“บิ๊กตู่” วอนอย่าสนใจสืบทอดอำนาจหรือไม่ ขอตัดสินเอง

“บิ๊กตู่” วอนอย่าสนใจสืบทอดอำนาจหรือไม่ ขอตัดสินเอง

“บิ๊กตู่” วอนอย่าสนใจสืบทอดอำนาจหรือไม่ ขอตัดสินเอง จี้คลอดสัญญาคุณธรรม-หวังไทยลบภาพทุจริต

 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่โรงแรมเซนทารา แกรนด์ แอท เซนทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนาโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ

 โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การที่ประเทศไทยจับมือกับอังกฤษ เข้าร่วมโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (คอสต์)

เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ป้องกันการทุจริต คอร์รัปชั่น และเพื่อให้มีกลไกในการตรวจสอบ การทำงานทุกวันนี้อย่าซีเรียส การทำงานทุกอย่างมีปัญหาอยู่แล้ว วันนี้ที่เราเข้ามา เราต้องการทำทุกอย่างให้ประเทศเกิดความภาคภูมิใจ มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี โดยสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้น ซึ่งตอนที่รัฐบาลนี้เข้ามา มีปัญหามากมาย ทุกคนจึงอยากให้ประเทศเดินหน้าไปได้ โดยนโยบายสำคัญวันนี้ คือรัฐบาลต้องการที่จะขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างความโปร่งใส สิ่งเหล่านี้ถึงจะยาก แต่จะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นได้จริง และขอกำลังใจจากประชาชนในการให้ความร่วมมือ และเจตนาวันนี้ที่เข้ามาไม่ได้มุ่งหวังสืบทอดผลประโยชน์ สืบทอดอำนาจ ถ้าคิดจะทำเช่นนั้นคงไม่มาทำเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตและการเข้าร่วมโครงการกับคอสต์ ขอให้จำเอาไว้ ไม่รู้จะเอาไว้ทำไม ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ เราเข้ามาเพื่อต้องการให้ประเทศปลอดภัย ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น และอยู่อย่างทัดเทียมมิตรประเทศ แม้วันนี้เราจะถูกปรับอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นประจำปี 2557 อยู่ที่ 35 ซึ่งขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ อยากให้ขึ้นไปมากกว่า แต่คงเป็นเรื่องยาก การสร้างความโปร่งใส ไม่ใช่เรื่องของภาครัฐอย่างเดียว ทุกคนต้องช่วยกัน

 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนยอมรับ จะต้องไม่ใช้กฎหมายในทางที่ผิด หรือสร้างความขัดแย้ง

จะต้องไม่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือสร้างความไม่โปร่งใส เราจะต้องยึดมั่นทำงานให้โปร่งใสและรวดเร็วให้ได้ โดยยึดหลัก ธรรมาภิบาล คุณธรรม จริยธรรม และหลัก 3 ป. คือป้องกัน ปราบปราม และปลูกจิตสำนึก วันนี้เชื่อมั่นว่า ตนไม่ได้ใช้อำนาจหรือไปทรมานใคร ไม่ได้ใช้อำนาจหรือกำมาตราใดอย่างที่คนอื่นพูด อำนาจและกฎหมายเหล่านั้นไว้ใช้กับคนไม่ดี ทำผิดกฎหมาย มีคดีความ และขอชี้แจงกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตอังกฤษว่า รัฐบาลและคสช. ไม่มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพ หรือทรมานใครที่เรียกตัวมา การที่เชิญบุคคลมา 3-4 พันคนนั้น มีเพียง 3-4 ร้อยคน และดูแลอย่างดี ตอนนี้ปล่อยกลับหมดแล้วไม่มีการทรมาน แทบจะโอ๋กันด้วยซ้ำ เป็นการเชิญมาพูดคุย วาระแห่งชาติวันนี้ จะต้องสร้างความเข้าใจ ลดความขัดแย้งและเร่งการปฏิรูป ที่ผ่านมาทั้ง 2 รัฐบาล ได้มีความพยายามทำมาตลอด แต่ทำไม่ได้ วันนี้จะทำอย่างไร ไม่ให้เกิดแนวร่วมมุมกลับ โดยวันนี้ตนก็ได้พูดอย่างระมัดระวังในทุกด้าน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความขัดแย้ง

 “ที่ ผ่านมา ผมพยายามพูดหรือสั่งการทุกอย่างอย่างระมัดระวัง บางคืนถึงกับฝันว่า สั่งไปจริงแล้วหรืออยัง ยอมรับว่าเหนื่อย แต่สู้ได้ ไม่ต้องห่วง อย่าคิดว่าเหนื่อยแล้วจะไปไหน ไม่มีทาง ไม่สำเร็จ ไม่ไป ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่รู้จะเข้ามาทำไม ไหนใครไม่ชอบหน้าผมก็บอกมาเลย จะได้จบๆ สักที ถ้าประชาชนไม่ต้องการผม ก็จะไม่อยู่แล้ว ผมทำขนาดนี้ ไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ดังนั้น ขอให้ทุกคนร่วมมือกับผมในการเดินหน้าประเทศ ช่วยกันหาทางเดินหน้าต่อให้ได้ ทางไหนตัน ก็หาทางใหม่ และยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการอะไรทั้งสิ้น ไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ ตนเองและรัฐมนตรีทุกคนที่เข้ามาก็ไม่ได้อะไรเลย 

 ส่วน เรื่องแม่น้ำ 5 สายอย่าไปกังวล ใครจะอยู่จะไป ผมก็ยึดตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว และเดี๋ยวผมจะเป็นคนตัดสินเอง

ขอวันนี้อย่านำทุกอย่างมาตีกัน ไม่เช่นนั้นประเทศก็ไม่ต้องไปไหน มีรัฐธรรมนูญก็ตีกันอีก แล้วจะให้ผมทำอย่างไร ทุกประเทศผ่านการปฏิรูปมาหมดแล้ว เราช้ากว่าประเทศอื่นๆ วันนี้เราต้องเอาทุกเรื่องมาปฏิรูป จึงขอใช้เวลา เพราะต้องแก้กฎหมาย กระบวนการ แก้คน แก้ทัศนคติในการทำงาน สร้างกลไกอีกหลายเรื่อง จึงขออย่าใจร้อนมากนัก ใจร้อนมากจะเสียของ เดี๋ยวก็จะเตรียมการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญก็กำลังจะออกมา อย่ากังวล ถ้าประชาชนไม่ยอมรับผมก็ไม่เอาด้วยแล้วประเทศนี้ ทำไมถึงไม่เข้าใจกัน รัฐบาลนี้เข้ามาเป็นรัฐบาลจริงๆ เพียงแค่ 6 เดือน วันนี้เราจะต้องทำทุกอย่างไม่ให้เกิดแรงต้าน ให้ประชาชนเข้าใจ สีไหนผมไม่สนใจถ้าเราดูแลเขาดีและมีความจริงใจให้ มันก็ต้องสามารถทำได้ อย่างวันนี้ ผมไปในบางพื้นที่ที่มีคนห้าม ก็ไม่เห็นเขาจะว่าอะไร ในเมื่อที่ผ่านมา ผมก็ทำงานให้ทุกคนอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 นายกฯ กล่าวต่อว่า วันก่อนเจอนักข่าวถามว่า รัฐบาลมีผลงานอะไร ตนแทบจะชกหน้าคนถาม ทำมาตั้งเยอะแยะไม่เห็นหรืออย่างไร

วันนี้ตนจะพูดไปเรื่อยๆ ยอมเหนื่อย ยอมเจ็บคอ ต่อไปนี้ทุกคืนวันศุกร์ ข้าราชการทุกกระทรวงต้องจดบันทึกให้รัฐมนตรีให้ทราบว่า ตนพูดอะไรไปบ้าง นักข่าวเองก็ต้องฟังเหมือนกัน เวลามาถามจะได้รู้เรื่อง และมีแนวคิดจะเปิดเวทีถามนักข่าวบ้างเหมือนการสอบ แล้วส่งให้บรรณาธิการดีไหม วันนี้ตนคิดเยอะอยู่ในหัว รับข้อมูลมาทุกเรื่อง

 นายก รัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของข้าราชการ ก็จะต้องมีการดูแลระบบราชการไม่ให้การเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์

ซึ่งที่ผ่านมา นักการเมืองไม่เคยเซ็นอะไรสักอย่าง คดีที่อยู่ทุกวันนี้ คอยดูเถอะ ข้าราชการจะโดนเป็นจำนวนมาก วันนี้ขอให้ไปช่วยกันคิดเรื่องสัญญาคุณธรรม เร่งรัดให้ได้ภายในปีนี้ว่าจะทำอย่างไร เพราะข้าราชการเองก็ต้องมีเกราะคุ้มกันตัวเอง ไม่ให้กลายเป็นเครื่องมือของนักการเมือง รวมถึงเรื่องสัปทานโครงการประมูลคลื่นความถี่ในระบ 4จี ก็จะต้องทำให้ได้ภายใน 6 เดือน พร้อมปรับโครงสร้างไอซีที และยืนยันว่าตนไม่ได้ประโยชน์

 ด้านนายมาร์ค เค้นท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย กล่าวว่า โครงการของคอสต์เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2551

ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษ และธนาคารโลกเพื่อสร้างกลไกและมาตรฐานความโปร่งใส ในการก่อสร้างภาครัฐที่เน้นการเปิดเผยข้อมูล เพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น และใช้เงินภาษีอย่างคุ้มค่า ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ใช้ความกล้าหาญเข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะโครงการ ก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟสสอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้นานาชาติยอมรับ ขณะเดียวกันการป้องกันการคอร์รัปชั่น จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์