เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีซทีวี
นำโดย นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้ดำเนินรายการมองไกล พร้อมผู้ประกาศของสถานี เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพื่อขอความเป็นและชี้แจงกรณีที่ถูกคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) สั่งเพิกถอนใบอนุญาตออกอากาศรายการ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเนื้อหารายการส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่น
โดยนายธนาวุฒิ กล่าวว่า กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนของประชาชนไม่ว่าจะมาด้วยวิธีการใดก็ตาม ขอให้ใช้อำนาจพูดคุยกับกสท.และเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา
นายกฯในการประชุมร่วมกับทูตไทยทั่วโลกระบุว่าจะดำเนินการไปตามหลักประชาธิปไตย แต่หากคนไทยยังถูกปิดหูปิดตา ถือว่าไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย นอกจากนั้น ขอถามไปยังกสท.ว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ หรือว่ามีคำสั่งจากบุคคลใดเป็นพิเศษ ยืนยันว่าการออกอากาศรายการดังกล่าว ไม่ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมตามที่กสท.ระบุ
จึงขอให้นายกรัฐมนตรี หารือกับหัวหน้าคสช.และสั่งการให้กสท.ระงับการเพิกถอนใบอนุญาต
และให้นำข้อกล่าวหาความผิดเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเป็นธรรม พร้อมกับตรวจสอบว่า ออกคำสั่งดังกล่าวเป็นไปด้วยความเป็นธรรมหรือไม่ เนื่องจากมติของกสท.ในการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนั้น มิชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามลำดับขั้นตอนการลงโทษทางปกครองตาม พ.ร.บ.กสท. พ.ศ.2551 ที่ระบุกำหนดโทษต้องมีการแจ้งเตือน ปรับชั้นต้น ระงับการออกอากาศ จนถึงสั่งปิดถาวรและเพิกถอนใบอนุญาต แต่การสั่งปิดครั้งนี้ไม่มีหนังสือแจ้งเตือนมาก่อนแต่อย่างใด อีกทั้งการปิดสถานีโดยไม่ชอบธรรม ยังส่งผลต่อพนักงานกว่า 100 ชีวิตเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ หากยืนยันจะปิดสถานีต่อไป ทางสถานีจะยื่นเรื่องร้องเรียกต่อไปในหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยและประชาคมาโลกต่อไป
ด้าน น.ส.อรุโนทัย ศิริบุตร หัวหน้าผู้ประกาศ กล่าวว่า ขอให้นายกฯใช้อำนาจที่มีบังคับต่อ กสท.ในเรื่องการดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตให้เป็นไปตามมาตรา 37 ของกสท.
ที่จะดำเนินการเมื่อมีการทำผิดจริง และเป็นไปตามกระบวนการซึ่งที่ผ่านมาการเพิกถอนใบอนุญาตของพีซทีวี ที่เคยสั่งปิดชั่วคราว ไป 7 วันนั้น ได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า แต่การสั่งปิดครั้งนี้ ไม่ได้มีการทำหนังสือแจ้งเพื่อให้มีการชี้แจงแต่อย่างใดจึงขอความเป็นธรรม เนื่องจากขณะนี้ประเทศกำลังเข้าสู่การปรองดอง และช่องพีซทีวี ก็ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะแสดงความคิดเห็นของผู้ที่ต่อสู้ด้วยประชาธิปไตย ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ช่องเป็นตัวสะท้อนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์อีกทางหนึ่ง ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดคำถามและเคลือบแคลงใจจากสังคม และขอให้ใช้มาตฐานเดียวกันในการลงโทษสื่อให้ทัดเทียมกันทุกแขนง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
