อภิสิทธิ์เตือนทุกฝ่ายอย่าตกเป็นเครื่องมือสร้างความรุนแรง

ชี้มีคนพยายามจะทำให้เกิดความรุนแรง เรียกร้องทุกฝ่ายอย่าตกเป็นเครื่องมือ ย้ำหากเกิดปัญหาจะมีแต่เสีย ไม่มีใครได้ประโยชน์

ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมขับไล่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ที่เกิดความวุ่นวาย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีการทำร้ายนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีต ส.ว.นครราชสีมา ว่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า

ความแตกแยกยังมีอยู่มาก และมีคนพร้อมที่จะใช้ความรุนแรง ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องหลีกเลี่ยงเงื่อนไข ที่จะทำให้เกิดการปะทะกัน และหลีกเลี่ยงการเป็นเหยื่อของการยั่วยุ

วันที่ 24 มิถุนายนนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การชุมนุมยืดเยื้อสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ถ้าไปทำอย่างอื่นจะมีปัญหา เชื่อว่า มีคนที่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ดังนั้น อย่าตกเป็นเหยื่อ เพราะคนร้อยละ 90 หรือเกือบ 100% ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงและไม่ต้องการให้ยืดเยื้อ มีวิกฤตข้ามปี และเศรษฐกิจทรุดลงอีก ดังนั้น อย่าไปเป็นเหยื่อของคนหยิบมือเดียว ที่ต้องการเห็นความรุนแรง

ส่วนที่บางคนมองว่า

หากเหตุการณ์บานปลาย อาจจะไม่มีการเลือกตั้งในปลายปีนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อาจจะเป็นเป้าหมายของคนบางกลุ่ม แต่เท่าที่สัมผัสมาทุกแห่ง ทุกคนต้องการให้บ้านเมืองสงบ และกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ถ้าปล่อยให้เป็นปัญหา เชื่อว่ามีแต่เสีย ไม่มีใครได้

หากมีการเผาสถานที่ราชการ ไม่เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพีทีวีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนไม่ควรปัดความรับผิดชอบ และไม่ควรพูดว่า หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เป็นฝีมือของฝ่ายนั้น ฝ่ายนี้ แต่ควรแสดงความจริงใจ ช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าใครทำอะไร หากผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ ไม่ใช่จะโยนไปเป็นความรับผิดชอบของตำรวจทั้งหมด

ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดตามกฎหมาย

และทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ และพ้นวิกฤต อย่าเอาประโยชน์ของกลุ่มเป็นใหญ่ เชื่อว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า เวลานี้บางคนพยายามเอาความรุนแรงมาข่มขู่ และเป็นตัวชี้นำ เราต้องไม่จำนนต่อคนเหล่านี้

จะไม่หยุดแค่หน้ากองบัญชาการกองทัพบกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะไปไหนก็แล้วแต่ จะต้องเคารพกฎหมาย อย่าตื่นเต้นจนเกินไป ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความรัดกุม และอธิบายให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ประโยชน์ของประเทศในวันข้างหน้าเป็นอย่างไร และวันนี้ใครทำอะไรบ้าง

สำหรับกรณีที่นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร ระบุว่า

ก ลุ่มผู้ชุมนุมต้องการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีข้ออ้างลี้ภัยทางการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ การรอเพื่อกลับมาสู้คดีที่ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ฟ้องมากกว่า

ถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ปราศรัยผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ ทางเลือก และการเอาชนะปัญหาของชาติวันนี้ เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) ตอนหนึ่ง ถึงคดียุบพรรคไทยรักไทย และได้ขอบคุณพรรคไทยรักไทยที่ได้สร้าง และดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อคนยากคนจน ว่า เราต้องพูดกันบนพื้นฐานความจริง จะบอกว่าพรรคการเมืองไหนดี 100% หรือเลว 100% ไม่ได้

ดังนั้น สิ่งที่พรรคไทยรักไทยทำไว้

และช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัว ประชาชนได้ประโยชน์ ก็ไม่ควรตั้งข้อรังเกียจ
ผมบอกเสมอว่า เรื่องไหนดี มีประโยชน์ ก็ต้องเดินต่อ เช่น การรักษาฟรี ต้องต่อยอด ทำให้มั่นคงมากขึ้น หรือกองทุนหมู่บ้าน ต้องดูแลให้เดินต่อไป สิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์ ที่พรรคไทยรักไทยทำมาก็มี จะไม่ดีเลย หรือไม่ยอมรับ ก็ไม่ถูกต้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า

การที่นายกรัฐมนตรีออกมาชี้แจงความผิดของพรรคไทยรักไทย จะทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการให้ข้อมูล แต่ก็มีคนที่มองว่า เขามีข้อมูลอีกด้านหนึ่ง สิ่งสำคัญคือ ต้องการให้ทุกคนมองไปข้างหน้า ว่าเราจะออกจากปัญหาช่วงนี้อย่างไร หากเกิดการปะทะกัน ใครจะได้ประโยชน์ ขณะที่ทุกฝ่ายบอบช้ำ ถ้าเราคิดถึงอนาคตข้างหน้าให้มาก เชื่อว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: