นักวิชาการ ชี้เลือกตั้ง2เม.ย.ไม่ชอบธรรม ลุ้นศาลปค.วินิจฉัยโมฆะ

นักวิชาการ ชี้เลือกตั้ง2เม.ย.ไม่ชอบธรรม ลุ้นศาลปค.วินิจฉัยโมฆะ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2549 22:10 น.

นักวิชาการ ระบุเลือกตั้ง2เม.ย.ควรเป็นโมฆะ ชี้เป็นจุดเปลี่ยน ยิ่งดึงดันยิ่งสร้างความแตกแยก เชื่อทรท.อาศัยช่องกม.เปิดสภาแม้เสียงส.ส.ไม่ครบ เชื่อหากตั้งรัฐบาลรักษาการไม่ชอบธรรมกระทบภาพรวมเศรษฐกิจทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสระยะยาว แนะแก้ต้นเหตุสร้างจริยธรรมนักการเมือง

วันนี้(8 เม.ย.) ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จัดเสวนาวิชาการเรื่อง การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม หลัง 2 เมษายน 2549 เวลา 14.00 น. วันนี้ (8 เม.ย.) ที่อาคารสำนักอธิการบดี จัดโดยสถาบันวิจัยสังคมและเศรษฐกิจ มีนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ร่วมกันวิเคราะห์ทิศทางของประเทศหลังการเลือกตั้ง โดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ทางแพร่ง 2 ทาง คือ การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน จะเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอดูการวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดที่จะชี้ขาด

นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาควรเป็นโมฆะ และหากการเลือกตั้งเป็นโมฆะจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศอย่างกว้างขวาง แต่หากการเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะและประชาชนยังปล่อยให้ผ่านไป เชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งที่สะสมจนทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในเดือนพฤษภาคม ทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนพฤษภา 2535 แต่จะรุนแรงกว่าเดิม

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชอบใช้ตัวเลขในการหลอกคน หากพิจารณาลงไปจะเห็นเหตุผลที่คนเลือก ส.ส.ปาร์ตี้ ลิสต์ ในแต่ละเขต เป็นเพราะความชื่นชอบ ส.ส.ในพื้นที่ แต่นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าเสียงทั้ง 16 ล้านเสียง เป็นการเลือกตัวเอง จากแนวความคิดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นมุมมองที่มองการเมืองจากธุรกิจ มีความต้องการผูกขาดธุรกิจ ผูกขาดการเมือง จึงหวังว่าหากทุกฝ่ายไม่ปล่อยให้การเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมผ่านไป จุดเปลี่ยนสำคัญก็จะเกิดขึ้น นายเจิมศักดิ์ กล่าว

ด้านนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ยอมออกจากตำแหน่งง่าย ๆ เพราะคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรียังไม่พอใจกับผลประโยชน์ที่ได้ คนเหล่านี้จะไม่ยอมให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งและออกจากวงจรนี้ไป แต่คนเหล่านี้จะพยายามพลิกแพลงให้นายกรัฐมนตรียังมีอำนาจต่อไป และเชื่อว่าพรรคไทยรักไทยจะมีความพยายามให้ได้ ส.ส.จำนวนมากที่สุด และจะใช้ช่องของรัฐธรรมนูญมาตรา 98 วรรค 2 ที่กำหนดว่าเมื่อตำแหน่งผู้แทนว่างลง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ให้ ส.ส.ที่มีอยู่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ทั้งที่มาตราดังกล่าวมีเจตจำนงเพื่อใช้ในกรณีที่ ส.ส.เสียชีวิต หรือต้องคดีอาญา ทำให้จำนวน ส.ส.ไม่ครบ

ผมเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นแนวทางที่พรรคไทยรักไทยได้วางไว้แล้ว และจะถูกใช้เป็นทางออกของการเลือกตั้ง นายไตรรงค์ กล่าว

สำหรับผลกระทบของการเลือกตั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม นายไตรรงค์ กล่าวว่า มีความน่าเป็นห่วงต่อสถานะของสถาบันการเงินของรัฐที่ตอบสนองนโยบายในการปล่อยสินเชื่อรัฐบาล ทำให้มีจำนวนหนี้สะสมจำนวนมาก เมื่อภาวะเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวและปัญหาเหล่านี้สะสมนานเข้า คำกล่าวที่นายกรัฐมนตรีพยายามอ้างให้คนกลัวว่าหากไม่เลือกพรรคไทยรักไทยประเทศไทยจะต้องเข้ารับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะกลายเป็นความจริง และไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลปัญหาจากความเสี่ยงดังกล่าวอาจจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องเข้าไอเอ็มเอฟ

ส่วนผลกระทบทางสังคมเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่แล้วคือภาพความขัดแย้งระหว่างประชาชนในส่วนต่าง ๆ สังคมจะแตกแยกกันมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะจะมีการปลุกเร้าให้คนออกมาปกป้องระบอบทักษิณ นายไตรรงค์ กล่าว

ด้านนายวิรไทย สันติประภพ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์ลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ผลกระทบของการเลือกตั้งในระยะสั้นจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งว่าจะเป็นโมฆะหรือไม่ ถ้าผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะจะกระทบต่อเศรษฐกิจถึงไตรมาสที่ 34 ส่วนผลกระทบในระยะยาวประเทศไทยกำลังถึงจุดเปลี่ยนทางเศรษฐกิจที่ต้องทบทวนและให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจระยะยาว หากรัฐบาลรักษาการเกิดขึ้นในช่วงนี้มีนัยในการจัดตั้งด้วยเหตุผลทางรัฐศาสตร์ ประเด็นสำคัญเหล่านี้อาจถูกทอดทิ้ง และส่งผลกระทบทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสในระยะยาว

ผมเป็นห่วงอนาคต ส.ว.ที่กำลังจะได้รับการเลือกตั้งมาใหม่ เพราะเมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้สมัครพบว่ามีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์น้อยมาก ดังนั้น การตรวจสอบทางนโยบายของรัฐบาล โดยสภาสูงจึงอาจะได้รับผลกระทบด้วย นายวิรไทย กล่าว

ด้านนายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาวิกฤติการเมืองที่กำลังเผชิญอยู่คือการที่ไม่มีผู้ใดที่รู้สึกต่อปัญหาทางจริยธรรมของนักการเมือง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่หากประชาชนยอมรับ ปล่อยให้พฤติกรรมดังกล่าวคงอยู่ และหากการเลือกตั้งดำเนินต่อไปจะส่งผลให้มีรัฐบาลพรรคเดียว ผลประโยชน์จะตกอยู่เฉพาะกับคนกลุ่มเดียว และปัญหาทางด้านจริยธรรมจะไม่ได้รับการแก้ไข

การที่ผลการเลือกตั้ง ส.ส.บางเขต ที่มีผลคะแนนไม่เลือกใคร มากกว่าคะแนนที่ผู้สมัครได้รับเลือก สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความชอบธรรมที่จะดำรงตำแหน่ง การเลือกตั้งที่ผ่านไปไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่ต้นคือตั้งแต่การยุบสภา ดังนั้น ผลที่เกิดต่อมายังผู้สมัครคือความไม่ชอบธรรม ปัญหาของประเทศในขณะนี้คือปัญหาจริยธรรม หากผู้บริหารประเทศอายไม่เป็น การแก้ไขปัญหาของประเทศคงมีแต่ความลำบาก นายสมบัติ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์