คีรีมายายกเลิกแถลงข่าว หวั่นบานปลาย อธิบดีป่าไม้อ้ำอึ้ง! แต่ลั่นจากนี้ไม่มีแล้ว

คีรีมายายกเลิกแถลงข่าว หวั่นบานปลาย อธิบดีป่าไม้อ้ำอึ้ง! แต่ลั่นจากนี้ไม่มีแล้ว

"คีรีมายา"ยกเลิกแถลงข่าว หวั่นบานปลาย "อธิบดีป่าไม้"อ้ำอึ้ง! แต่ลั่นจากนี้ไม่มีแล้ว

เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า เวลานี้มีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติถูกบุกรุกโดยเข้าไปปลูกสวนยางพาราประมาณ 4 ล้านกว่าไร่ ทั่วประเทศ ภายในปี 2558 กรมป่าไม้ตั้งเป้าว่าจะเข้าตรวจยึดและดำเนินคดีกับนายทุนผู้กระทำการดังกล่าวให้ได้ไม่ต่ำกว่า 400,000 ไร่

ที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วพร้อมๆ กันทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด

เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าโดยทำงานรวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายประกอบกับกรมป่าไม้มีทีมเฉพาะกิจ ชุดพยัคฆ์ไพร ออกไปดำเนินการเช่นเดียวกัน แต่จะเข้าไปจัดการกับนายทุนรายใหญ่ที่บุกรุกพื้นที่สำคัญและเนื้อที่กว้าง เช่น พื้นที่ต้นน้ำป่าสัก นับหมื่นไร่ และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งพื้นที่ต้นน้ำป่าสักเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เข้าข่ายวิกฤต เพราะถูกบุกรุกอย่างหนัก ทำให้สูญเสียป่าต้นน้ำไปไม่ต่ำกว่า 100,000 ไร่ หลังจากนี้จะมียุทธการเข้ายึดคืนอีกจนกว่าจะได้ป่าสงวนแห่งชาติกลับคืนมาทุกไร่

"ภาพรวมทั้งประเทศเวลานี้เราสามารถยึดคืนพื้นที่ป่ามาได้แล้ว49,000 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ยางพาราอย่างเดียว 12,000 ไร่ และเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำป่าสัก รวมกับพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จ.เลย อีกราว 21,000 ไร่ ตั้งเป้าเอาไว้ 400,000 ไร่ ภายในปีนี้ จากพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมดทั่วประเทศกว่า 4 ล้านไร่ด้วยกัน" นายธีรภัทรกล่าว

อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า การเข้าไปยึดคืนป่าสงวนแห่งชาติในหลายพื้นที่เวลานี้ ยังมีปัญหาคือ


 มีการทับซ้อนกันระหว่างหน่วยงาน ซึ่งที่ผ่านมานั้น กรมป่าไม้ได้ประชุมหารือกับทางกรมที่ดิน และทางกระทรวงเกษตรฯ เพื่อบูรณาการ ทำงานร่วมกันแล้ว โดยทางอธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า พื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาตินั้น ในระยะ 200 เมตรต่อไปนี้ จะไม่มีการออกเอกสารสิทธิใดๆ ให้อย่างเด็ดขาด

เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนั้น แสดงว่าพื้นที่ของคีรีมายา รีสอร์ต ที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิ โดยที่ดินด้านหนึ่งติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แสดงว่าเอกสารออกมาโดยมิชอบใช่หรือไม่

 นายธีรภัทรกล่าวว่า ที่พูดคุยกับอธิบดีกรมที่ดินคือ นับจากนี้จะไม่มีการออกเอกสารสิทธิที่คาบเกี่ยว หรืออยู่ติดกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ 200 เมตร แต่ก่อนหน้านี้ ไม่แน่ใจว่ามีการออกเอกสารสิทธิที่ดินในทำนองนี้ไปมากน้อยแค่ไหน อย่างไร จึงต้องเข้าไปตรวจสอบกันในเวลานี้

"หน่วยงานที่เราไม่เคยคุยกันเลย คือ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพราะหน่วยงานนี้มีที่ดินคาบเกี่ยวกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์หลายแห่ง โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์นี้จะมีกฎหมายเฉพาะของตัวเองเลยว่า เมื่อครอบครองที่ดินได้ระยะหนึ่งสามารถนำไปออกเอกสารสิทธิได้ ซึ่งเวลานี้ก็ยังไม่รู้ว่ามีอยู่บริเวณไหนบ้าง จะต้องเข้าไปหารือ เพื่อแยกแยะพื้นที่ให้ถูกต้องโดยเร็ว" นายธีรภัทรกล่าว

แหล่งข่าวจากบริษัท คีรีมายา จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน

 นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานที่ปรึกษาบริษัท คีรีมายา จำกัด และประธานกรรมการบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า หลังจากได้ปรึกษากับที่ปรึกษาบริษัท ได้รับคำแนะนำให้ยกเลิกการแถลงข่าว ชี้แจงและแสดงหลักฐาน กรณีที่มีกระแสข่าวให้มีการตรวจสอบคีรีมายารีสอร์ตแอนด์สปา จากเดิมจะแถลงข่าวในเวลา 10.00 น. วันที่ 21 เมษายน ที่โรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ เพราะเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องใหญ่ และสร้างกระแสข่าวให้รุนแรงบานปลายทั้งที่ความเป็นจริงแล้วบริษัททำถูกต้องทุกอย่างแต่คู่กรณีไม่ยอมจบเรื่อง

ผู้บริหารรวมทั้งที่ปรึกษามองว่าการชี้แจงเป็นเอกสารประชาสัมพันธ์ในรูปแบบข่าวแจกให้สื่อมวลชนสามารถตอบคำถามสังคมได้อย่างครบถ้วน

และประหยัดเวลามากกว่าจึงได้สั่งการให้ผู้เตรียมงานยกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าวแต่ยังคงแจกเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนในวันที่ 21 เมษายน โดยจะระบุเลขที่ดิน และหลักฐานการซื้อที่ดินในเอกสาร เพื่อความชัดเจนต่อสังคมด้วย ส่วนจะมีการฟ้องร้องหรือไม่นั้น ต้องรอการชี้แจงอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 เมษายนอีกครั้งหนึ่ง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทางคีรีมายายืนยันว่า เอกสารสิทธิของคีรีมายาเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อความบริสุทธิ์ใจในเบื้องต้น


 จะทำหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบได้ทันที ส่วนที่ดินภายในโครงการคีรีมายายืนยันว่าเป็นการประมูลซื้อจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2545 และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ได้ส่งมอบการครอบครองพื้นที่พร้อมเอกสารสิทธิให้กับคีรีมายา โดยมีการลงชื่อส่งมอบ สถานที่ พื้นที่ และเอกสารสิทธิอย่างชัดเจน จึงมีความถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย

"สำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่กล่าวหาว่าหน่วยงานของรัฐ อาทิ เช่น กองทัพภาคที่ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรม กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน มีลักษณะการทำงานแบบเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชัง ตลอดจนพูดให้เกิดความไขว้เขวเข้าใจผิด ทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทคีรีมายาจำกัด และหน่วยงานของรัฐ ทางคีรีมายาจะตรวจสอบและฟ้องร้องเอาผิดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยหน่วยงานของรัฐ หากจะร่วมเป็นโจทก์ทางคีรีมายายินดีเป็นผู้ดำเนินการให้ในเบื้องต้น" แหล่งข่าวกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์