ทนายทักษิณบุก คตส.จี้ยกเลิกอายัด

ทนายทักษิณบุก คตส.จี้ยกเลิกอายัด


เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สถานที่ทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นายอำนวย ธันธรา ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาการยื่นพิสูจน์ทรัพย์สิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกฯ  มายื่นหนังสือขอให้มีการเพิกถอนการอายัดทรัพย์ว่า ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณได้มายื่นเรื่องขอพิสูจน์ทรัพย์สินที่ถูก คตส.สั่งอายัด โดยคณะอนุกรรมการได้นัดหารือในวันที่ 8 ส.ค. ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการหารือได้ ส่วนที่ทีมทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กำหนดให้ คตส.พิจารณาใน 7 วันนั้น คงไม่สามารถทำได้ เพราะต้องใช้เวลาในการพิจารณา 


ดึงเกมพิจารณายกเลิกอายัดทรัพย์
 


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก คตส.ว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาดำเนินการพิสูจน์ทรัพย์สินเพื่อการเพิกถอนอายัดทรัพย์คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน กว่าจะพิจารณาได้เสร็จสิ้น เพราะเบื้องต้นคณะอนุกรรมการฯได้ตรวจสอบระเบียบและข้อกฎหมายแล้วพบว่าเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะกระบวนการพิสูจน์การได้มาของทรัพย์สินที่สำคัญคณะอนุกรรมการฯต้องรอผลสรุปการสอบสวนของคณะอนุกรรมการชุดต่างๆที่เชื่อมโยงกับการได้มาของทรัพย์สิน โดยเฉพาะเงินที่ได้มาจากการซื้อขายหุ้นที่คณะอนุกรรมการจะต้องรอผลสรุปทั้งของชุดคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเอื้อประโยชน์กิจการในเครือบริษัทชินคอร์ปกรณีลงค่าสัมปทานโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพสามิต ชุดนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธาน เพื่อดูว่าคณะอนุกรรมการฯสรุปผลออกมาว่าหุ้นชินคอร์ปที่ขายออกไปเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ รวมทั้งได้มาโดยชอบหรือไม่ ได้มาโดยผิดปกติหรือไม่


“นพดล” วอน คตส.เพิกถอนอายัด

ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางมายัง คตส. เพื่อยื่นหนังสือเพื่อให้มีการเพิกถอนการอายัดตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 27 ก.ค. รายละเอียดในการถอนการอายัดในครั้งนี้ประกอบด้วย 1. ขอให้ คตส.เพิกถอนการอายัดทรัพย์สินในส่วนของมูลนิธิไทยคมจำนวน 200 ล้านบาท 2. ทรัพย์สินในส่วนของ บ.เอส ซี ออฟฟิสพลาซ่า จำกัด ประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ทีมทนายที่ไปได้กำชับทางคณะอนุกรรมการพิจารณาอายัดทรัพย์ว่า ขอให้ดำเนินการพิจารณาภายใน 7 วัน เนื่องจากทั้งทรัพย์ที่ถูกอายัดในสองรายการนี้มีผลกระทบต่อการลงทุนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะมูลนิธิไทยคม ที่เป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือเด็กยากจนและเตรียมใช้เงินผลักดันเยาวชนไทยเข้าสโมสรแมนฯซิตี้ด้วย การอายัดทรัพย์นั้นทำให้เด็กยากจนเดือดร้อน เพราะไม่ได้รับเงินจากมูลนิธิ จึงอยากให้ขอไต่สวนในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน อยากให้ คตส.ร่วมบุญด้วยการถอนอายัด สาเหตุที่ยื่นแค่ 2 รายการ เนื่องจากข้อมูลมีความพร้อมมากสุด ส่วนการจะขอเพิกถอนอายัดในส่วนที่เหลือจาก 5 หมื่นล้านนั้น ทางทีมทนายความกำลังรวบรวมข้อมูลตลอดจนหลักฐานๆต่างเพื่อถอนอายัดในโอกาสต่อไป 


เผย ทักษิณ จ้องเบี้ยวศาลคดีที่ดินรัชดา


วันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เข้าพบพนักงานสอบสวน สำนักการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอเลื่อนวันนัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีปกปิดรายละเอียดสัดส่วนหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ของนางบุษบา ดามาพงศ์ อดีตกรรมการผู้มีอำนาจ พร้อมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื้อหามีใจความว่า บริษัทเอสซี แอสเสทฯไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาของดีเอสไอ จากนั้นนายพิชิฏให้สัมภาษณ์ว่า ได้มายื่นเรื่องต่ออธิบดีดีเอสไอให้ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม อย่าเร่งรัดหรือเลือกปฏิบัติเพียงแค่เห็นว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดจะเข้าพบพนักงานสอบสวนในคดีเดียวกันนี้ ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่กำหนดวันเวลา แต่เบื้องต้นยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศไทยหลังการเลือกตั้งแล้ว และน่าจะใช้ เหตุผลนี้เป็นแนวทางเดียวกันในการต่อสู้คดีที่ดินย่านรัชดาฯ ที่ศาลนัดไต่สวนนัดแรกในเดือน ส.ค.นี้ 


เว็บไซต์รัฐประจานทุจริตทักษิณ
 


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนันต์ วงศ์อนันต์ ผอ.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ (ศปชท.) ในคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะ วิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก (วอร์รูม) ให้สัมภาษณ์ ถึงการดำเนินการเปิดเว็บไซต์เพื่อตอบโต้เว็บไซต์ “ทรูทักษิณ” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปในเบื้องต้นมอบหมายให้ ศปชท.เป็นผู้ดำเนินการเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่ เพื่อชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ โดยไม่มีการบิดเบือน และจะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศจัดทำเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนจะเปิดได้เมื่อใดและรูปแบบไหนคงต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หรือไม่เกินวันที่ 15 ส.ค. ทุกอย่างจะได้ข้อสรุป ส่วนชื่อเว็บไซต์มีการเสนอมาหลายชื่อ เช่น True Thai land.com ส่วนงบประมาณที่นำมาใช้อาจไม่ถึง 3-5 ล้านบาท ทั้งนี้ การเปิดเว็บไซต์ของรัฐบาลถือว่าไม่ช้าเกินไป เพราะผลการตรวจสอบของ คตส.กำลังจะออกมาจะส่งผลกระทบกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริง เนื่องจากถึงวันนั้นจะต้องมีการพัฒนาการด้านข้อมูลจะทำให้เกิดความสับสน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์