อนค.มิตติ้งคึกคัก ธนาธรไม่หวั่นแม้ต้องเป็นฝ่ายค้าน

แฟนคลับแห่ร่วมระดมทุน"อนาคตใหม่"สุดคึกคัก "ธนาธร"ไม่หวั่นถ้าสุดท้ายต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ยันชัดไม่ระดมคนไปให้กำลังใจที่สน.ปทุมวัน ชี้ "ม.116" เป็นข้อหาร้ายแรงต้องขึ้นศาลทหาร

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี  พรรคอนาคตใหม่จัดงาน "อนาคตใหม่ ไฟแรงเฟร่อ" โดยมีการจัดกิจกรรมหลากหลายภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนเข้าพรรคทั้งจากการรับบริจาคเงิน การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของพรรค การประมูลสิ่งของจากแกนนำพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงมีการเปิดรับสมัครสมาชิก การประกวดออกแบบสินค้าระดมทุนของพรรคซึ่งผู้ที่ชนะรางวัลทั้ง 4 อันดับ จะถูกนำไปผลิตสินค้าจริง และได้รับรางวัลเป็นเสื้อพรรคอนาคตใหม่ พร้อมลายเซ็นของนายธนาธร  กิจกรรมขอบคุณผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ การเปิดให้สมาชิกเขียนข้อความให้กำลังใจกันและกัน และการถ่ายรูปที่ระลึก  ทั้งนี้มีประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น มาร่วมงานนี้เป็นจำนวนมาก

ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางไปงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเลือกหนังสือ เป็นรางวัลให้กับผู้ร่วมกิจกรรมระดมทุนครั้งนี้  กระทั่งเวลา 20.15 น. นายธนาธร ได้เข้ามาร่วมงานของพรรค แล้วกล่าวทักทายสมาชิกพรรค ตอนหนึ่งว่า  ขอบคุณที่ทุกท่านสละเวลามาร่วมในวันนี้ เราจัดงานขึ้นมาเพราะหลังการเลือกตั้งอยากลงไปขอบคุณพวกเราที่สนับสนุนแต่ไม่สามารถทำได้ด้วยกำลังและเวลา วันนี้จึงเชิญทุกคนมา ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมผลักดันให้พรรคอนาคตใหม่มาถึงจุดนี้ได้ภายใน 1 ปีของการตั้งพรรค กลายเป็นพรรคอันดับ3ของประเทศไม่มีใครเชื่อว่าพรรคจะมาขนาดนี้ กูรูของเมืองไทยให้เราสูงที่สุด 20 ที่นั่ง กูรูสูงสุดในเมืองไทยบอกว่าจะได้ 1 ที่นั่งและจะไปร่วมโหวตเพื่อให้นายปิยบุตรติดมากับนายธนาธร ไม่มีใครคิดว่าพรรคที่ไม่ซื้อเสียงจะมาได้ไกลขนาดนี้ ผู้สมัคร 350 คนของเราเป็นหน้าใหม่ทั้งหมด ทุกคนเป็นคนธรรมดาที่เอาชนะพรรคการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองได้อย่างไร ตนก็บอกว่าต้องทำให้ดี ทำให้กล้าแกร่ง และ 6.3 ล้านเสียงก็พิสูจน์แล้วว่า พรรคการเมืองที่ไม่ซื้อเสียงเกิดขึ้นได้ คนต้องการพรรคแบบนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางด้วยกัน

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า  เราจะสร้างพรรคอนาคตใหม่ให้เข้มแข็งกว่านี้ และเป็นพรรคของประชาชนให้ได้ เพื่อทำให้เห็นว่าพรรคการเมืองดีๆ เดินได้ด้วยอุดมการณ์พรรคนั้น มีจริง อีกทั้งต้องเป็นพรรคที่มีชีวิตยืนยาวและเข้มแข็งมากกว่าตน  ตอนนี้พรรคอนาคตใหม่เป็นหนี้ผม 90 ล้านบาท ตนตั้งใจว่าจะทวงคืนทุกบาททุกสตางค์ พรรคนี้ต้องเป็นระยะยาว แม้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ก็ต้องดำรงอยู่ได้ ดังนั้นเราคนที่เข้าไปอยู่ในสภา ขอสัญญาว่า ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะไม่เอาภาษีมาใช้เพื่อส่วนตัว จะเดินหน้ายึดมั่นตามอุดมการณ์อย่างเข้มแข็ง ไม่กระทำทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ถ้าต่อไปพบว่าเราทำ 2 ข้อนี้ไม่ได้ ครั้งหน้าอย่าเลือกพรรคอนาคตใหม่อีก ส่วนรูปแบบรัฐบาลที่เกิดขึ้น เราให้เกียรติพรรคที่ได้ส.ส.มากที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลดังนั้นคนที่เจรจาจัดตั้งรัฐบาลคือ พรรคเพื่อไทย แต่ถ้าส.ว.โหวตสวนมติประชาชน เราอาจจะเป็นฝ่ายค้าน แต่เราก็ยังทำงานในสภาได้ในฐานะตรวจสอบผู้มีอำนาจให้สมกับที่พี่น้องไว้วางใจ

นายธนาธร กล่าวถึงการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา116 ที่สน.ปทุมวันในวันที่ 6 เม.ย. ว่า

 ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ แต่ตนมองว่า ข้อหานี้เป็นข้อหาที่ร้ายแรง และอยู่ในการดูแลของศาลทหาร ซึ่งทำให้ต่างชาติไม่สบายใจส่วนจะใช้ศาลทหารมาดำเนินคดีกับพลเรือน ส่วนที่จะมีคนไปให้กำลังใจพรุ่งนี้นั้น พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้มีการจัดตั้ง แต่คงห้ามคนไปให้กำลังใจไม่ได้ มีคนมาให้กำลังใจตนก็ยินดี ไม่มีการปิดกั้น เพราะทุกคนก็อยากเห็นประชาธิปไตยและความเท่าเทียม

เมื่อถามว่า กกต.ยืนยันใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะทำให้พรรคเล็กได้ส.ส.หลายพรรค โดยส.ส.พรรคอนาคตใหม่จะได้ลดลง

 นายธนาธร กล่าวว่า การคำนวน ปาร์ตี้ลิส ทำให้ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ลดลง พรรคจะประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาต่อไป แต่หนึ่งอย่างที่พูดได้คือความยุติธรรมของพรรคเล็ก ได้คะแนนดิบระหว่าง 3-4 หมื่นเสียง ก็ได้ส.ส. แต่คะแนน 3-4 หมื่นเสียง ยังไม่อาจชนะในบางเขตได้ แต่นี่คือการเลือกตั้งทั้งประเทศ พรรคไหนที่ได้คะแนนไม่ถึง 71,000 เสียง ก็ไม่สมควรได้ส.ส.   

เมื่อถามว่า ล่าสุดกกต.ฟ้องประชาชน 7 คนฐานหมิ่นประมาท 

นายธนาธร กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้ามีการจับกุมนี่คือการละเมิดสิทธิของประชาชน ที่ปกติย่อมส่งเสียงสะท้อนให้ผู้มีอำนาจได้ยินว่า ไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าทีรัฐได้ นี่คือเสียงของประชาชน ที่ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายด้วยเช่นกัน ที่เปิดช่องให้ประชาชนรณรงค์ล่าชื่อถอดถอนได้ อย่าลืมว่าอำนาจเป็นของประชาชน  ผู้สื่อข่าวถามถึงการประกาศผลการเลือกตั้ง นายธนาธร กล่าวว่า อนาคตใหม่ประกาศมาตลอดว่า การประกาศผล และการเปิดคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง สามารถทำได้ทันที การรอวันที่ 9 พ.ค. ไม่มีเหตุผลเพียงพอ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบใช้เวลาเพียง 7 ชั่วโมง งบน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ก็ประกาศผลการเลือกตั้งได้ ครั้งนี้ใช้งบ 5 พันล้าน ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งทั่วประเทศได้

เมื่อถามถึง กลุ่มสยามมานุสติยื่นฟ้องกรณีที่นายธนาธรประกาศสานต่อภารกิจ 2475 

นายธนาธร กล่าวว่า จำบุคคลและกลุ่มบุคคลที่ออกมาร้องไม่ได้ แต่ขอยืนยันได้ชัดเจนว่า 2475 ไม่ใช่การล้มสถาบัน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นประชาธิปไตย นี่จึงเป็นความพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ เมื่อถามถึง กรณีที่ส.ศิวรักษ์ ให้กำลังใจพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจ ในช่วงที่เราถูกมรสุมทางการเมืองโหมกระหน่ำ เพราะได้เสียงต่อรับดีกว่า ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมคาดไว้

เมื่อถามถึงการแก้รัฐธรรมนูญ มีการพาดพิงว่า จะมีการแก้หมวดสถานบันพระมหากษิตริย์

 นายธนาธร กล่าวว่า นี่คือความชัดเจน ที่ใส่ร้ายป้ายสีอนาคตใหม่ ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อล้มล้างผลพวงรัฐประหาร ขัดขวางการสืบทอดอำนาจ ไม่มีตรงไหนที่พูดถึงสถาบันเลย