บิ๊กคมช.ลั่นไม่ออกพรก.ฉุกเฉิน ย้ำตำรวจหลีกเลี่ยงความรุนแรง

“อนุพงษ์” ระบุ

ยังไม่ถึงขั้นประกาศพรก.ฉุกเฉิน ชี้ ตำรวจอดทนเพราะไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ย้ำตร.ขอหมายศาลจับแกนนำเปิดทางสู้คดีในศาล เชื่อสถานการณ์ไม่บานปลาย วอนปชช.รวมพลังเพื่อประเทศชาติสงบเรียบร้อย


(23กค.) ที่กรมสารวัตรทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรับมือการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ว่า ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการ ผบ.ตร. จะประชุมสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและหาทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

ส่วนการที่กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าด่านตำรวจมาชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์นั้น
 
เป็นเจ้าหน้าที่ไม่อยากใช้ความรุนแรง ตั้งแต่ม็อบฝ่าแนวกั้นที่ 1 และแนวที่ 2 มา เพราะจะเกิดผลกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุม ซึ่งบางส่วนไม่ได้มีความตั้งใจที่จะใช้ความรุนแรง


เมื่อถามว่า

กลุ่มนปก. ฝ่าด่านได้เพราะเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ผิดพลาดหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เราไม่อยากใช้ความรุนแรงมากหรือน้อย อยากให้ทุกอย่างสงบ เพราะสถานการณ์ทุกอย่างไม่เอื้อกับเศรษฐกิจอยู่แล้ว อยากให้ค่อยพูดจากัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่อยากใช้ความรุนแรง


เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ต้องปรับการทำงานหรือไม่ เพราะนปก.สร้างสถานการณ์มากกว่าการชุมนุมอย่างสงบ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า
 
เราพยายามควบคุมสถานการณ์ให้อยู่กรอบของกฎหมาย และไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่ให้เป็นช่องทางสร้างสถานการณ์ให้บานปลาย ทั้งนี้คมช. พยายามจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติตามกฎหมาย รักษากฎหมายให้สถานการณ์สงบเรียบร้อยเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งการจะใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ก็ให้ใช้สิทธิ์ในขอบเขตกฎหมาย สิ่งใดที่ทำให้เกิดความวุ่นวายหรือล่อแหลมที่จะเกิดความเสียหายของชาติต้องขอร้องไม่ให้ทำ


เมื่อถามว่า ความรุนแรงของผู้ชุมนุมถึงขั้นต้องประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า
 
“ยังไม่ถึงขั้นนั้น” เมื่อถามว่า วันนี้จะมีการแจ้งจับแกนนำนปก. จะส่งผลต่อสถานการณ์การชุมนุมหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทราบอย่างเดียวว่าเมื่อมีคนทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็มีการแจ้งจับดำเนินคดีและใช้หมายศาลก็ว่ากันไปตามนั้น ผลก็ว่ากันใครผิดใครถูก ทั้งนี้ต้องพยายามรักษาสภาพบ้านเมืองให้มีกฎหมายบังคับใช้ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย คนถูกกล่าวหาต้องสู้ทางกฎหมาย


เมื่อถามว่า คมช.จะมีการขอคำแนะนำจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า
 
คงไม่มี ท่านอยู่ของท่าน เราก็คงไม่ไปขอ เมื่อถามว่า จากนี้ไปจะมีการดูแลสถานที่สำคัญหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้ดูแลจุดใดเป็นพิเศษ การที่ผู้ชุมนุมเข้าในเขตพระราชฐานมาตั้งแต่แรก ทั้งในลานพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณใกล้เคียง ไม่อยากให้เข้าอยู่แล้ว ตามที่แจ้งกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วว่าไม่ให้เข้ามาในเขตนี้ แต่เมื่อเขาใช้ความรุนแรงเข้ามาก็ต้องมาคิดว่าสกัดอย่างไรไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว


เมื่อถามว่า การสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังบกพร่องอยู่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

หากดูภาพรวมแล้วก็ดี ไม่มีประชาชนบาดเจ็บหรือล้มตาย มาตรการดูว่าเบาไป แต่แนวคิดที่ว่าตำรวจเข้าไปสกัดม็อบจะต้องไม่ใช้อาวุธ เป็นไปตามที่เราได้สั่งการไว้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ถึงมีแต่โล่ ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่นั้น ตำรวจพยายามเจรจา เพื่อให้สลายการชุมนุมและการนำกำลังเข้าสลายให้ใช้โล่เพียงอย่างเดียว ภายหลังตำรวจตั้งแนวสกัดกั้นและมีการปะทะ ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดอารมณ์เป็นธรรมดาที่เจ้าหน้าที่ถูกกระทำ แต่จากภาพที่ประเมินทั้งหมด ยังไม่เห็นตำรวจจะใช้ความรุนแรงเกิดไป คาดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะควบคุมอารมณ์ได้


เมื่อถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์จะเลวร้ายมากกว่านี้หรือไม่ หากมีการปะทะกัน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

จากการประเมิน คงไม่น่ามีอะไรรุนแรงกว่านี้ ภาพที่ออกมาทุกคนเห็นอยู่แล้วว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความอดทน พยายามใช้ความเข้าใจใช้ความละมุนละม่อมที่สุด แม้ฝ่ายตรงข้ามจะใช้ความรุนแรงมากเท่าไหร่ก็พยายามที่จะให้สถานการณ์อยู่ในสภาพไม่รุนแรง ประเมินวันนี้คิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากกว่านี้ ไม่อยากให้สถานการณ์บานปลายมากกว่านี้ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมากกว่านี้


เมื่อถามว่า มาตรการทางกฎหมายจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

คาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงขอหมายศาลจับกุม จากเหตุการณ์ส่วนหนึ่งและจากภาพที่มีอยู่คงจะดำเนินการต่อคนเหล่านี้ รวมถึงแกนนำนปก. เพราะเกิดความสอดคล้องกับสิ่งที่แกนนำพูดบนเวทีและเกิดการปฏิบัติข้างล่างก่อความวุ่นวายและมีความสัมพันธ์กัน ต้องดูข้อหาว่ากล่าวหาว่าอย่างไร ซึ่งต้องมาสู้คดีกัน


เมื่อถามว่า จากสถานการณ์เป็นฝีมือของมือที่ 3 หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า
 
คงไม่มี เท่าที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นมือที่ 3 เพราะเห็นว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ฝากบอกประชาชนว่าคนไทยต้องรวมพลังกัน นำไปสู่แนวทางที่จะกู้สถานการณ์ได้ เช่น ไปเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้มีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองเข้ามาบริหารบ้านเมือง เพื่อช่วยกันสู้วิกฤติ คงไม่ใช่ใช้วิธีชุมนุมเช่นนี้และจะนำไปสู่ความสงบสุข ตนไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ขอร้องให้ประชาชนทุกคนมองไปสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผู้บริหารประเทศมาแก้ไขปัญหา ไม่ว่าปัญหาความขัดแย้งการเมือง คงไม่ใช่วิธีนี้ที่จะนำไปสู่สิ่งนั้นได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์