ชวน เชื่อ ศุภชัย ยังยึดมั่น ปชป.

นายชวน หลีกภัย กล่าวถึงกรณีที่หลายกลุ่มการเมือง พยายามทาบทามนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังค์ถัด มาเป็นหัวหน้าพรรค


นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวที่ จ.ชุมพร ถึงกรณีที่หลายกลุ่มการเมือง พยายามทาบทามนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังค์ถัด มาเป็นหัวหน้าพรรคว่า นายศุภชัยเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ มาก่อน เชื่อว่านายศุภชัยไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนสังกัดพรรค การเมืองง่ายๆ แต่จริงๆแล้วนายศุภชัยจะไปไหนมาไหนก็คงห้ามไม่ได้ แต่นักการเมืองที่ชอบย้ายพรรคจะเป็นภาพลบกับตัวเอง นายศุภชัยไม่ใช่สมบัติของใคร ในช่วงปีที่ผ่านมาไม่เคยได้พบกับนายศุภชัย นอกจากส่ง สคส. ให้กันเท่านั้น 

อัดบรรดาก๊วนการเมืองยังไม่ลงตัว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองเพื่อรวมตัวกันตั้งพรรคการเมืองนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ แม้ ยังไม่นิ่งที่มาจากสาเหตุหลายปัจจัยที่ต้องคุยกัน ทั้งด้านนโยบาย ทุนสนับสนุน และผู้สมัคร ส.ส.ทับซ้อนพื้นที่กัน คาดว่าการรวมตัวจะนิ่งช่วงใกล้ประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส่วนวาระประชาชนของพรรคนั้น ล่าสุดได้ มีออกสปอตโฆษณาทางทีวีในวาระประชาชนภาคใต้สงบสุข เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงความมั่นใจ ที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าไปแก้ไขปัญหาภาคใต้ โดยมีนโยบายด้านต่างๆเข้าไปแก้อย่างเป็นระบบ ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ กล้องซีซีทีวี และระบบดาวเทียมเข้าไปร่วมแก้ปัญหา

ส่วนกรณีมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในหลายพื้นที่ ยกเว้นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วย

เพราะประเทศกำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง จึงควรจะสร้างบรรยากาศไม่ให้เป็นที่ติฉินนินทาว่า ไม่ได้ความสะดวกในการเลือกตั้ง เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการแข่งขันทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย


บี้ออกกฎหมายปราบธนกิจการเมือง


นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ กำหนดให้มีเนื้อหาป้องกันปัญหาธนกิจการเมือง ตราบใดที่ยังไม่สามารถแก้ ปัญหานี้ได้ การเมืองยังจะมีการใช้เงิน ใช้ผลประโยชน์เข้ามาเพื่อให้ได้ ส.ส. ทำให้ ส.ส.ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น ควรเขียนบทลงโทษอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้มีการซื้อเสียง ส่วนกรณีที่เสนอให้สินบนนำจับกับพยานที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งนั้น เห็นด้วย แต่ควรจะแก้ไขกฎหมายคุ้มครองพยาน แก้ไขให้รวมถึงคดีการเลือกตั้งด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจ ความอุ่นใจให้กับผู้ที่จะมาเป็นพยาน เพราะขณะนี้กฎหมายดังกล่าวคุ้มครองพยานเฉพาะคดีอาญา


ฟุ้งนโยบายเจ๋งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
 


นายกรณ์ จาติกวนิช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองออกนโยบายเพื่อประชาชนมาแข่งขันในการเลือกตั้ง มากกว่าการเน้นการรวมกลุ่มทางการเมือง โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอแนวทางนโยบายชัดเจนถึงการกอบกู้ความเชื่อมั่นให้กลับ คืนมา โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจผ่านนโยบาย ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาศึกษาประชากรไทยโดยรวม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันนโยบายการลงทุนหลักๆหลายโครงการ ที่ไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศด้วย

โดยพรรคได้เตรียมนโยบายโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ คือ

1. สร้างรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ วงเงิน 2-2.5 แสนล้านบาท โดยเชื่อม จ.เชียงใหม่ไป อ.หาดใหญ่ เชื่อม กทม.ไปแหลมฉบัง จากแหลมฉบังไป จ.นครราชสีมา และเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจอีสาน และเชื่อมไปถึงจังหวัดชายแดนอินโดจีน  2. โครงการถนน 4 เลน โดยเชื่อมโยงจากภาคตะวันออกสู่ภาคตะวันตก และเชื่อมภาคเหนือสู่ภาคใต้ จากไทยไปประเทศมาเลเซีย จากภาคเหนือของไทยเข้าประเทศเวียดนาม เพื่อเชื่อมเข้าไปประเทศจีน โดยใช้งบลงทุนกว่า 7 หมื่นล้านบาท 3. โครงการการขยายระบบชลประทาน โดยเฉพาะในพื้นที่อีสาน งบลงทุน 1 แสนล้านบาท จะเป็นการเพิ่มแหล่งชลประทานเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี 4. โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ 5 เส้นทาง เพื่อให้ประชาชนกว่า 1 ล้านคน เข้าสู่ ระบบขนส่งมวลชน ใช้งบลงทุน 2.5 แสนล้านบาท โครงการทั้งหมดที่พรรคเสนอมีความเป็นไปได้ จับต้องได้ เป็นงบลงทุนอยู่ใต้กรอบการดำเนินการใน 5 ปี งบลงทุนรวม 8 แสนล้านบาท ไม่กระทบต่อเสถียรภาพด้านงบประมาณของประเทศ 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์