ฉะยับ!สมยศซุ่มร่างกฎกระทรวง ผูกขาดอำนาจสอบสวนฝ่ายตร.

ฉะยับ!สมยศซุ่มร่างกฎกระทรวง ผูกขาดอำนาจสอบสวนฝ่ายตร.

26 ก.ค.58 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวคัดค้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำหนังสือและร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสอบสวนคดีอาญาโดยพนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจ เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ลงนามประกาศใช้ โดยให้อำนาจการสอบสวนในคดีอาญาแก่ตำรวจเพียงหน่วยเดียว

นายวัชระ กล่าวว่า ตนขอคัดค้านการเสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรี และขอให้นายกฯ โปรดระวังการถูกหลอกใช้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เคยลงนามในคำสั่ง คสช.ที่ 115 มาแล้ว ซึ่งเป็นการตัดอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดในการเรียกดูสำนวนการสั่งไม่ฟ้องของตำรวจและอัยการ โดยนำอำนาจดังกล่าวไปให้ผู้บัญชาการภาคของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาแทน ถือเป็นความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งกับประชาชนมากรณีหนึ่งแล้ว และในกรณีนี้นายกฯ กำลังถูกหลอกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งหนึ่งในการเสนอให้ลงนามในกฎกระทรวงดังกล่าว  เหตุที่ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการลงนาม คือ 1.การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอมีอำนาจตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2522 ในการตรวจสอบการควบคุมของตำรวจ เป็นหลักการตรวจสอบถ่วงดุลที่ดีอยู่แล้ว และเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทุกประการ

2.การปฏิบัติที่ผ่านมาของพนักงานสอบสวนหากทำโดยสุจริต เที่ยงธรรม ระมัดระวัง จะไม่มีปัญหาแต่ประการใด 3.การที่ พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่ามีปัญหาเรื่องอำนาจทับซ้อนในการใช้กฎหมาย ถือว่าได้รายงานเท็จ เพราะไม่มีการทับซ้อนในการใช้อำนาจแต่ประการใด ที่ผ่านมาฝ่ายปกครองในฐานะผู้บังคับบัญชาตามกฎหมายจะใช้อำนาจได้เฉพาะในกรณีที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น และ 4.หากนายกฯ ลงนาม จะส่งผลให้ตัดทอนอำนาจของฝ่ายปกครองอย่างสิ้นเชิง ประชาชนที่เดือดร้อนทั่วประเทศจากการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมของตำรวจจะไม่มีที่พึ่งในระดับอำเภอและจังหวัด ปราศจากการตรวจสอบภายนอก และยังขัดต่อร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่ในปัจจุบันที่มุ่งเน้นให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจอีกด้วย

"ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กรุณาระงับการลงนามในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการตัดรอนสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน และกำชับให้ ผบ.ตร. ปฏิบัติตามข้อบังคับของกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2522 ทุกประการ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาในการใช้อำนาจของตำรวจ มีการเป่าคดียัดคดี ไม่ให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน ถ้าสั่งไม่ฟ้องก็จะถามว่าซองอยู่ไหน แม้กระทั่งผมซึ่งเป็นอดีต ส.ส. ก็ถูกสถานีตำรวจบ้านนาสารเป่าคดีมาแล้ว ซึ่งต้องมาฟ้องขอความเป็นธรรมต่อศาลอาญาที่กรุงเทพมหานคร และศาลอาญาได้ประทับรับฟ้อง และนัดรับฟังคำพิพากษาในคดีนี้แล้ว ในขณะที่สถานีตำรวจบ้านนาสารนั้นเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ตรงนี้ชัดเจนว่าตำรวจได้มีการตั้งศาลเตี้ย ไม่ให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน" นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวต่อไปว่า ตนสนับสนุนให้มีการปฏิรูปตำรวจ ให้แยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นอิสระตามข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปตำรจ ซึ่งมี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป เป็นประธาน หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำการปฏิรูปตำรวจ ตนจะเสนอให้เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ได้ต่อไป เพราะหากไม่ปฏิรูป ประชาชนจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการสืบสวนสอบสวนเท่าที่ควร

"พล.ต.อ.สมยศ รีบเร่งจะซื้ออาวุธปืน 150,000 กระบอก รีบเร่งที่จะเปิดบ่อนกาสิโน รีบเร่งที่จะเสนอกฎกระทรวงที่จะผูกขาดอำนาจการสอบสวนไว้ที่ตำรวจฝ่ายเดียว แต่ไม่รีบเร่งปฏิบัติหน้าที่ราชการในการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความรวดเร็ว ขอเรียกร้องให้ท่านปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้โปรดตั้งอนุกรรมการไต่ส่วนต่อ พล.ต.อ.สมยศ ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จากกรณีที่ไม่มีการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเจตนาชัดเจนแล้วว่าต้องการประวิงเวลา ไม่ดำเนินการถอดยศในขณะที่ตนเองมีอำนาจเป็น ผบ.ตร." นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ ชี้แจงต่อไปว่า กฎกระทรวงดังกล่าวเป็นการซุ่มเงียบ ร่างเสนอส่งไปยังนายกฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการหมกเม็ด ลักไก่ และยัดไส้ เบ็ดเสร็จโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตัดอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศไม่ให้เข้ามามีส่วนในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา การที่พนักงานฝ่ายปกครองมีอำนาจหน้าที่นั้นสามารถที่จะตรวจสอบถ่วงดุลกับฝ่ายพนักงานสอบสวน ไกล่เกลี่ยคดีให้จบได้โดยไม่ต้องถึงชั้นศาล และเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนในชนบทได้ ในปัจจุบันตำรวจกับโจรแยกแยะกันไม่ออก เพราะในแต่ละวันมีเรื่องราวเกิดขึ้นเป็นประจำว่าตำรวจทำในสิ่งผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.) เวลา 10.00 น.ตนจะไปยื่นหนังสือเพื่อคัดค้านร่างกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเป็นทางการถึงนายกฯ ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล

ในฐานะอดีต ส.ส.ตนขอทักนายกฯ ว่า อย่ายอมให้ พล.ต.อ.สมยศ หลอกใช้อีกต่อไป ถ้าอยากรู้ว่าภาพพจน์ตำรวจเป็นอย่างไรให้สอบถามประชาชนทั่วประเทศว่าประชาชนไว้ใจตำรวจหรือทหารมากกว่ากัน ผบ.ตร.ควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว เรื่องดังกล่าวหากข้าราชการไม่มาบอกสื่อก็ไม่มีใครทราบ เป็นการดำเนินการร่างแบบผูกขาดลับๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนไม่ยินยอมให้ใช้อำนาจเผด็จการแต่เพียงฝ่ายเดียว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์