ทักษิณไม่ออก!-คราวนี้อ้างมีคนถึง 16 ล้านเสียงหนุนอยู่ต่อ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2549 21:57 น.

ทักษิณ ไม่ออก คราวนี้อ้างคนเลือกมาถึง 16 ล้านเสียงได้เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ ระบุถ้าลาออกจะทำให้คนที่เลือกมาจำนวนมากเสียความรู้สึก โยนหินถามทางตั้งกก.อิสระสมานฉันท์รับข้อเสนอทุกฝ่ายแล้วค่อยตัดสินใจ อ้างปฏิรูปการเมืองเป็นวาระแห่งชาติ เย้ยโนโหวตเสียงรวมกันแล้วยังน้อยกว่าเลือกไทยรักไทยทั่วประเทศ

วันนี้(3 เมษายน) เมื่อเวลาประมาณ 2030 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการกรองสถานการณ์ทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ยังอ้างว่าตัวเองมาตามกติกาอย่างถูกต้อง โดยในครั้งนี้มีประชาชนเลือกพรรคไทยรักไทยมากถึง 16 ล้านเสียงโดยคิดเป็นจำนวนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ฝ่ายไม่เอามีแค่ 10 ล้านเสียง หากต้องการให้ลาออกก็ต้องไปถามคนที่เลือกมาถึง 16 ล้านคนจะมีความรู้สึกอย่างไร

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้สถิติการทำโพลล์และตัวเลขของผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการมาอ้างอิงประกอบด้วย โดยได้ยกตัวอย่างในพื้นที่กรุงเทพฯที่คนเลือกพรรคไทยรักไทยสูงถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประชาชนกาในช่องไม่เลือกใครนั้นเป็นเสียงเดิมของอดีต 3 พรรคฝ่ายค้านเดิม รวมทั้งความนิยมส่วนตัวของกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า เวลานี้กำลังจะเสนอให้มีคณะกรรมการสมานฉันท์คณะหนึ่งที่มาจากทุกฝ่ายฝ่ายละ 3 คน ซึ่งประกอบด้วยอดีตนายกฯ อดีตประธานศาลฎีกา อดีตประธานรัฐสภา หรืออดีตอธิการบดีมหาลัยของรัฐ ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้จะรับข้อเสนอจากฝ่ายคต่างๆมาดำเนินการแก้ไข ซึ่งหากทุกฝ่ายยอมรับแนวทางนี้ตนก็พร้อมจะทำตาม

ถ้าให้ลาออกหรืออยู่ต่อก็พร้อม แต่ต้องหมายความว่าถ้าให้ลาออกแล้วบ้านเมืองต้องสมานฉันท์จริงๆ ผมก็ต้องโยนแนวทางนี้ออกไปไม่รู้ว่าจะยอมรับหรือเปล่า ถ้าผมลาออกแล้วทุกคนกลับไปทำมาหากิน ผมก็ยินดี พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ

หัวหน้าพรรคไทยรักไทยยังกล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปการเมืองว่า จะถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะหากกกต.สามารถรับรองผลการเลือกตั้งและเปิดสภาได้ก็จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 313 แล้วตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งขึ้นมาปฏิรูปการเมืองภายในระยะเวลา 1 ปีบวกลบ 3 เดือนจากนั้นจะยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า บ้านเมืองต้องมีกติกาส่วนการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้หลักรัฐศาสตร์กับนิติศาสตร์ โดยจะเลือกวิธีการใช้ความรุนแรงเป็นวิธีการสุดท้ายก่อนสุดท้ายจริงๆ