สุเทพยันพร้อมหนุนคสช.-รัฐบาล ลั่นยึดมั่นเจตนามวลมหาประชาชน

สุเทพยันพร้อมหนุนคสช.-รัฐบาล ลั่นยึดมั่นเจตนามวลมหาประชาชน

30 ก.ค.58 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ถ.เพลินจิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย แถลงข่าวถึงวัตถุประสงค์ และจุดยืนแนวทางการทำงาน โดยมีกรรมการมูลนิธิและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เข้าร่วมรับฟัง พร้อมทั้งมีตัวแทนของเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมรับฟังด้วย

โดย นายสุเทพ ได้แถลงช่วงหนึ่งว่า มูลนิธิ มีวัตถุประสงค์ทำเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ และพร้อมจะยืนหยัดยึดมั่นแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยตามเจตนาของมวลมหาประชาชนที่ได้แสดงออกเมื่อปี พ.ศ.2556-2557 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ มูลนิธิได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ขออนุญาตต่อนายทะเบียนมูลนิกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย โดยมีการตรวจสอบคุณสมบัติของมูลนิธิวัตถุประสงค์เป้าหมาย อย่างชัดเจนและก็ได้รับอนุญาตให้เป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมายมีความชอบธรรมทุกประการ และมูลนิธิฯจะปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง และให้ความร่วมมือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กับรัฐบาลในการรักษาความสงบเรียบร้องของบ้านเมืองเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่าของประเทศและประชาชน ทั้งหมดคือจุดยืนของมูลนิธิ

ประธานมูลนิธิฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สิ่งที่มูลนิธิฯได้ดำเนินการไปแล้วในเรื่องแรกตั้งแต่ตอนที่เริ่มก่อตั้งในขณะที่ตนเป็นพระสงฆ์ คือได้เยียวยาประชาชนที่เสียเลือดเนื้อ ชีวิต เพราะการปฏิบัติหน้าที่ของประชาชนเพื่อชาติทุกรายอย่างเรียบร้อย โดยมีการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่บาดเจ็บในทุกเดือน รวมถึงดูแลเรื่องสภาพความเป็นอยู่หลังจากนั้น บางคนที่ทุพพลภาพมูลนิธิก็ต้องให้เงินช่วยเหลือเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นผลจากการทำร้ายของคนที่ไม่หวังดีในช่วงที่เขามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง นอกจากนี้ ยังได้ดูแลทุกครอบครัวของผู้เสียชีวิต ด้วยกำลังการสนับสนุนของมวลมหาประชาชน เงินบริจาคของประชาชน ซึ่งในส่วนของเงินบริจาคนี้ได้มอบหมายให้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และตัวแทนของมูลนิธิมอบส่งให้ทุกครอบครัว มีการจัดเงินทุนไปฝากบัญชีให้ลูกกำพร้าทุกคนที่พ่อแม่ต้องเสียชีวิตทุกคนจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อนำดอกผลจากเงินจำนวนนี้ ไปใช้ในการศึกษาโดยมีข้อตกลงว่า จนกว่าจะเรียนจบและบรรลุนิติภาวะ จะไม่ถอนเงินออกจากบัญชีจนกว่าจะสามารถตั้งต้นได้  ซึ่งทั้งหมดนี้ คือเรื่องที่ได้ดำเนินการกันแล้วและต้องดูแลกันต่อไป หลังจากนี้ กรรมการมูลนิธิฯ จะได้ติดตาม ขอยืนยันว่า เงินที่จัดหามานั้นเป็นเงินทุนที่มีที่มาบริสุทธิ์ และเป็นน้ำใจของมวลมหาประชาชนไม่มีการนำเอาเงินส่วนรวมมาใช้ ส่วนที่รัฐบาลจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือหรือไม่อย่างไรนั้น ทางมูลนิธิไม่ได้ไปกดดันแต่ทำไปตามหน้าที่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์