บรรเจิดปัด36มหาปราชญ์ส่งคนนอกแทรกแซงศาล

บรรเจิดปัด36มหาปราชญ์ส่งคนนอกแทรกแซงศาล

24 เม.ย.58 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้พิจารณาภาค 2 ผู้นำการเมืองที่ดีและสถาบันการเมือง เรียบร้อยแล้ว ได้เข้าสู่การพิจารณาต่อในภาค 3 นิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หมวด 1 ศาลและกระบวนการยุติธรรม โดย นายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงภาพรวมในหมวด 1 ตอนหนึ่งว่า ตามมาตรา 222 ว่าด้วยการวินิจฉัยอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลนั้น กมธ.ยกร่างฯ ต้องการให้ศาลที่เป็นคู่กรณีเข้าร่วมในการวินิจฉัย และให้มีผู้ทรงคุณวุฒิ 3 - 5 ท่าน ช่วยชี้ในพื้นฐานของหลักวิชาการ เพื่อให้พื้นฐานแห่งการวินิจฉัยอยู่บนหลักวิชาการ

ทั้งนี้ ยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯ ไม่ได้มีความมุ่งหมายต้องการให้เกิดการแทรกแซงทางของการเมืองใด เพียงแต่ต้องการให้ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นบุคคลธรรมดาสามัญได้แสดงทัศนาของประชาชน เพราะฉะนั้นการกำหนดดังกล่าวต้องการให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) หรือคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) เปิดกว้างในการที่จะรับทัศนาจากบุคลากรที่ไม่ได้อยู่ในวิชาชีพ

นายบรรเจิด กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรา 226 ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งและการเกษียณอายุราชการของผู้พิพากษาและตุลาการนั้น ประธานศาลฎีกา และประธานศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งเพียง 1 วาระ คือ 4 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้อยู่ในตำแหน่งมากจนเกินไป ถ้าอยู่นานเกินไปจะทำให้กระบวนการบริหารของศาลเกิดความไม่รื่นไหลต่างๆ ส่วนการกำหนดอายุผู้พิพากษาศาลอาญา ศาลยุติธรรม มีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ถือว่าเกษียณอายุ ไม่ได้หมายความว่าพ้นจากตำแหน่งแล้วผู้พิพากษาต้องไปอยู่ในศาลชั้นต้น แต่การจะไปดำรงตำแหน่งตรงไหนอย่างไรให้ ก.ต.หรือ ก.บ.ศ.เป็นผู้กำหนด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์