะไม่เห็นด้วยพรรคประชาราชจึงแตก

 ผู้สื่อข่าวถามว่า

หากเป็นเช่นนั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะดึงนายเสนาะ เข้าร่วมเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศจุดยืนไปแล้วว่าจะร่วมงานการเมืองกับพรรคการเมืองที่มีแนวทางเดียวกัน และจากที่ได้ศึกษานายเสนาะก็ไม่มีอะไรที่แปลกแยกกัน ทั้งนี้คาดว่าหลังจากการเลือกตั้งอาจจะร่วมงานกันได้ ส่วนที่จะไปดึงมาร่วมเป็นพันธมิตรเหมือนอย่างพรรคมหาชน และพรรคชาติไทยนั้น คิดว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น

 ผู้สื่อข่าวถามถึง
 
ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่ระบุว่าให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอันดับหนึ่ง หาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีลาออก นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีกำลังใจทำงานต่อไป
 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า
 
แต่ผลสำรวจดังกล่าวระบุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เหมาะสมเป็นอันดับสอง นายสุเทพ กล่าวว่า “เขาคงมาเป็นไม่ได้หรอก”