อัยการเตรียมขอส่งตัว ทักษิณ กลับไทย

วานนี้ (13 ก.ย.)  ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน จำเลยคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อศึกษาช่องทางและกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับอังกฤษ
 

นายสัมพันธ์ สาระธนะ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า

แม้ว่าความผิด 2 ประเด็นสำคัญ ที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องจำเลย ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีผลประโยชน์กับการทำนิติกรรมสัญญาของหน่วยงานรัฐ และความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จะไม่มีกำหนดไว้ใน 31 ฐานความผิดตามประกาศสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ที่ประชุมคณะทำงานเห็นว่า ในส่วนความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เป็นเงื่อนไขให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ที่ประชุมจึงมีมติที่จะให้อัยการประสานกับอัยการประเทศอังกฤษ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความชัดเจนว่า ความผิดนั้นถือเป็นความผิดในประเทศอังกฤษด้วยหรือไม่ จากนี้นายจุลสิงห์จะเสนอความเห็นให้อัยการสูงสุดทราบ เพื่อพิจารณาสั่งดำเนินการประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อส่งอัยการไปประเทศอังกฤษ
 

วันเดียวกันนี้ ที่ศาลแพ่ง ศาลได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 3879/2550

ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นจำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 2,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยศาลพิเคราะห์คำฟ้องและเอกสารท้ายคำฟ้องแล้วเห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ตามเอกสารท้ายฟ้อง ไม่มีข้อความใดที่จำเลยระบุพาดพิงถึงโจทก์ในทำนองว่าโจทก์เป็นผู้มีคำสั่งให้ทำการฆ่าตัดตอน คำให้สัมภาษณ์ของจำเลย เป็นเพียงกล่าวตอบต่อคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามถึงโจทก์ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ว่าขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานไปถึงไหนก็สาวไปถึงนั่น ไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์หรือผู้หนึ่งผู้ใดกระทำผิดฐานฆ่าตัดตอน ทั้งไม่ยืนยันว่าจะมีการฆ่าตัดตอนเพียงใดหรือไม่ เพียงแต่เสนอแนะให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว การให้สัมภาษณ์ของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามฟ้องโจทก์ พิพากษาให้ยกฟ้อง เป็นคดีแดงที่ 4142/2550