ประสงค์-สดศรีสะกิด พูดเร็วไปวันเลือกตั้ง

นางสดศรี สัตยธรรม ยืนยันว่าการกำหนดวันเลือกตั้งในขณะนี้เร็วไป


วันนี้ (28 ส.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจกรรมพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าการกำหนดวันเลือกตั้งในขณะนี้เร็วไป และที่ออกมาติงก็เหมือนกับจิ้งจกร้องทัก เพราะไม่อยากให้เกิดกรณีเดียวกับปี 2549 ที่พรรคการเมืองฟ้องร้องเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้ง ภายหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ ดังนั้น ในการประชุม กกต. วันนี้ จะขออนุมัติเชิญประชุมพรรคการเมืองทั้งเก่าและที่จดทะเบียนใหม่มาคุยกันในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ เพื่อจะได้หารือกันถึงวันเลือกตั้ง และหารือเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ 

 
เมื่อได้คุยกับพรรคการเมืองต่าง ๆ จะได้เป็นการรับทราบและยืนยัน โดยมีเจตนาร่วมกันว่าจะให้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 23 ธ.ค. ส่วนตัวดิฉันคิดว่าเร็วไปถ้าพูดออกไปก่อน หากรอประชุมก็จะดี เพราะเราต้องป้องกันไว้ก่อน ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง" นางสดศรี กล่าว 

นางสดศรี ยังกล่าวถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน


ที่ออกมาระบุว่า เป็นนอมินีของอดีตนายกรัฐมนตรีว่าคงต้องตรวจสอบ เพราะมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 มีการระบุป้องกันไม่ให้เกิดเหตุล้มล้างระบอบประชาธิปไตยและการปฏิวัติ และเปิดช่องให้สิทธิประชาชนทั่วไปฟ้องต่ออัยการได้ และในกรณีที่นายการุณ ใสงาม อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ระบุว่า มีการทุ่มเงินซื้อตัว ส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสาน ก็เช่นเดียวกัน ต้องเชิญมาให้ข้อมูลว่ามีพยานหลักฐานอย่างไรบ้าง หากยังไม่มีข้อเท็จจริงแล้วอาจจะกระทบต่อประเทศ เพราะขณะนี้เรากำลังเดินไปสู่ประชาธิปไตย
 

ขณะนี้ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) กำลังขอเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความเชื่อถือในระบอบประชาธิปไตยของเรา ประเทศที่เขาไปขอสังเกตการณ์ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา อันนี้จะกระทบมาก ถ้าเราพูดกันไปเรื่อย ๆ จะเกิดผลกระทบต่อภาพพจน์ในสายตาต่างชาติ ต่อไปจะพัวพันไปถึงเศรษฐกิจต่าง ๆ ด้วย
นางสดศรี กล่าว

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กล่าวเตือนนายกรัฐมนตรีให้ระมัดระวังการทำงานให้รอบคอบมากกว่านี้


ทางด้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ กล่าวเตือนนายกรัฐมนตรีให้ระมัดระวังการทำงานให้รอบคอบมากกว่านี้ โดยเฉพาะการเร่งกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งพูดเร็วเกินไป เพราะอาจเกิดปัญหาเหมือนเช่นรัฐบาลที่แล้ว ที่สำคัญควรให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงสอบถามความเห็นและความพร้อมจากพรรคการเมืองต่างๆ ก่อน รวมทั้งควรให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับเสร็จเรียบร้อยน่าจะเหมาะสมกว่า โดยขอให้นำตัวอย่างจากอดีตนายกรัฐมนตรีมาเป็นบทเรียน
 


น.ต.ประสงค์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการแสดงความเป็นห่วงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการใช้เงินซื้อประเทศ ว่า


การป้องกันขึ้นอยู่กับ 2 สิ่ง คือ กฎหมาย และผู้นำกฎหมายมาใช้ ซึ่งในส่วนของรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า หากมีการซื้อสิทธิขายเสียงเกิดขึ้น และหากกรรมการบริหารพรรคการเมืองใดเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกยุบพรรคทันที ขณะเดียวกันในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ได้กำหนดให้มีการยึดทรัพย์ผู้ที่ซื้อเสียงด้วย โดยนำไปโยงไว้กับกฎหมายของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์