สนธิวอนทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ขจัดปัญหาแตกแยกความคิด

"สนธิ"วอนทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ขจัดปัญหาแตกแยกความคิด

15 กรกฎาคม 2550 17:09 น.
 
ฉายแววนักการเมือง ลงพื้นที่กล่อมมวลชนย่านดอนเมือง ปลุกกระแสรักชาติ วอนประชาชน ข้าราชการ หลอมใจเป็นพลังปกป้องประเทศชาติ ยันพ.ร.บ.มั่นคงฯไม่ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ “เสนาะ”ไม่หนุนลงเลือกตั้งแต่หนุนร่างรธน. "กบ"ควงสามีซบกลุ่มรวมใจไทย ทรท.ภาคเหนือทำตาลปัตรไม่รับรธน.ถวายพระ

พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อพบปะมวลชนที่กรมสื่อสารทหาร บก.ทหารสูงสุด ย่านดอนเมือง โดยมีหน่วยป้องกันภัยทางอากาศร่วมกับสำนักงานเขตดอนเมืองนำมวลชน  640 คนเข้าร่วมโครงการรู้รักสามัคคี ทำความดีเพื่อแผ่นดิน เทิดไทองค์ราชันย์  โอกาสนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช รักษาการผบ.ตร.พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท.จิตติพงศ์ สุวรรณเศรษฐ์ ผบ.นปอ. และพล.ท.สมพล วีระศักดิ์ เจ้ากรมสื่อสารทหาร และนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.ทรท.เขตดอนเมือง ให้การต้อนรับ

พล.อ.สนธิ กล่าวกับมวลชนในตอนหนึ่งว่า ภัยที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องเฝ้าระวังในเวลานี้คือ ความแตกแยกทางความคิด และความไม่สมัครสมานสามัคคี ซึ่งหากไม่มีภัยเหล่านี้บ้านเมืองจะสงบสุขและพัฒนาไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต ดังนั้น รัฐบาลจึงมอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ให้เข้ามาร่วมแก้ปัญหาภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ รวมทั้งปัญหาความแตกแยก อย่างไรก็ตาม พลเรือน ตำรวจ ทหาร คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาโดยลำพังได้ ประชาชนต้องให้ความร่วมมือด้วย 

“เราเสียเขาพระวิหารไป เพราะคนไทยทรยศต่อชาติและแผ่นดิน นำข้อมูลทางกฎหมายไปขายแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านชนะคดีได้ นี่คือความไม่รักกันของคนในชาติ เราเสียกรุงฯ 2 ครั้งเพราะคนไทยไม่สามัคคีกัน จึงเป็นอุทาหรณ์ว่าเวลานี้คนไทยจะต้องสมัครสมานสามัคคีกัน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่แยกฝ่าย ผมอยากบอกว่าพวกเราทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง คือกลุ่มหนึ่งที่จะต้องอยู่ร่วมกับประชาชน รวมเป็นเนื้อเดียวกันเมื่อไหร่ ใครเข้ามาบริหารประเทศ ก็ไม่สามารถทำอะไรให้ประเทศชาติเรากระทบกระเทือนได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาช่วยกันแก้ไขและขจัดปัญหาบุคคลที่จะทำลายชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีบางกลุ่มที่กำลังทำลายสถาบัน ซึ่งเป็นที่เรารักยิ่งชีวิต เราก็รู้กันอยู่ว่าใคร แต่ปัญหาอยู่ตรงระบบของการดำเนินการตามกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ใครจะมาแตะต้องสถาบันที่เราเคารพรักไม่ได้ ถ้าเรารวมพลังสีเหลืองร่วมกัน” ประธาน คมช. กล่าว

พล.อ.สนธิ กล่าวด้วยว่า แนวทางการแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองที่สำคัญที่สุดคือ ความมีวินัย เราจะต้องสร้างวินัยและสร้างสังคมของเราให้กลับไปสู่อย่างเดิม ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครจะมาช่วยเราได้ นอกจากพวกเราเอง เพราะทหาร ตำรวจ ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม คงไม่มี “น้ำยา” ถ้าประชาชนทุกคนไม่ร่วมมือกัน ทั้งนี้ ขอย้ำว่าขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังไปถึงจุดประชาธิปไตยในอีกไม่กี่วันแล้ว

ประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีที่ระบุถึงกลุ่มที่พยายามทำลายสถาบันว่า ขอให้ไปดูในเว็บไซต์บางเว็บฯ ที่มีการพาดพิงถึง ซึ่งหากยังเป็นอย่างนี้ ก็น่าจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องความจงรักภักดี แต่เรื่องการปิดเว็บไซต์ดังกล่าวนั้น คงทำยาก เพราะประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย และเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการ


ยันพ.ร.บ.มั่นคงฯไม่ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินเหตุ

พล.อ.สนธิ  กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายวิจารณ์ร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร ว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนว่า ขณะนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วและเป็นประชาธิปไตย อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ หรือแม้แต่มาเลเซีย ต่างก็มีกฎหมายฉบับนี้ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงเสนอกฎหมายนี้เพื่อเข้ามาช่วยบริหารจัดการปัญหา ซึ่งผู้ที่คิดเรื่องนี้คงมองว่า เป็นกรอบหนึ่งที่จะทำให้วิถีชีวิตของคนไทยเดินไปอย่างมีครรลองครองธรรม แต่ทั้งนี้ ต้องแล้วแต่ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม อย่ากังวลว่าเมื่อมีกฎหมายนี้แล้ว เจ้าหน้าที่หรือผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) จะใช้อำนาจเกินขอบเขต 

“เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนจะต้องรู้สิทธิหน้าที่ตัวเองให้ชัดเจน ถ้าเรารู้สิทธิหน้าที่ตัวเองแล้ว เราจะทำอะไรก็ตาม ผมคิดว่าจะเดินไปตามครรลองครองธรรม และถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำอะไรเกินต่อหน้าที่ ต้องมีโทษ และโทษต้องหนักกว่าประชาชน ขอยืนยันว่า คนที่มีอำนาจสูงสุดในการใช้ พ.ร.บ.นี้ คือนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ควบคุมในการบริหารจัดการ ไม่ใช่ ผอ.รมน. ผอ.รมน.เป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบายแค่นั้นเอง และถ้า ผบ.ทบ. หรือ ผอ.รมน.ใช้อำนาจเกินไป นายกรัฐมนตรีก็ปลดได้ ไม่ต้องห่วง สิ่งใดก็ตามที่เจ้าหน้าที่รัฐทำเกินกว่าเหตุ ต้องรับผิดชอบ การที่รัฐบาลเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการมองผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ ไม่ใช่ประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว

ในโอกาสนี้ พล.อ.สนธิ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ระบุว่าพร้อมยกตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทยให้ว่า นายบรรหารให้กำลังใจตน


พล.อ.อ.ชลิตย้ำจำเป็นต้องมีร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ

โรงเรียนนายเรืออากาศ 15 ก.ค.- พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่ให้อำนาจกับผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ว่า ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของอำนาจที่ได้รับมอบ ผอ.รมน.ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าประเทศไหนมักเป็นผู้นำประเทศ ที่เป็นประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรี เช่น มาเลเซีย สหรัฐ โดยเนื้อหาที่ได้ดูและจากการรับฟัง เป็นเนื้อหาและการควบคุมการใช้กฎหมายที่มีความใกล้เคียงกับ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีอยู่ ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก แต่จะทำให้มีความสมบูรณ์ขึ้น อย่างไรก็ตามพร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

“ผมไม่ขอให้ความเห็นว่าผู้ที่มีอำนาจสูงสุดจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือผู้บัญชาการทหารบกขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิ ที่จะดำเนินการร่างและอนุมัติ เมื่อกฎหมายออกมาแล้ว โดยทั่วไปผู้บริหารประเทศสูงสุด จะเป็นผู้กำกับการดำเนินการ และมีอำนาจใช้ คงไม่ใช่ตัวผู้ปฏิบัติการ คือ กอ.รมน. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นผู้แก้ไขปรับแต่งถ้อยคำ” พล.อ.อ.ชลิต กล่าว

ต่อข้อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีกฎหมายดังกล่าวออกมาบังคับใช้ในขณะนี้ เพราะขณะนี้ยังไม่มีสภาและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ห้วงเวลาไม่มีวันหยุดจะต้องมีผู้บริหารประเทศ เวลาไม่คอยท่าใคร เหตุการณ์และความจำเป็นคอยไม่ได้ ส่วนเรื่องกฎหมายสามารถแก้ไขได้ แม้กระทั่งรัฐธรรมนูญยังมีการปรับเพื่อให้แก้ไขได้ง่าย อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการอนุมัติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แม้ว่าจะยังไม่มีสภาที่มาจากการเลือกตั้ง แต่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่มาจากการคัดเลือกทั่วประเทศ ซึ่งมีสิทธิและอำนาจออกกฎหมายได้เช่นกัน และรัฐบาลนี้ก็ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ เป็นรัฐบาลปกติในการบริหารประเทศ 

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายเกรงว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการสืบทอดอำนาจ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะทุกเรื่องตรวจสอบได้ว่า เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ก็จะมีผลออกมาว่าสืบทอดอำนาจหรือไม่ ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะกระทบต่อการทำหน้าที่ของ คมช. เพราะที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก จะทำงานการเมือง รองประธาน คมช. กล่าวว่า ไม่กังวล เป็นเรื่องปกติของการบริหารประเทศต้องมีความรอบคอบและเด็ดขาดในช่วงต่าง ๆ ทุกคนไม่ว่าใครเข้ามาบริหารประเทศ ต้องการให้ประเทศมีความสงบราบรื่นและพัฒนาต่อ คงไม่มีใครอยากทำให้เกิดความวุ่นวายสับสน

โอกาสนี้ พล.อ.อ.ชลิต เป็นประธานในพิธีบวงสรวงบุพการี ทอ.และเจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร และอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลจตุคาม รามเทพ รุ่น “เหนือฟ้า มหาเศรษฐี” เพื่อนำรายได้สมทบโครงการปรับปรุงพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กทม.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์