สุรยุทธ์-ประสงค์ ยังคุยกันได้ ชี้ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

วันนี้ (6 ต.ค.) เวลา 08.00 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก"

ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เป็นครั้งที่ 22 โดยมี นางอรวรรณ กริ่มวิรัตน์กุล เป็นผู้ดำเนินรายการ ถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ว่า เป็นหน้าที่ของทาง สนช. อยู่แล้วที่จะสอบถามได้ ซึ่งทางรัฐบาลก็พร้อมที่จะตอบว่า เรื่องราวความเป็นมากว้าง ๆ ของกรณีที่รัฐมนตรีได้ลาออกไปนี้เป็นอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่ตนคงจะต้องดูก็คือว่าญัตติที่มานั้นเป็นอย่างไร แล้วจะต้องเตรียมการถ้าหากว่าจะถามรัฐมนตรีที่ยังอยู่ในตำแหน่ง เราจะได้ให้รัฐมนตรีเหล่านั้นได้มีโอกาสได้เตรียมการ ทางรัฐบาลพร้อมที่จะตอบข้อซักถาม

 


ส่วนกรณีอาจจะต้องถูกเอามาถามอีกครั้ง ที่ดินเขายายเที่ยง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
 
พร้อม และยืนอยู่บนข้อเท็จจริง ว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปปกปิดอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาก็พยายามที่จะทำให้โปร่งใส แน่นอนว่าทุกคนคงไม่ได้ขาวผ่องเป็นยองใย


“กรณีพูดถึงประโยคคำว่า โจรกลับใจ ความรู้สึกของผมก็เป็นความจริง อย่างที่เรียนว่าผมรู้ตัวผมดีว่าผมไม่ได้เป็นคนดี ไม่ได้มีอะไรที่สูงส่งมากมาย แต่ว่าเมื่อเราผ่านชีวิตมาแล้ว เราก็ปรับตัวมาเป็นขั้น ๆ เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งเราก็เห็นว่า อะไรที่ควรจะทิ้งไป อย่างพูดง่าย ๆ ผมเขียนลงในคำอวยพรที่จะทำเพื่อพ่อ ผมก็เขียนว่า ผมตั้งใจที่จะรักษาศีลห้าตลอดชีวิต แต่ก่อนผมก็รักษาไม่ได้ ก็พูดตรง ๆ แต่เมื่อผมไปบวชมาแล้วผมก็เห็นว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ดี ก็ได้น้อมนำมาอยู่ในใจและทำด้วยความศรัทธา ทำด้วยความคิดที่ว่าเราจะต้องแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น“ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง

ข้อครหารัฐบาลวิ่งล็อบบี้ สนช.บางคนให้ถอนชื่อออกไปจากญัตติ ว่า ตนไม่ได้เข้าไปดำเนินการใด ๆ ไม่ได้มีการข่มขู่ ไม่ได้มีการไปล็อบบี้อะไรทั้งสิ้น แต่แน่นอนว่าในส่วนของทางผู้ที่เกี่ยวข้องก็มองกันได้หลายแง่ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรที่ลึกลับซับซ้อน ถ้าเผื่อเราดูกันด้วยความเป็นจริงก็คงเป็นเรื่องธรรมดา


สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพล.อ.สุรยุทธ์ กับน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมแก่ นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน สนช. นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า น.ต.ประสงค์คิดคิดอย่างไร แต่ว่าในส่วนของตน ก็ยังเห็นท่านเป็นบุคคลที่เคยทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ไม่ได้มีความคิดเป็นอย่างอื่น แต่ว่าในช่วงหลังมีงานหลาย ๆ ด้านที่จะต้องทำ และคงทำตามสิ่งที่ทางรัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่ามันเหมาะมันควร เราไม่ได้มุ่งหวังที่จะไปมีบทบาทอื่นใดนอกจากนั้น เพียงแต่ว่า รักษาสถานภาพ รักษาเสถียรภาพทั้งทางด้านการเมือง ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ เพื่อส่งต่อให้กับรัฐบาลต่อไปให้ได้เท่านั้นเอง


ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า สองคนเคยคุยกันหรือไม่ หรือมีเรื่องอะไรที่คุยกันแล้วฝากกันให้ทำ แล้วท่านไม่ทำให้ เลยทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่า ทำไมท่านไม่ทำให้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมทำไม่ได้ ท่านเคยชวนให้ผมทำ แต่ผมทำไม่ได้ เพราะว่ามันขัดกับความรู้สึกของผมเอง ซึ่งคงเปิดเผยไม่ได้ เอาไว้ถามท่านก็แล้วกัน ไม่ใช่ตอนนี้ในช่วงที่ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบก ผมเองไม่มีปัญหา พร้อมที่จะพูดคุยและคิดว่าเรื่องต่าง ๆ คงไม่ได้เป็นเรื่องที่คอขาดบาดตาย คิดว่าสามารถจะพูดคุยกันได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์