หอมประเวศชี้ช่องเปิดเวทีสาธารณะทุกเดือนเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ปาฐกถาพิเศษเรื่อง กระบวนการนโยบายสาธารณะอย่างมีส่วนร่วม ทางออกเพื่อการสร้างสรรค์สังคมไทยในอนาคต

เช้าวันนี้ (26 มิ.ย.) ตอนหนึ่ง ว่า สังคมไทยมีความอุดมสมบูรณ์ แต่เราถูกสร้างให้มองสังคมไทยว่าเป็นคนจน

คนของเราไม่เก่ง ถ้าเราสามารถเปลี่ยนทัศนคตินี้ได้ เชื่อว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า สังคมไทยจะกลับสู่ความสงบสุขได้ โดยเราจะต้องเปิดพื้นที่ทางปัญญา และสังคม ซึ่งคือประชาธิปไตย เพื่อให้เราพร้อมบินออกจากอำนาจที่ครอบอยู่

นพ.ประเวศ กล่าวว่า นโยบายสาธารณะเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกระทบสังคมทั้งหมด ไม่ว่าจะบวก หรือลบ

ควรมีการเปิดเวทีสาธารณะทุกเดือน เพื่อให้ทุกฝ่าย เช่น นักการเมือง นักวิชาการ ประชาชน และสื่อมวลชน ได้เสนอความเห็น แต่การเสนอความเห็นต้องเคารพศีลธรรมพื้นฐาน และความเห็นจากทุกฝ่าย ซึ่งเท่าที่ดู พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีท่าทีเข้าใจเวทีสาธารณะ

เวทีนี้ควรเป็นเวทีที่ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน โดยยึดกรอบสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา คือ สังคม ความรู้ และการเมือง เป็นตัวขับเคลื่อน และมองไปข้างหน้า โดยมีวิสัยทัศน์อย่าติดกับปัจจุบัน ที่สำคัญคือ ต้องมีเป้าหมายร่วมกัน อย่ามองสังคมผิดๆ นอกจากนี้ พรรคการเมืองควรพัฒนาเป็นสถาบันที่ให้ความรู้กับประชาชน ไม่แบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน ไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล โดยเฉพาะฝ่ายค้าน ไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง ให้ค้านในบางเรื่องที่เหมาะสม และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่เห็นว่าดี นพ.ประเวศ กล่าว

โดยมีตัวแทนจากภาคการเมือง นักวิชาการ และภาคประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็น อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายสาธารณะมีความสำคัญมากขึ้นเป็นลำดับ เพราะเป็นตัวกำหนด และบอกทิศทางของพรรคการเมืองนั้น ๆ หากเข้ามาบริหารประเทศ และเป็นสัญญาประชาคม ที่ต้องปฏิบัติภายหลังการเลือกตั้ง

ต่อไปการหาเสียงของพรรคการเมือง นโยบายสาธารณะจะเป็นตัวขายมากขึ้น นอกเหนือจากขายตัวบุคคล ผมมั่นใจว่าพรรคการเมืองจะเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับกระบวนการจัดทำนโยบายทุกขั้นตอน ทุกระดับ ตั้งแต่การกำหนดนโยบาย นำไปปฏิบัติ ติดตามประเมินผล และตรวจสอบ ซึ่งประชาชนควรจับตาในขั้นกำหนดนโยบาย และติดตามประเมินผล นายจุรินทร์ กล่าว

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า

นโยบายสาธารณะเป็นสิ่งที่ดี หลายคนต้องการเห็นการปฏิบัติจริง ซึ่งพรรคการเมืองจะเป็นตัวช่วยผลักดัน แล้วนำไปปฏิบัติให้เป็นจริง จึงขอให้ทุกฝ่ายอย่ารังเกียจพรรคการเมือง เพราะกระบวนการในบ้านเมืองของเรา พรรคการเมืองจะมีหน้าที่จัดความลงตัวของประโยชน์ที่ขัดกันในสังคม ซึ่งการจัดทำนโยบายคงหนีไม่พ้นนโยบายที่โดนใจประชาชน

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ตัวแทนพรรคชาติไทย กล่าวว่า

ต้องการเห็นการสร้างกระบวนการใช้นโยบายสาธารณะในทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่สำคัญคือ หัวใจของผู้ใช้ ถ้าพรรคการเมืองไม่มีจิตสาธารณะ ก็จะเป็นเพียงนิติบุคคล ดังนั้น การทำนโยบายสาธารณะ ต้องทำโดยคนที่มีจิตสาธารณะ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: