จตุพร ลั่นไม่หยุดไลฟ์เฟซบุ๊กจนกว่า “สุเทพ” จะหยุด

จตุพร ลั่นไม่หยุดไลฟ์เฟซบุ๊กจนกว่า “สุเทพ” จะหยุด


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล  ตนยังจัดรายการสดผ่านเฟซบุ๊กตามเดิมในเวลา 14.30 น.ของทุกวัน ด้วยความเชื่อว่าทำตามหลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิฯ ไม่มีความผิด และจะจัดไปจนกว่านายสุเทพยังจัดอยู่ หากนายสุเทพเลิก จะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพราะการชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญผ่านถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กนั้น ทำให้ประชาชนตื่นตัวมากขึ้น ยิ่งนายสุเทพออกมา ยิ่งทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยตัดสินใจได้แน่ชัดขึ้นว่า จะไปใช้สิทธิ์ออกเสียงทำประชามติ

ทั้งนี้ เริ่มเกิดปัญหาขึ้นเมื่อผมออกมาพูดสดเหมือนนายสุเทพ โดยเกิดปฏิกิริยาจากผู้มีอำนาจ คสช.ที่ต้องการให้หยุด แต่ไม่มีใครมาคุยกันผม ดังนั้น ผมต้องจัดสดต่อไป เมื่อนายสุเทพพูดแห้งและหลอกสดอยู่ ตนก็จัดสดต่อไป

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ระบุว่า นายสุเทพอัดเทปไว้แล้วมาออกอากาศสด จึงทำให้การจัดรายการของตนมีความเสี่ยงเข้าข่ายทำผิดกฎหมายได้มากกว่า ตนจะระมัดระวังมากขึ้น แม้ตนจัดรายการสด แต่จะไม่ชี้นำให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเด็ดขาด ไม่ใช้คำพูดหยาบคายอันเป็นข้อห้ามของกฎหมายประชามติ การชี้แจงจะเน้นร่างรัฐธรรมนูญมากล่าวอ้างเป็นหลัก

ประธานนปช. กล่าวว่า ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงจุดยืนไม่ลาออกจากนายกฯ ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามตินั้น พล.อ.ประยุทธ์ มาจากการยึดอำนาจ การลาออกหรือไม่ย่อมเป็นการตัดสินใจส่วนตัว สำหรับตนแล้วยืนยันเสมอว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าผลประชามติออกมาผ่าน ตนไม่ลงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความเชื่อและการรับผิดชอบของคนเล็กๆ แล้วฝ่ายที่รับร่างรัฐธรรมนูญจะแสดงการรับผิดชอบอย่างไร ยังไม่มีใครให้ความชัดเจนสักคน

นายจตุพร กล่าวถึงนักศึกษาทั้ง 7 คนที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรุงเทพฯ โดยไม่ขอใช้สิทธิ์ประกันตัวเองว่า นักศึกษาในวัยคนหนุ่มสาวนี้ ราวกับเป็นของร้อนต่อผู้มีอำนาจคสช. ยิ่งนานวันความร้อนยิ่งเพิ่มขึ้น การจัดการจากฝ่ายอำนาจรัฐควรต้องระมัดระวัง

นักศึกษา คนหนุ่มสาว เป็นคนที่น่ายกย่องกับการเสียสละอิสรเสรีภาพ เพื่อแลกกับการเปิดพื้นที่ประชาธิปไตยของประชาชนให้เติมเต็มยิ่งขึ้น ตนขอส่งเสียงไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เมื่อนักศึกษาเลือกติดคุกแล้ว กระบวนการในเรือนจำอย่าได้ซ้ำเติมกันอีก การกระทำต่างๆ นั้นปิดกันไม่มิด ทั้งนี้ ขอคารวะจิตใจคนหนุ่มสาวที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอธรรม ต่อต้านกับเผด็จการ สะท้อนให้เห็นว่าประเทศยังมีอนาคต ถ้าคนหนุ่มสาวอยู่นิ่งเฉย ไม่ออกมาต่อสู้แล้ว ประเทศย่อมหมดอนาคต คนหนุ่มสาวจึงเป็นผู้จุดประกายความหวังให้ประชาชน และประเทศได้ลุกโชติขึ้นด้วยความเชื่อมั่นตามกติกาการปกครองแบบประชาธิปไตย


Cr.khaosod

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์