สุดารัตน์ท้าบิ๊กบังเลิกเสือซุ่ม!

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษา ผอ.รมน. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.สนธิ ถูกทาบทามให้ลงเล่นการเมืองว่า เรื่องนี้คงตอบแทนไม่ได้ เพราะท่านยังรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร ตนไม่รู้ว่าท่านเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่คิดว่าคนที่กล้าทำรัฐประหารเพื่อกู้บ้านกู้เมืองไว้ ตนคิดว่าคนแบบนี้หายากที่เสียสละ และมีความเด็ดขาด รับผิดชอบสูง ถึงกล้าทำ ทั้งนี้หาก พล.อ.สนธิ ลงเล่นการเมืองคงไม่ใช่เพราะกลัวถูกเช็กบิล หรือล้างแค้น ในความคิดของ ตนผู้ที่เหมาะสมมาเป็นผู้นำในสภาวะประเทศชาติที่ไม่ปกติ คนที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะต้องเป็นคนดี มีความรู้ กล้าตัดสินใจ กล้ารับผิดชอบ

พล.อ.พัลลภ ยังกล่าวถึงแนวทางการลงเล่นการเมืองของตัวเองว่า

ตนมีความรู้เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและรับใช้มาโดยตลอด ตนดูว่าวันนี้ประเทศไทยยังอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ ถ้าประเทศเราไม่มีความมั่นคง ด้านสังคม เศรษฐกิจ ก็ไปไม่ได้ ตนเลยต้องอาสาเข้ามา ทั้งที่วัยของตนจะต้องพักผ่อนแล้ว ตนมีกลุ่มของตนอยู่แล้วที่จะเข้าสู่การเมือง หากถามว่าจะเล่นมั้ย ตนจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรครักชาติ เพราะพรรครักชาติยังไม่ได้จดทะเบียนพรรค

เผยมี จปร.7สนใจร่วมพรรค

เมื่อถามว่า อดีตนายทหาร จปร.7 สน ใจที่จะลงสมัครพรรครักชาติหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า มีเพียง 2-3 คน ซึ่งตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าตัวเปิดเผยเอง สำหรับตนจะลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หรือ ส.ส. แบบแบ่งเขต ขึ้นอยู่กับประชาชนที่ไปออกเสียง ส่วนตำแหน่งสำคัญในพรรครักชาติ ตนไม่ใช่เลขาธิการพรรค และหัวหน้าพรรค ทั้งนี้การเปิดตัวพรรครักชาติ คงจะเปิดตัวหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ทั้งนี้ตนตั้งใจจะลงสมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตดุสิต เพราะในอดีตเคยลงสมัครมาแล้วครั้งหนึ่ง ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่สอบตก

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า สังคมภายนอกจะมองว่าเป็นพรรคทหารเพื่อสืบทอดอำนาจ

พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่น่าห่วง เพราะทหารหลายคนพูดว่าทหารเข้ามาเล่นการเมืองไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตนยืนยันว่า ทหารเข้ามาเล่นการเมือง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ประสบความสำเร็จ ซึ่งความสำเร็จ คือเมื่อเข้าเล่นการเมืองแล้ว สามารถเป็นผู้นำประเทศได้ ตั้งแต่จอมพล ป.พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จ แต่นักการเมืองปัจจุบันมีพรรคการเมืองถึง 40 กว่าพรรค ถามว่ามีพรรคไหนที่ประสบความสำเร็จบ้าง

"ร.อ.ขจิต" ยันไม่ได้ทาบทาม

ขณะที่ ร.อ.ขจิต ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ถึงข่าวการเข้าไปทาบทาม พล.อ.สนธิ ลงเล่นการเมืองว่า ตนขอปฏิเสธ เนื่องจากไม่ได้กล่าวทาบทาม พล.อ.สนธิ เข้ามาเล่นการเมืองแต่อย่างใด เรื่องนี้จะไปพูดก่อนได้อย่างไร นอกจาก พล.อ.สนธิ จะแสดงความประสงค์สนใจเอง และเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรครักชาติ ภายใต้เงื่อนไขว่า 1. จดทะเบียนจัดตั้งพรรครักชาติแล้ว และ 2. รอให้ พล.อ.สนธิเกษียณอายุราชการแล้วดูว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร แต่ยอมรับว่าเคยพบและพูดคุยกับ พล.อ.สนธิ เนื่องจากรู้จักกันมานานพอสมควร แต่ไม่เคยหารือกันเรื่องการเมือง จะมีเพียงแค่แหย่แซวเล่นเวลาเจอหน้ากันก็หยอกไปว่า "ว่าไงท่านหัวหน้า" ก็เป็นการพูดเล่นตามประสาคนรู้จัก

ร.อ.ขจิต ยังเปิดเผยอีกว่า

เรื่องการจัดตั้งพรรครักชาตินั้น ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว มีคณะผู้จัดตั้งประมาณ 15-16 คน รอเพียงการ ยกเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 เพื่อดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองต่อไป ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคก็ว่ากันไปตามระเบียบไม่ใช่ปัญหา สำหรับที่ตั้งพรรคก็จะใช้บ้านพักของตนเป็นที่ทำการพรรคไปก่อน

สำหรับกรณีที่ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต หรือ "หมวดเจี๊ยบ" นายทหารสังกัดสำนักงานเลขานุการกองทัพบก เดินทางไป สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อมาเขียนเป็นพ็อกเกตบุ๊ก พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษา ผอ.รมน. กล่าวว่า เป็นการมุ่งทำลาย ผบ.ทบ. ตนก็เคยทำหนังสือพ็อกเกตบุ๊กใช้เวลา 6 เดือน กว่าจะออกมาเป็นเล่ม แต่นี่ใช้เวลาเพียง 21 วัน ทำออกมาอย่างดี ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง รวมถึงค่าใช้จ่ายด้วย เชื่อว่าจะต้องมีคนช่วยทำ ฉะนั้นจะต้องมีคนทำให้เป็นอย่างดี ส่วนเขาจะโดนหลอกไปหรือไม่ ตนไม่อยากพูด ตนจึงอยากฝากสมาชิกทั้งหลายว่า ให้คนติดตามเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันเป็นการทำลายกองทัพ ทำลาย ผบ.ทบ.

เมื่อถามว่า โทษของการเดินทางออกนอกประเทศจะดำเนินการอย่างไร

พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า โทษตามระเบียบคือการหนีราชการจะต้องปลดออกอย่างเดียว เนื่องจากออกนอกประเทศไม่ได้ขอผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้การออกนอกประเทศตามระเบียบจะต้องมีการอนุญาตผู้บังคับบัญชา โดยมี รมว.กลาโหม เป็นผู้อนุมัติ แต่ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ ผบ.เหล่าทัพ เป็นคนอนุญาต

"แม้ว" แหย่ออกหนังสือเล่มสอง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมืองแมนเชส เตอร์ ประเทศอังกฤษว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยอมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการเมืองที่โดน คตส. ตามอายัดทรัพย์สิน และกระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการสอบสวนคดีฆ่าตัดตอนโดยระบุว่า จะกล่าวหาอะไรก็ว่าไป อีกหน่อยอาจจะโดนข้อหาแย่งลมหายใจประชาชน

ส่วนเรื่องการเลิกเล่นการเมือง ยังยืนว่าจะเลิกเล่นการเมืองแน่นอน

เรียกว่า enough if enough และ more than enough แม้จะพ้น 5 ปี ไปแล้วก็ไม่เล่นแน่นอน เพราะเขาไม่ให้ตนทำ ตนก็ถือว่าตนได้ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งแล้ว เวลาที่เหลือจะขอมาใช้ชีวิตทางกีฬาบ้าง ถ้าใครยังกลัวตนจะกลับมาเล่นการเมืองอีกก็ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นชื่อทักษิณห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไปเลยก็ได้ นาทีนี้มีแต่ไร้เหตุผลตนเองไม่โกรธขออโหสิกรรม

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้กล่าวอีกว่า

รอให้เรื่องต่าง ๆ สงบลง ความขัดแย้งไม่มี ทุกคนเชื่อแล้วว่าตนเองจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีก ถึงวันนั้นจะมีเรื่องอะไรดีประเภทถึงกึ๋นมาเล่าให้ฟัง เรียกว่าเขียนเป็นหนังสือได้หลายเล่มทีเดียว อาจจะให้ "เจี๊ยบ" มาเขียนก็ได้ เพราะอยากให้คนรุ่นหลังรู้ว่าทำไมประเทศไทยเป็นอย่างนี้ และการเมืองถึงเป็นอย่างนี้

ส่วนเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ขณะนี้มีแต่ข่าวลบ

ตกงานฆ่าตัวตาย โรงงานปิด บริษัทปิด ปล้น รัฐบาลแทนที่จะไปดูแลงานเพื่อประชาชน แต่กลับไปกดดันไล่ล่าคนที่มีความคิดต่างกัน รัฐบาลที่ไม่บริหาร เป็นรัฐบาลที่มาจัดการกันทางการเมืองในพวกเดียวกัน แล้วประเทศจะอยู่ได้อย่างไร