ผู้นำอารมณ์แปรปรวน!! ขนทหารล้อมทางเข้าออกหมู่บ้าน ตู่-เต้น

ผู้นำอารมณ์แปรปรวน!! ขนทหารล้อมทางเข้าออกหมู่บ้าน ตู่-เต้น

ผู้นำอารมณ์แปรปรวน!! ขนทหารล้อมทางเข้าออกหมู่บ้าน "ตู่-เต้น" 

วานนี้(30 พฤศจิกายน 2558)เพจJatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์ ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานราชภักดิ์ ไว้ว่า...

ผู้นำอารมณ์แปรปรวน สติแตกขนทหารล้อมทางเข้าออกหมู่บ้าน "ตู่-เต้น" สกัดไม่ให้ไปสักการะองค์พระบูรพกษัตริย์แห่งสยามที่อุทยานราชภักดิ์ ประธาน นปช.กังขา ถาม "ท่านรักสถาบันหรือตัวเอง" ลั่นเกิดเหตุร้ายขึ้นไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล ชวนทหารร่วมขบวนพสกนิกรไปด้วยกันแบบฉันท์มิตรในวันที่ 30 พ.ย. นี้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล เมื่อ 29 พ.ย.นี้ดยกังขาทหารมาปิดล้อมทางเข้าหมู่บ้านเพื่อขัดขวางไม่ให้เดินทางไปสักการะองค์พระบูรพกษัตริย์แห่งสยามที่อุทยานราชภักดิ์ในวันที่ 30 พ.ย. นี้

ประธาน นปช.กล่าวว่า หลังจากตกลงกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. จะร่วมเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์แล้ว 

โดยเช้าวันนี้ (29 พ.ย.) มีทหารมาตรึงทางเข้าออกหมู่บ้านของตน แสดงถึงการสกัดหรือขัดขวางไม่ให้ไป แต่พวกตนจะเดินทางไปตามเดิม ถ้าไม่ไปแล้วจะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสงสัย ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลยิ่งขึ้น แต่เมื่อทหารมาปิดหมู่บ้านยิ่งไปกันใหญ่ ทางที่ดีกองทัพควรร่วมเดินทางไปแบบฉันท์มิตรด้วยกัน เพราะการทุจริตทุกอย่างนั้นเลวที่สุด แต่โกงราชภักดิ์กลับเลวมากกว่าถึงขั้นบัดซบกันเลย

นอกจากบ้านพักของนายจตุพรแล้ว นายณัฐวุฒิยังโฟสต์ข้อความผ่านเฟจบุ๊กว่า

 ตั้งแต่ตีห้าของวันที่ 29 พ.ย. นี้ รถทหาร 4 คันมาที่บ้าน และวางกำลังอยู่ริมถนนหน้าหมู่บ้าน 4 คน ป้อมยาม 8 คน ศาลพระภูมิ 6 คน จอดรถหน้าบ้าน 1 คัน พร้อมกับกังขาว่า ทำไมใช้อำนาจกันแบบนี้ ให้รู้กันไปว่า การถามหาความจริงต้องมีอันตราย จะเอายังไงก็เอากัน แต่ยังยืนยันจะไปอุทยานราชภักดิ์ตามเดิมในวันที่ 30 พ.ย.นี้

"แต่การกดดันปิดล้อมไม่ให้ไปอุทยานราชภักดิ์ เพียงคิดก็พังแล้ว หรือจะไปฆ่าพวกผมที่ราชภักดิ์ ใครคิดทำ จะรู้ว่า จะพังชนิดไม่รู้ว่าการพังเป็นอย่างไง เพราะประชาชนไปไกลแล้ว จะเกิดความรู้สึก เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสี แต่เป็นหน้าที่พสกนิกรต้องปกป้องราชภักดิ์ ถ้าฉลาดควรปล่อยให้เป็นไปตามปกติ พวกผมสักการะบูรพกษัตริย์ก็กลับ ถ้ามีการกระทำที่นอกเหนือจากนี้ จำปากผมไว้ จะกลายเป็นชนวนจนท่านเอาสถานการณ์ไม่อยู่ การมาขัดขวางไม่ให้ไปอุทยานราชภักดิ์นั้น ถามว่า ท่านปกป้องสถาบันหรือปกป้องตัวเอง ถ้าปกป้องสถาบันต้องร่วมมือกัน ไปด้วยกัน เมื่อมาขัดขวางก็ไม่ได้ปกป้องสถาบัน แต่ปกป้องตัวเอง"

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งที่ตนและนายณัฐวุฒิต้องไปอุทยานราชภักดิ์นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของตัวเอง 

เพราะในวันนี้ประชาชน พสกนิกร ไม่ว่าทหาร หรืออาชีพใดก็ตาม ล้วนไม่สบายใจกรณีทุจริตราชภักดิ์ และประหลาดใจกลับมาขัดขวาง จึงสงสัยว่า การไปตรวจสอบกลายเป็นภัยความมั่นคงหรืออย่างไร ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ควรจะอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เพราะ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยแถลงว่า จะอำนวยความสะดวกประชาชนทุกกลุ่มในการตรวจสอบมาแล้ว แต่เมื่อตนจะเดินทางไปกลับส่งทหารมาปิดหมู่บ้าน

ในวันนี้ ประชาชนเกิดความเชื่อและสงสัยการทุจริตอุทยานราชภักดิ์อย่างมาก เพราะเรื่องนี้กระทบต่อความรู้สึก ความศรัทธาต่อสถาบันเบื้องสูง แต่รัฐบาลไม่พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ยิ่งเป็นรัฐบาลทหาร มาจากการยึดอำนาจแล้ว หากประชาชน พสกนิกรสงสัยควรต้องปกป้องสถาบันโดยทำความจริงให้ปรากฏชัด แต่ที่ผ่านมาปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ปัดการรับรู้การจัดสร้างว่า ไม่มีเงินงบประมาณแผ่นดิน ใช้แต่เงินบริจาคเท่านั้น

เมื่อนายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) 

ระบุว่า มีงบประมาณแผ่นดินจำนวน 63 ล้านบาทไปสร้างอุททยานราชภักดิ์ พล.อ.ประยุทธ์ จึงบออกมาย่อมรับ นอกจากนี้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตั้งกรรมการมาตรวจสอบ แต่พสกนิกรไม่หายสงสัย กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตั้งกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง มีแต่ทหาร ไม่มีพลเรือนร่วมด้วย ซึ่งผลการตรวจสอบคงออกมาไม่เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับกองทัพบกได้แถลงไปแล้ว

นายจตุพร กล่าวว่า สื่อทั้งกระแสหลักและฝ่ายเชียร์รัฐบาลล้วนรายงานการทุจริตราชภักดิ์ไปกันใหญ่โต 

และมีการหาข้อเท็จจริงจากโรงหล่อตามสัญญาจ้าง ความกังขาในการทุจริตยิ่งมีมากขึ้นทั้งการหักค่าหัวคิว การใช้เงินบริจาค แต่กลับมีการสร้างข่าวขอนแก่นโมเดลขึ้นมากลบกระแสความสนใจของพสกนิกรในกรณีอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งคงไม่สามารถปกปิดได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญในความรู้สึกของประชาชน

ส่วนอาการร้อนรนสร้างเรื่องขอนแก่นโมเดลขึ้นมาให้ใหญ่โตนั้น ประธาน นปช. ย้ำว่า ทหารและตำรวจต้องหน้าแตกเมื่อไปออกหมายจับนายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม ผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำขอนแก่น แต่กลับบอกว่า อยู่ระหว่างการหลบหนี และถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ ขณะที่ยังอยู่ในคุก จึงเป็นคราวซวยไป โดยเขาไม่สามารถออกมาลอบสังหารผู้นำของประเทศได้เลย ถ้าไม่แหกคุกขอนแก่นออกมา

นายจตุพร กล่าวว่า ด้วยการยัดเยียดข้อหาให้คนติดคุก กลายเป็นผู้ร้ายและต้องการฟื้นขอนแก่นโมเดลขึ้นมากลบการทุจริตราชภักดิ์ จึงทำให้ นางเบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความของนายธนกฤต จะแจ้งความในวันนี้ (29 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม เพราะทหาร ตำรวจใส่ร้ายให้เป็นผู้ต้องหาป่วนเมือง จนทำให้เสื่อมเสียขณะติดคุกขอนแก่นอยู่


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์