ทักษิณ ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกฯ!!

ทักษิณ ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกฯ!!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2549 22:48 น.

ทักษิณ ออกทีวีรวมการเฉพาะกิจประกาศขอเว้นวรรคการเมือง โดยไม่ขอรับการสรรหาเป็นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ยังขอเป็น ส.ส.และหัวหน้าพรรคไทยรักไทยเพื่อผลักดันนโยบายผ่านทางรัฐบาลใหม่ต่อไป อ้างเป็นปีมหามงคลบ้านเมืองต้องการความสมานฉันท์ พร้อมขอโทษคนไทย 16 ล้านคนที่สนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อ จับตารักษาการยาวหลังเปิดสภาไม่ได้ เพราะมี ส.ส.ไม่ครบ 500 คน

วันนี้ (4 เมษายน) เมื่อเวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ประกาศขอเว้นวรรคทางการเมือง ไม่ขอรับการเสนอชื่อจากสภาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่จะขอทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีชั่วคราวตามรัฐธรรมนูญจนกว่าจะมีการสรรหานายกรัฐมนตรีใหม่

ทั้งนี้ ก่อนการแถลง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอโทษประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่เลือกพรรคไทยรักไทย และไว้วางใจให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปด้วยคะแนนเสียงสูงถึง 16 ล้านเสียง แต่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่ต้องการความสมานฉันท์ ดังนั้นจะมาทะเลาะและเอาชนะคะคานกันไม่ได้ และรู้สึกดีใจที่ข้อเสนอก่อนหน้านี้ของตนที่เคยกล่าวในรายการกรองสถานการณ์ได้รับการตอบสนองด้วยดี โดยในวันนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ทำจดหมายยืนยันมาแล้ว

หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ให้เหตุผลในการไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเหลือเวลาอีก 60 กว่าวันเท่านั้นที่จะถึงเวลาแห่งความสำคัญนั้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้งและหันหน้าเข้าหากันเพื่อความสมานฉันท์

ผมขอถอยโดยไม่รับตำแหน่งนายกฯ แต่จะรักษาการนายกฯ ไปตามรัฐธรรมนูญจนกว่าสภาจะมีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ เวลนี้ผมยังคงทำหน้าที่เป็น ส.ส.และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ผ่านทางรัฐบาลใหม่ตามที่ได้เคยแถลงเอาไว้ต่อไป หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุ

ในตอนท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ย้ำว่า 5 ปีที่ผ่านมาที่อยู่ในตำแหน่งนายกฯ ได้ทำงานหนัก และทำอย่างถูกต้องเพื่อบ้านเมือง ไม่เคยทำชั่วตามที่ถูกกล่าวหา

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าเวลานี้ยังไม่สามารถเปิดสภาได้ เพราะมีปัญหาเรื่อง ส.ส.ไม่ครบจำนวน 500 คน โดยเฉพาะหลายเขตที่ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากมีผู้สมัครได้รับคะแนนเสียงไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันยังมีปัญหากรณีที่มีผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทยมีไม่ครบ 100 คน (นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ได้ลาออก)

รายละเอียดคำแถลง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยที่เคารพรักทุกท่านครับ ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยที่ต้องรบกวนการดูโทรทัศน์ของพี่น้องประชาชน มาใช้เวลาในการออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งของประเทศไทย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขอใช้เวลาของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ครับ

ผมขอแสดงความยินดีกับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศครับที่เราได้ช่วยกันรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ โดยการที่พี่น้องประชาชน 28 ล้านคนเศษได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ผมต้องขอขอบคุณพี่น้อง 16 ล้านคนเศษ ที่ได้มอบความไว้วางใจให้ผมแล้วก็ให้พรรคไทยรักไทยได้ทำหน้าที่ต่อไป

แต่พี่น้องที่เคารพครับผมจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกราบขอโทษพี่น้อง 16 ล้านคนเศษที่ได้ไปลงคะแนนให้ผมโดยหวังที่จะให้ผมทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ด้วยเนื่องจากว่ามีเหตุการณ์ในบ้านเมืองหลายประการที่ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่เราจะต้องมีความสมานฉันท์ สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในแผ่นดินเรา เพราะว่าถ้าเรามัวแต่จะเอาชนะกันเองแต่ประเทศจะเป็นผู้แพ้ ตามที่มีกระแสพระราชดำรัสที่เคยรับสั่งไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2535

เพราะฉะนั้นวันนี้ผมดีใจจากเหตุการณ์ที่ผมได้ออกรายการกรองสถานการณ์ เมื่อคืนนี้ได้พูดกับพี่น้องประชาชนเพื่อวิงวอนความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นแล้วได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งได้ทำหนังสือถึงผมเมื่อบ่ายวันนี้เพื่อให้การปรองดองแห่งชาติเกิดขึ้นอย่างแท้จริง ผมต้องขอบคุณ ณ ที่นี้ด้วย แล้วผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกพรรคการเมืองจะได้เข้าใจเจตนารมณ์ตรงนี้

พี่น้องครับผมต้องกราบขอโทษจริงๆ ที่จะไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในกระบวนการสรรหาที่จะเกิดขึ้นในสภาหลังจากที่มีการเปิดประชุมสภา หลังจากครบ 30 วันของการเลือกตั้งแล้ว

พี่น้องที่เคารพครับ ผมมีเหตุผลที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่รับเพราะว่า ปีนี้เป็นปีมหามงคลยิ่งของคนไทย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ครบ 60 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ จากนี้ไปเหลือเวลาเพียงอีก 60 กว่าวัน เราไม่มีเวลาที่จะทะเลาะกันแล้ว ผมอยากเห็นคนไทยทั้งประเทศมีความรักความสามัคคีกัน ลืมเรื่องที่ผ่านไป เพราะผมเชื่อว่าพี่น้องที่รักผมก็ได้แสดงออกว่า สนับสนุนผมด้วยการลงคะแนน 16 ล้านกว่าเสียง พี่น้องที่อาจจะรักพรรคการเมืองอื่นหรือไม่พอใจผม ก็ได้แสดงออกแล้วด้วยการลงคะแนนโนโหวตก็ดี หรือไม่ลงเสียงเลือกตั้ง ทุกคนได้แสดงออกหมดแล้ว พี่น้องชาวพันธมิตรฯ ก็ได้แสดงออกแล้ว พรรคฝ่ายค้านก็ได้แสดงออกแล้ว

ผมคิดว่าวันนี้ถึงเวลาที่เราจะแสดงออกร่วมกัน หลอมใจไทยให้เป็นหนึ่งเถอะครับ เพราะว่าเราจะร่วมกันถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เพราะว่าทรงเสด็จครองราชย์มา และทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา พระราชทรัพย์มาเพื่อคนไทยทั้งประเทศมานานมากแล้ว แต่นี้เหลืออีกเพียง 60 กว่าวันเศษ บ้านเมืองยังหาข้อยุติกันไม่ได้ ผมคิดว่าไม่เป็นสิ่งที่ดีเลย แล้วจะมีพระราชอาคันตุกะ ซึ่งเป็นพระราชาธิบดี พระราชินีจากทั่วโลกเสด็จมาร่วมงาน วันนี้เรายังมีการประท้วง มีการอะไรกันอยู่ ผมคิดว่าผมขอถอยโดยการไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ผมจำเป็นจะต้องรักษาการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 215 เพราะว่าต้อง รัฐธรรมนูญใช้คำว่า ต้องรักษาการ ผมจะต้องรักษาการไปจนถึงกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีในสภาเป็นที่เรียบร้อย คนที่จะได้รับการสรรหาจะมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญต่อไป

สำหรับผมเองจะรักษาการไปจนถึง ณ วันนั้น และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจะพยายามสร้างความสมานฉันท์ ก็เลยวิงวอนพี่น้องคนไทยทั้งชาติว่า วันนี้เราเสียสละกันคนละเล็กละน้อยเพื่อประเทศของเรา เพื่อพระเจ้าอยู่หัวของเรา สำหรับพี่น้อง 16 ล้านเสียงเศษที่ได้กรุณาให้ความไว้วางใจ ผมกราบขอโทษอีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าผมยังคงทำหน้าที่ ส.ส. ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทย เพื่อที่จะผลักดันนโยบายที่ได้พูดกับพี่น้องประชาชนไว้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

นโยบายทุกนโยบายที่เคยปฏิบัติและพี่น้องเป็นห่วงกลัวจะหายไป ไม่ว่าจะเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาความยากจน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ ทั้งหมดนี้จะได้รับการผลักดันต่อไปโดยรัฐบาลใหม่ เพราะว่ารัฐบาลใหม่จะขับเคลื่อนจะขับเคลื่อนตามนโยบายที่รัฐบาลนี้ได้ทำไป

ผมจะไปเยี่ยมไปพบกับพี่น้องประชาชนต่อไปในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีความห่วงใยต่อบ้านเมืองและรักพี่น้องประชาชน ผมจะทำหน้าที่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่ดีที่สุดเพื่อพี่น้องคนไทย แต่วันนี้มันจำเป็นครับ จำเป็นอย่างยิ่งยวดที่คนไทยเราจะต้องลดราวาศอกไม่เอาชนะกันเองครับ มีคนหนึ่งชนะก็ต้องมีคนหนึ่งแพ้ แต่คนที่แพ้แน่นอนคือประเทศ นี่คือกระแสพระราชดำรัสที่ทรงรับสั่งไว้ตั้งแต่ปี 2535 แล้วก็มีตัววิ่งออกในโทรทัศน์ทุกวัน ซึ่งผมก็ได้อ่านแล้วได้สำนึกว่า การปรองดองแห่งชาติ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นเรื่องสำคัญของประเทศไทย

ผมอยากจะขอร้องและขอบคุณบรรดาพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยว่า วันนี้เรามาร่วมกันปฏิรูปการเมือง เรามาร่วมกันทำการเมืองที่เราคิดว่าน่าจะดีที่สุดสำหรับประเทศไทยเพื่อคนไทยทั้งประเทศ แล้วการปฏิรูปการเมืองตรงนั้นจะเป็นแนวทางที่ให้นักการเมืองได้เดินในกรอบ วันนี้ถ้าเราไม่ชอบกติกาปัจจุบันเราก็ต้องปรับปรุงแก้ไข แต่ตราบใดที่มีกติกาเราต้องรักษา เราต้องใช้

พี่น้องที่เคารพครับผมต้องขอขอบคุณพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่มอบความไว้วางใจแล้วก็ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง 3 ครั้งใน 5 ปีกว่า ก็ได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงส่วนใหญ่ แน่นอนครับประชาธิปไตยเป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนทุกคนที่จะต้องมีฉันทามติทุกๆ เรื่อง แต่พี่น้องครับช่วงเวลา 5 ปีกว่าที่ผ่านมานั้นผมได้ทุ่มเททำงานหนัก ผมได้ทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง หลายอย่างที่ถูกกล่าวหาไปนั้นผมขอย้ำอีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่เคยคิดมาทำบ้านเมือง ไม่เคยคิดที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมืองด้วยการทำชั่ว ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ได้ทำไปในอดีตนั้นเป็นสิ่งที่ทำดีที่สุด ส่วนเรื่องที่กล่าวหานั้นผมคิดว่าสักวันหนึ่งถ้ามีโอกาสได้ชี้แจงท่านจะเข้าใจมากกว่านี้

อยากจะขอให้พี่น้องมีกำลังใจ หันหน้าเข้าหากัน มีกำลังใจเถอะครับเพราะบ้านเมืองเรายังจะต้องก้าวหน้าไปอีกมาก ลูกหลานของเราจะต้องมีอนาคตอีกมาก ไม่มีประโยชน์ที่ผู้ใหญ่ไม่กี่คนจะมุ่งเอาชนะกัน แล้วในที่สุดแล้วบ้านเมืองก็เสียหาย

วันนี้เราไม่มีจุดรวมใจอะไรดีเท่ากับว่า อีก 60 กว่าวันจะถึงครบรอบ 60 ปีการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกไม่กี่วันจะมีงานใหญ่ระดับโลกซึ่งคนทั่วโลกจะจับตามองว่า มีพระราชอาคันตุกะระดับพระราชาธิบดี พระราชินีจากทั่วโลกมาร่วมงานเฉลิมฉลองให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา พวกเราคนไทยจะไม่ยินดีต้อนรับ ไม่ทำความสะอาดบ้าน ไม่เลิกสับสนเพื่อให้คนเขาได้มาด้วยความภาคภูมิใจเพื่อพระเจ้าอยู่หัวของเราไม่ได้หรือครับ

ก็ขอร้องว่า วันนี้ขอเถอะครับ บางบ้านบ้านเดียวกันก็ขัดแย้งกันเพราะความเห็นต่างกัน วันนี้ท่านได้แสดงออกเมื่อวันที่ 2 แล้วก็ขอให้ทุกอย่างกลับมาเถอะครับ กลับมารวมใจไทยให้เป็นหนึ่งเพื่ออนาคตของประเทศไทยเราครับ

ผมขอขอบคุณอีกครั้ง แล้วก็ขออภัย ขอกราบขอโทษที่ท่านได้เลือกและไว้วางใจผมมา แต่ว่าผมกลับไม่ได้ ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในคราวนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องบอกว่า ไม่สบายใจที่ต้องขอโทษที่พี่น้องประชาชน แต่มันเป็นความสบายใจที่ได้สร้างความสมานฉันท์ถ้าหากว่าจะได้รับการตอบสนองที่ดีจากอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน จากกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย และจากพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ว่าเราจะหันหน้ากลับมาเพื่อประเทศไทยของเราและเพื่อพระเจ้าอยู่หัวของเราครับ ขอขอบคุณครับ สวัสดีครับ

พันธมิตรฯหารือด่วน

ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณประกาศออกมาว่าจะไม่รับตำแหน่ง ถ้าประกาศออกมาอย่างนี้ เพื่อความแน่นอนว่าเราจะชุมนุมต่อไปหรือไม่ ในส่วนของพันธมิตรฯ จะรีบไปประชุมแกนนำเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป ซึ่งเมื่อนายกฯมีท่าทีอ่อนลง เราไม่ใช่คนดื้อด้านอะไร อย่างไรก็ตาม เมื่อผลออกมาอย่างนี้ ถือเป็นชัยชนะของพวกเรา เป็นการพิสูจน์ว่า การแก้ปัญหาวิกฤติประเทศต้องใช้คนแบบเรา ชาวบ้านทำมาหากิน ไม่มียศศักดิ์ ไม่มีเงินเดือนอย่างเรา

มีรายงานว่า แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีกำหนดแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ บางลำพู ในเวลา 22.00 น. คืนนี้

ด้านนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวผ่านรายการ รู้ทันทักษิณ ออกอากาศทางฟรีทีวีผ่านดาวเทียม ASTV เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ว่า การประกาศเจตนารมณ์ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศนั้นไม่ใช่การประกาศลาออกที่จะมีผลทันที แต่บอกว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หมายความว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ยังรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ และจะยังรักษาการไปเรื่อยๆ จนกว่าการเลือกตั้งจะได้ส.ส. 500 คน และเปิดสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้

สภาพการณ์จึงกลายเป็นว่า หากต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากตำแหน่งไปเร็วๆ ก็ต้องหาทางให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้น ได้ส.ส.ครบ 500 คนเร็วๆ แต่ต้องไม่ลืมว่า สภาที่จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นสภาพรรคเดียว คือพรรคไทยรักไทย แม้จะมีส.ส.จากพรรคคนขอปลดหนี้เข้ามาได้ 1 คน ก็ตาม

ดังนั้น การเมืองหลังจากนี้ไปก็จะขึ้นอยู่กับพรรคไทยรักไทยเป็นผู้กำหนด และจะมีความชอบธรรมตามกฎหมาย ที่ไม่มีใครไปโต้แย้งได้ จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะการสืบทอดอำนาจ การตั้งนายกฯนอมินี แล้วการปฏิรูปการเมืองที่จะเกิดขึ้นจะไว้ใจได้อย่างไร ใครจะเชื่อถือ เพราะคนที่จะมาทำการปฏิรูปการเมืองเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้

นายเจิมศักดิ์กล่าวว่า คำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ชัดเจนว่าจะวางมือจริงหรือไม่ จะต้องติดตามต่อไปว่า ใครจะมารเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งก็ต้องเป็นคนในพรรคไทยรักไทย และเป็น นอมินี หรือ ตัวแทนเชิด ของพ.ต.ท.ทักษิณตามเดิม

นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่าต่อว่า การประกาศไม่รับตำแหน่งของพ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นการถอยเพื่อรุก คือตัวของพ.ต.ท.ทักษิณยอมถอยออกไป แต่เขาจะส่งตัวแทนรุกคุมเข้ามา เริ่มจาก ส.ส.ทั้งสภา ที่เขาจะผลักดันเลือกตั้งต่อให้ได้ ส.ส.จนครบ ซึ่งก็จะมีแต่คนของพรรคไทยรักไทย อาจมีพรรคอื่นปนเข้ามา 1-2 คน

เพราะฉะนั้น กระบวนการต่อจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่การตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมา แต่กว่าจะผ่านเป็นกฎหมายออกมาก็ต้องผ่านสภา ที่เขาคุมไว้ทั้งหมด

ด้านดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมดำเนินรายการ รู้ทันทักษิณ กล่าวเสริมว่า การถอยของพ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ เหมือนกับคนที่เคยขับรถเอง แต่ตอนนี้ลุกออกมานั่งอยู่เบาะหลัง แล้วให้คนขับมาขับแทน ซึ่งเขาก็ยังคงสั่งให้ขับเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้ตามเดิม

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่พ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศว่าจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ภายใน 15 เดือน แต่นั่นเป็นการประกาศในขณะที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หลังจากที่เขาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เขาอาจจะหาเรื่องให้สภาชุดนี้อยู่ต่อจนครบ 4 ปีก็ได้ เพราะสามารถอ้างได้ว่า การยุบสภาเป็นเรื่องของนายกฯคนใหม่ ซึ่งไม่ใช่เขาแล้ว

ดร.เสรี กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ยังกลัวกันอยู่ ก็คือ ตอนนี้ คนทั่วไปจะมองว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ถอยจนสุดแล้ว ไม่เอาตำแหน่งนายกฯแล้ว ถึงกับน้ำหูน้ำตาไหลแล้ว เรายังจะเอาอะไรกับเขานักหนา แล้วก็จะเร่งให้มีการเลือกตั้งส.ส.ให้ครบ 500 คน จะได้เปิดสภาตั้งรัฐบาลใหม่ แล้วเขาก็จะได้มา นั่งหลังคนขับ ต่อไป

ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวว่า ดีใจในขั้นแรก ต่อการประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณที่ ว่าหลังเปิดสภาจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือว่าการต่อสู้ของพันธมิตรได้ผลมาขั้นหนึ่ง และเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ดีกว่าเราสู้กันไป ๆๆ แล้วก็จบแบบไม่ดี

สำหรับข้อสงสัยที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีตัวแทนอยู่ในรัฐบาลนั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า มนุษย์ไม่น่าจะมีอะไรที่สลับซับซ้อนเกินไป คิดว่านายกฯ ยอมถอยเป็นโอกาสที่ดี เพื่อไม่ต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่ชอบตัวท่านมาก คิดว่าเป็นการดีแล้ว ไม่เชื่อว่าท่าจนจะทำให้มันบิดเบี้ยวไปอีก

ส่วนการตั้งกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมา เพื่อให้เกิดการปรองดอง และทำการปฏิรูปการเมืองนั้น จะต้องมาจากหลายฝ่าย ไม่ใช่มาจากไทยรักไทยทั้งหมด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์