หิ้ว‘วัฒนา’เข้ามทบ.11 คสช.กักยาว พท.แถลงจี้‘ปล่อยตัว’

หิ้ว‘วัฒนา’เข้ามทบ.11  คสช.กักยาว  พท.แถลงจี้‘ปล่อยตัว’


หิ้ว‘วัฒนา'เข้ามทบ.11คสช.กักยาวพท.แถลงจี้‘ปล่อยตัว'ดิ้นร้องยูเอ็น-อียู-ทูตมะกันชี้ไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน‘บิ๊กป้อม'เข้มสั่งห้ามใส่เสื้อรณรงค์‘โหวตโน-เยส'รธน.วิษณุยันยำรวม4ฉบับทำได้

เมื่อเวลา 10.22 น. วันที่ 18 เมษายน ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อน นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.)จะเดินทางมาถึงมทบ.11 ว่านายวัฒนาได้ทำจดหมายถึง นายบัน คี มูนเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย โดยเนื้อหาชี้แจงถึงความไม่ชอบธรรมของการเรียกปรับทัศนคติที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นอกจากนี้ จะยื่นหนังสือดังกล่าวไปถึงบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องอีก 20แห่งทั่วโลก โดยวันนี้มีตัวแทนจากสถานทูตต่างประเทศ อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ต่อการกระทำของทหารที่มีต่อผู้แสดงความเห็นทางการเมือง ขณะเดียวกัน วันที่ 19เมษายน องค์กรสิทธิมนุษยชนจะออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวด้วย

‘วัฒนา'โผล่เข้ามอบตัวตามนัด

ต่อมาเวลา 10.50น.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯและแกนนำพรรคเพื่อไทย มารอให้กำลังใจ นายวัฒนา ที่ร้านค้าสวัสดิการมณฑลทหารบกที่ 11 โดยทันทีที่ นายวัฒนา เดินทางมาถึง พร้อมลูกสาวและทีมทนายความ ได้เดินมาที่ร้านอาหาร ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มทบ.11 แต่เจ้าหน้าที่ทหารกว่า 10คน ได้ตาม นายวัฒนา มา เพื่อนำตัวเข้า มทบ.11 พร้อมระบุว่า อยากให้เข้าไปตามเวลาที่ได้นัดหมาย ซึ่ง นายวัฒนา ได้เจรจาต่อรองขอพูดคุยกับ นายจาตุรนต์ และผู้แทนจากสถานทูตนอร์เวย์ แคนนาดาและสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเวลา 5นาที

ขู่บ่าย3ต้องปล่อย-ปัดลี้ภัยลาว

จากนั้น นายวัฒนา ได้ออกมาพบทหารเพื่อนำตัวเข้า มทบ.11 พร้อมกล่าวกับลูกสาวว่า"บ่ายสามโมงพ่อออกมา เขาเรียกพ่อมารายงานตัว ถ้าไม่ได้ออกมาในเวลาดังกล่าว แสดงว่าใช้อำนาจบังคับให้พ่ออยู่"

ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นหนังสือไปต่างประเทศเป็นการนำต่างชาติมากดดันไทยหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ไม่ใช่ และยืนยันตนไม่คิดจะลี้ภัยตามที่เป็นข่าว เพราะบ้านผมอยู่ที่นี่ ไม่คิดไปไหน จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหาร ได้คุมตัวนายวัฒนา ขึ้นรถตู้ เข้าไปภายใน มทบ.11ทันที


หิ้ว‘วัฒนา’เข้ามทบ.11  คสช.กักยาว  พท.แถลงจี้‘ปล่อยตัว’


แจงผิดม.44-ขัดคำสั่งหัวหน้าคสช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้แจกเอกสารแสดงเหตุผลการควบคุมตัว นายวัฒนา ในครั้งนี้ว่า นายวัฒนาได้กระทำผิดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว2557 มาตรา44และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่13/2559 เรื่องการป้องกัน และปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายชาติ ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ลุ้นปล่อยตัวบ่ายสามโมงหรือไม่

ด้านนายนรินพงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความส่วนตัวนายวัฒนาให้สัมภาษณ์หลังทหารคุมตัว นายวัฒนา เข้ามทบ.11 ว่า เดิมมีการนัดนายวัฒนาที่บ้าน แต่ปรากฎสุดท้ายทหารขอให้เดินทางมาที่มทบ.11จึงเกิดความสับสน แต่ขอเรียนว่า นายวัฒนาพร้อมไปตามคำสั่งทหาร แต่ไม่ได้เต็มใจไป เพราะไม่ได้ขัดคำสั่งที่ 3/2558 ของคสช.หากไม่มาตามนัดก็จะหาว่าขัดขืนโดยนายวัฒนา ฝากไว้ว่า หากเวลา15.00น.ไม่ปล่อยตัวถือว่ากักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้เสียอิสรภาพและจะฟ้องผู้เกี่ยวข้องทุกคน

อย่างไรก็ตาม นายวัฒนา มองว่า การวิจารณ์รัฐธรรมนูญเป็นสิทธิของทุกคน และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด นักวิชาการ พรรคการเมืองสองพรรคใหญ่ ออกมาวิจารณ์ แต่กลับเรียกนายวัฒนาไปเพียงคนเดียว เป็นการกระทำแบบไม่เสมอภาค ส่วนหนังสือที่ยื่นไปยังนาย บัน คี มูน รวมถึงยื่นให้สหประชาชาติ แคนนาดา ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา โดยให้เหตุผลว่ารัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา4 ให้สิทธิแสดงความเห็น สิทธิแสดงออกตามปฏิญญาสากลโลกได้ แต่วันนี้กลับทำไม่ได้ จึงต้องร้องเรียนไปยังต่างชาติว่า ถูกลิดรอนสิทธิ ไม่ใช่เป็นการยืมมือต่างประเทศมากดดันไทยและทหารไทย

ลูกสาวบุกทวงให้ปล่อยตัวพ่อ

เวลา 15.00น.น.ส.วีรดา เมืองสุข บุตรสาว นายวัฒนา พร้อม นายนรินพงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความส่วนตัวนายวัฒนา เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าว่า นายวัฒนา จะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ โดย นายนรินพงศ์ กล่าวว่า เรามาถามว่า นายวัฒนา จะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ หากไม่ปล่อยจะได้เตรียมยาประจำตัวมาให้ พร้อมอยากทราบเหตุผลการควบคุมตัว เพราะแผ่นปลิวที่ทหารนำมาแจกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น เราไม่สามารถรับได้ เพราะไม่มีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร หากจะแจ้งข้อกล่าวหาต้องมีเอกสารที่มีการลงนามอย่างเป็นทางการเพื่อจะได้เตรียมข้อต่อสู้ทางกฎหมาย

ทนายขู่ยื่นฟ้องอียู-ทูตมะกัน

ต่อมา เวลา 16.30น.นายนรินท์พงศ์และน.ส.วีรดา เดินทางมาถามเจ้าหน้าที่ทหารอีกครั้งว่า นายวัฒนา จะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ โดย นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า การไม่ปล่อยตัวถือเป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยวและจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป แต่วันนี้ยังไม่ขอแจ้งความ เพราะเรารอคำตอบอยู่แต่วันที่19เมษายนจะไปยื่นหนังสือถึงสหภาพยุโรป (อียู)และวันที่ 20เมษายน จะไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตสหรัฐฯเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ

ไร้คำตอบถอยกลับปักหลักบ้าน

ขณะที่ น.ส.วีรดา กล่าวว่า "ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นคุณพ่อถูกปฏิบัติแบบนี้มาก่อน รู้สึกโกรธเหมือนกัน แต่ที่สำคัญ อยากรู้ว่าคุณพ่อปลอดภัยหรือไม่ เราไม่ได้ขอเกินเลยกว่าสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนได้รับและก็ต้องฝากให้คุณพ่อดูแลสุขภาพด้วย เพราะเป็นคนเจ้าโรคอยู่แล้ว" จากนั้นทั้งหมดเดินทางกลับติดตามข่าวที่บ้านพักต่อไป

คสช.กักตัว"วัฒนา"ยาวไม่มีกำหนด

แหล่งข่าวจาก คสช.เปิดเผยว่า การที่ นายวัฒนา อ้างว่า ถูกกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนตามกฎบัตรสหประชาชาตินั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชน หมายถึงการใช้อำนาจตามอำเภอใจ ที่ไม่มีกรอบกฎหมายให้อำนาจ แต่ที่ผ่านมาเจ้าพนักงานเขามีกรอบกฎหมายให้อำนาจ เขาก็ทำตามอำนาจที่กฎหมายให้มา เขาไม่ได้เป็นศัตรูกับคุณ การอ้างประชาชนต้องรักชาติ ให้ประชาชนอยู่เย็น เป็นสุข มีความสุข ไม่ใช่หาเรื่องให้คนออกมาเกลียดชังกัน มาตีกัน แบ่งข้างกัน ดังนั้น คสช.จำเป็นต้องควบคุมตัว นายวัฒนา โดยยังไม่กำหนดว่า จะควบคุมตัวกี่วัน ซึ่งนายวัฒนา ได้เซ็นรับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พท.ออกแถลงการณ์จี้ปล่อยตัว

ขณะที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์สรุปว่า พรรคเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานและไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงไม่ควรถูกกล่าวอ้างจาก คสช.ว่า เป็นภัยต่อความมั่นคง หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยและไม่ควรถูกควบคุมตัว จึงขอเรียกร้องให้ คสช.เปิดโอกาสให้บุคคลที่เห็นต่างได้แสดงออก ยิ่งในภาวะที่บ้านเมืองต้องการความปรองดองสมานฉันท์ด้วยแล้ว คสช.ต้องไม่ใช้อำนาจพิเศษของตนเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน


หิ้ว‘วัฒนา’เข้ามทบ.11  คสช.กักยาว  พท.แถลงจี้‘ปล่อยตัว’


บิ๊กป้อมซัดเอาหน้าเพื่อนายใหญ่

ด้านพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเชิญตัว นายวัฒนา เมืองสุข มาพูดคุยว่าเดี๋ยว คสช.จัดการเอง ไม่ต้องห่วง ตนพูดไว้แล้ว นายวัฒนา พูดกี่ครั้ง ก็จะเชิญเท่านั้น ก็พูดกันไม่เข้าใจ ตนบอกแล้วไม่ใช่เวลาต้องออกมา ช่วงนี้ให้อยู่เฉยๆ ให้เราทำงานตามมุ่งหมายให้ได้ ไม่ใช่เก่งหรอก แค่เรียกคะแนนเสียง แบบนี้ใครก็ทำได้ ส่วนจุดประสงค์จะขอลี้ภัยหรือไม่นั้น ไม่ทราบ อยากไปไหนก็ไปหรือทำเพื่อเอาหน้านายใหญ่ก็ไม่รู้เพราะตนไม่มีนายใหญ่

อ้าง'วิษณุ'ยำ4ฉบับยังแค่แนวคิด

พล.อ.ประวิตร ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านทำประชามติจะนำ รัฐธรรมนูญปี40-50 มาปรับใช้ ว่า ยังไม่มีความชัดเจน เป็นเพียงแนวคิด หากไม่ผ่านประชามติก็ต้องแก้ รธน.ชั่วคราวและดำเนินการ ซึ่งเป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ว่า จะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

"สิ่งที่ นายวิษณุ พูด เป็นเพียงแนวคิดของท่าน ทั้งนี้ทุกอย่างอยู่ในอำนาจของหัวหน้า คสช.ส่วนความเป็นไปได้ที่จะใช้ฉบับปี50และเขียนบทเฉพาะกาลขึ้นมานั้น ผมยังพูดไม่ได้ เพราะทั้งฉบับปี40และ50 มีปัญหาทั้งนั้น คงต้องดูกันว่า ต้องทำอย่างไร รอให้หัวหน้า คสช.ตัดสินใจ เพราะจะมีการประชุม คสช.กับคณะรัฐมนตรี(ครม.) คงได้ภาพรวมออกมา" พล.อ.ประวิตร กล่าว

ห้ามใส่เสื้อรณรงค์"โหวตโน-เยส"

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีนักวิชาการออกมาต่อต้านและรณรงค์ไม่รับร่าง รธน.ว่า คงรณรงค์ไม่ได้ ห้ามรณรงค์ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ ชอบก็ชอบ รวมถึงการใส่เสื้อโหวตโน หรือโหวตเยส ก็ไม่ได้ จะไม่มีการเชียร์ หากเจอต้องถอดออก อย่างไรก็ตาม เราทำตาม รธน.ทุกอย่างเพราะเป็นกฎข้อบังคับและเป็นกฎหมายที่ใหญ่ที่สุด

‘วิษณุ'โยนคสช.แก้ไขถ้าถูกคว่ำ

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงคัดค้านการนำรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับ มาปรับใช้ใหม่ หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ว่า ตนแค่บอกว่าสามารถทำได้ ที่จะหยิบฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมาเป็นต้นแบบ เมื่อถามว่า กรณีประชามติร่างแล้วไม่ผ่าน มีการเสนอให้นำรัฐธรรมนูญปี50 มาใช้ แล้วเอาบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญปี59 มาใส่เลย นายวิษณุ กล่าวว่า เท่ากับใช้รัฐธรรมนูญปี50 เป็นหลัก ถ้าอย่างนั้น ก็จะตอบไม่ได้ว่า ยึดอำนาจทำไม ในเมื่อกลับไปใช้กฎกติกาเดิม ถ้าหากเอารัฐธรรมนูญปี40 มาแล้วบทเฉพาะกาลใส่ลงไป ก็จะเกิดคำถามว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผบ.ทบ.ยึดอำนาจทำไม ดังนั้น ควรเอาส่วนดีของแต่ละฉบับมา อย่าไปคิดว่าทำไม่ได้ แน่นอนว่า การร่างยังต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญชั่วคราวและต้องร่างให้เสร็จตามโรดแมปเลือกตั้งปี60 จะไม่เคลื่อนธงไปไหน

ยันนักวิชาการไม่รับร่างไม่ผิด

ส่วนที่มีกลุ่มนักวิชาการออกมาเคลื่อนไหว"โหวตโน"นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการ ไม่เข้าข่ายความผิดและไม่ได้เป็นการชี้นำ โดยวิธีสัญญา บิดเบือน หลอกล่อถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะมีความผิดตามมาตรา62ของ พรบ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้จุดอ่อนที่นักวิชาการบอก 3-4ข้อ ถือเป็นการแสดงออกที่มีเหตุมีผล ไม่มีการเมืองซ่อนเร้น

เมื่อถามอีกว่าถ้าร่างไม่ผ่านประชามติคสช.ควรจะปลดประเด็นที่ฝ่ายต่างๆ ไม่เห็นด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องรอให้ผลออกมาก่อน รวมทั้งใช้ กรธ.ชุดเดิมมายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่นั้น ก็เป็นไปได้ทุกทางและเป็นไปได้ที่จะตั้ง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงตนก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ปชป.ชี้กม.ประชามตินำสู่ปัญหา

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึง ร่าง พรบ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า เป็นกฎหมายที่มีเนื้อหาสาระหลายส่วนที่นำไปสู่ปัญหาเมื่อนำไปใช้ปฏิบัติจริง มีการตีความกันพอสมควรว่า อะไร ทำได้ หรือทำไม่ได้ มากน้อยแค่ไหน จึงขอเรียกร้องให้ นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ซึ่งรักษาการตามกฎหมายประชามตินี้ มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือ คำสั่งโดยความเห็นชอบของ กกต.ควรออกฎเกณฑ์และกติกาให้ชัดเจนว่า อะไรทำได้ หรือไม่ได้

กกต.เคาะ7ส.ค.ลงมติร่างรธน.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รักษาการเลขาธิการสำนักงาน กกต.แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติกำหนดให้วันที่ 7สิงหาคม เป็นวันออกเสียงประชามติ ส่วนระเบียบต่างๆ ทางสำนักงานได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ขณะนี้รอเพียง พรบ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการประชุมพิจารณาประกาศใช้ระเบียบต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์