พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล
ภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เมื่อวันที่ 3 เมษายน ว่า ที่ประชุมโดยคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีการเสนอรายชื่อข้าราชการกว่า 100 ราย ที่พัวพันการทุจริต นำข้อเท็จจริงและหลักฐานมาหารือกันเป็นที่เรียบร้อย มีการตรวจสอบหลักฐานกันชัดเจน พบว่าบางคน ป.ป.ช.ชี้มูลไปแล้ว ป.ป.ท.ดำเนินการแล้วก็มี
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้า ศอตช.จะทำหนังสือไปที่เลขาธิการ ป.ป.ท. ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายเลขาฯของ ศอตช. เพื่อรวบรวมรายชื่อทั้งหมดส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.)
ทั้งนี้ กรอบการทำงานมี 2 ระดับ คือ ระดับที่จะต้องพิจารณาโดยนายกรัฐมนตรีและระดับหัวหน้าส่วนราชการเพื่อดำเนินการปรับย้ายออกจากจุดที่มีปัญหาเพราะเป็นเรื่องของวินัยและปกครองไม่ใช่เรื่องของอาญา แต่ในส่วนของคดีอาญาก็ว่ากันไป ทั้งนี้ จะมีการเรียกประชุม ศอตช.ทุกเดือน ดังนั้น จะมีแบบนี้ทุกปี ถ้ามีหลักฐานชัดเจนจะส่งรายชื่อทุกเดือน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการกว่า 100 รายที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันการทุจริตนั้น หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะมีช่องทางอย่างไร พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ก็เสนอมา มีกระบวนการอยู่แล้ว ก็เอาหลักฐานมา แต่มั่นใจว่า 4 หน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องทุจริตให้บ้านเมืองไม่ทำอะไรที่เป็นการรังแกคน นายกรัฐมนตรีสั่งเสมอว่าอย่าไปรังแก ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม
เมื่อถามว่า การปรับย้ายจะเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า แล้วแต่ เพราะบางคนอาจจะเป็นแค่คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี ปลัดกระทรวง บางคำสั่งอาจจะต้องใช้ระดับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอย่างที่บอกว่าการทำงานจะมี 2 ระดับให้ดำเนินการ แต่ทั้งหมดจะได้รับการตรวจสอบจากประธาน คตช.คือ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องตรวจสอบและเห็นชอบ
เชื่อว่าท่านนายกฯจะตรวจสอบให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นท่านจะถูกหาว่าไม่มีคุณธรรม เพราะเราต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการด้วย และผมทำด้วยความรอบคอบ โดยย้ำกับ 4 หน่วยงานว่าต้องรอบคอบ อย่าทำให้ท่านนายกฯเสียความเป็นผู้นำเรื่องจริยธรรมและคุณธรรม พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่า การจะปรับย้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปรับขั้วการเมืองใช่หรือไม่พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ไม่มี ผมยังไม่รู้เลย คิดว่าจำชื่อข้าราชการประเทศไทยได้ทั้งหมดหรอ ไม่มีใครจำได้ ผมยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับขั้ว ถ้ามีชื่อแล้วนายกฯเห็นสอดคล้องก็ทำจริง ท่านก็จะเห็นได้เลยว่าเราไม่ได้ทำเรื่องพวกนี้ ท่านอย่าเอาเรื่องพวกการเมืองมาเกี่ยวข้อง ผมทำเรื่องทุจริต คือสิ่งที่เป็นวาระแห่งชาติ คือสิ่งที่ประชาชนต้องการให้จัดการ ผมทำเรื่องนี้ ท่านอย่าผูกเรื่อง ท่านก็พยายามผูกเรื่องโยงผมไปเรื่อย ท่านต้องแยกประเด็น ไม่เช่นนั้นปัญหาบ้านเมืองมันแก้ไม่ได้ ผมเดินเรื่องทุจริตอย่างเดียว
เมื่อถามว่า สังคมกังวลว่าเมื่อตรวจสอบทุจริตแล้วสุดท้ายไปเจอคนนามสกุลใหญ่จะจัดการไม่ได้ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวยืนยันว่า ไม่มีหรอกครับ คุณต้องเอามาสิ ต้องมาบอกผมว่าใคร อย่างไร คือสงสัยให้มาถามได้เลยนามสกุลนี้มาถามได้เลยแล้วเราก็จะบอก บางทีเราเข้าใจว่าทำไมไม่จัดการ แล้วไหนล่ะหลักฐาน
ทั้งนี้ กรอบการทำงานมี 2 ระดับ คือ ระดับที่จะต้องพิจารณาโดยนายกรัฐมนตรีและระดับหัวหน้าส่วนราชการเพื่อดำเนินการปรับย้ายออกจากจุดที่มีปัญหาเพราะเป็นเรื่องของวินัยและปกครองไม่ใช่เรื่องของอาญา แต่ในส่วนของคดีอาญาก็ว่ากันไป ทั้งนี้ จะมีการเรียกประชุม ศอตช.ทุกเดือน ดังนั้น จะมีแบบนี้ทุกปี ถ้ามีหลักฐานชัดเจนจะส่งรายชื่อทุกเดือน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการกว่า 100 รายที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันการทุจริตนั้น หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะมีช่องทางอย่างไร พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ก็เสนอมา มีกระบวนการอยู่แล้ว ก็เอาหลักฐานมา แต่มั่นใจว่า 4 หน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องทุจริตให้บ้านเมืองไม่ทำอะไรที่เป็นการรังแกคน นายกรัฐมนตรีสั่งเสมอว่าอย่าไปรังแก ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม
เมื่อถามว่า การปรับย้ายจะเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า แล้วแต่ เพราะบางคนอาจจะเป็นแค่คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี ปลัดกระทรวง บางคำสั่งอาจจะต้องใช้ระดับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอย่างที่บอกว่าการทำงานจะมี 2 ระดับให้ดำเนินการ แต่ทั้งหมดจะได้รับการตรวจสอบจากประธาน คตช.คือ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องตรวจสอบและเห็นชอบ
เชื่อว่าท่านนายกฯจะตรวจสอบให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นท่านจะถูกหาว่าไม่มีคุณธรรม เพราะเราต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการด้วย และผมทำด้วยความรอบคอบ โดยย้ำกับ 4 หน่วยงานว่าต้องรอบคอบ อย่าทำให้ท่านนายกฯเสียความเป็นผู้นำเรื่องจริยธรรมและคุณธรรม พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่า การจะปรับย้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปรับขั้วการเมืองใช่หรือไม่พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ไม่มี ผมยังไม่รู้เลย คิดว่าจำชื่อข้าราชการประเทศไทยได้ทั้งหมดหรอ ไม่มีใครจำได้ ผมยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับขั้ว ถ้ามีชื่อแล้วนายกฯเห็นสอดคล้องก็ทำจริง ท่านก็จะเห็นได้เลยว่าเราไม่ได้ทำเรื่องพวกนี้ ท่านอย่าเอาเรื่องพวกการเมืองมาเกี่ยวข้อง ผมทำเรื่องทุจริต คือสิ่งที่เป็นวาระแห่งชาติ คือสิ่งที่ประชาชนต้องการให้จัดการ ผมทำเรื่องนี้ ท่านอย่าผูกเรื่อง ท่านก็พยายามผูกเรื่องโยงผมไปเรื่อย ท่านต้องแยกประเด็น ไม่เช่นนั้นปัญหาบ้านเมืองมันแก้ไม่ได้ ผมเดินเรื่องทุจริตอย่างเดียว
เมื่อถามว่า สังคมกังวลว่าเมื่อตรวจสอบทุจริตแล้วสุดท้ายไปเจอคนนามสกุลใหญ่จะจัดการไม่ได้ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวยืนยันว่า ไม่มีหรอกครับ คุณต้องเอามาสิ ต้องมาบอกผมว่าใคร อย่างไร คือสงสัยให้มาถามได้เลยนามสกุลนี้มาถามได้เลยแล้วเราก็จะบอก บางทีเราเข้าใจว่าทำไมไม่จัดการ แล้วไหนล่ะหลักฐาน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
