บิ๊กตู่ ปัดไล่ล่า ทุกอย่างเดินตามกระบวนการ

บิ๊กตู่ ปัดไล่ล่า ทุกอย่างเดินตามกระบวนการ

"บิ๊กตู่" ปัดไล่ล่า ทุกอย่างเดินตามกระบวนการ ฉะ! อย่าโยงบึ้มพารากอนกับก่อการร้าย

"ประยุทธ์"ปัดไล่ล่า ทุกอย่างเดินตามกระบวนการยุติธรรม ลั่นใครทำประเทศเดือดร้อนต้องรับผิดชอบ ฉะอย่าโยงเหตุบึ้มพารากอนกับก่อการร้าย หวั่นชักศึกเข้าบ้าน ระบุหากเป็นต่างชาติต้องหาคนให้ได้

เมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ฝูงเครื่องบินกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ไปปฏิบัติภารกิจที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ ว่า การลงพื้นที่อ่างขางวันนี้เพื่อไปประชุมคณะกรรมการโครงการหลวงและเยี่ยมโครงการและถวายกำลังใจให้ม.จ.ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง จากนั้นในช่วงบ่ายจะเดินทางไปที่ จังหวัดน่าน เพื่อรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

พร้อมพูดคุยเพื่อหาทางออกตามข้อเสนอของนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า เรื่องนี้ตนพูดไปแล้วว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารไปพูดคุยได้ ส่วนกรณีที่นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่าเป็นฝ่ายถูกกดดันและไล่ล่านั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กดดันเรื่องอะไร ไล่ล่าอย่างไร เป็นเรื่องของคดีความไม่ใช่เรื่องการไล่ล่า ถ้ามีการร้องเรียนฟ้องร้องก็ดำเนินคดีไปเท่านั้นเอง จะไปไล่ล่าอะไร

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องกลับมาสู้คดีก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า

เรื่องนี้จะไม่พูดแล้ว ส่วนที่มีการนำมาผูกโยงกับการปรองดองนั้น ใครจะผูกก็ผูกไปตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าใจคำว่าเจ้าหน้าที่รัฐไหม ว่าต้องทำตัวอย่างไรจึงจะเหมาะสม และตนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องบริหารราชการแผ่นดิน วันนี้มีเรื่องที่เป็นห่วงกังวลมากมาย ทั้งรายได้เกษตรกรที่ไม่ค่อยดี ตนยังต้องบริหารรชการแผ่นดินและแก้ปัญหาที่ทุกคนได้ทำกันไว้

"ทำไมผมต้องไปปรองดองกับใคร ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ผมเข้ามาทำหน้าที่ของผม ผมเข้ามาควบคุมอำนาจบริหารราชการแผ่นดินมาแก้ปัญหาที่บกพร่องอยู่โดยใช้กลไกของกฎหมายกระบวนการยุติธรรม แล้วทำไมผมต้องปรองดองกับใคร การปรองดองเป็นเรื่องของทุกคน ทุกกลุ่มอยู่แล้ว คนไทยอยากจะขัดแย้งกันต่อไปหรือ ซึ่งผมคิดว่าวันนี้บ้านเมืองก็สงบดี ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งก็รู้อยู่ว่ามีกฎหมายอะไรบ้าง แต่ก็พยายามที่จะละเมิดขัดขวางให้เกิดปัญหา ก็ควรจะต้องไปถามคนเหล่านั้นว่าทำเพื่ออะไร ถามว่าทำเพื่อประชาธิปไตยแล้ววันนี้ประชาธิปไตยที่ผ่านมามันดีหรือไม่ ถ้ามันดีก็คงไม่มีเรื่อง ใครจะไปยุ่งเกี่ยวผมก็ไม่เข้ามา ดังนั้นแสดงว่ามันยังมีปัญหาอยู่ ผมก็ต้องใช้กลไกระเบียบราชการ กลไกของกฎหมายเข้าไปแก้ไขก็เท่านั้น ฉะนั้นอย่าไปกังวล ใครจะเสนออะไรก็ได้ อยากจะพูดอะไรก็พูดมา แต่อย่าทำให้เกิดความขัดแย้ง เกิดความวุ่นวายและอย่าลากผมไปเกี่ยวข้อง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้โรดแมปที่วางไว้ต้องเลื่อนออกไปหรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า

 โรดแมปเป็นเรื่องของตน ใครจะทำให้มันเลื่อน ก็ทำไป แต่ตนต้องเดินตามโรดแมป ซึ่งคิดว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้ตนดูแลช่วยเหลือและแก้ปัญหา สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่ทุกคนเอาไปกล่าวอ้างกันไปมา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นล่วงหน้ามาหลายปีแล้วก่อนที่จะเข้ามาอีก ซึ่งตนไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว แต่เมื่อสถานการณ์มันไปไม่ได้ ก็จำเป็นต้องเข้าไปแก้ไข เพราะเป็นห่วงประเทศชาติ ถ้าไม่เข้ามาคนอื่นก็มาว่าตน ว่าปล่อยให้ประเทศเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อเข้ามาก็มาต่อว่ากันอีก ทั้งนี้ ถ้าทุกคนเข้าใจว่าเราต้องการความปรองดองสงบสันติก็อย่าไปขยายความ ขยายข่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า ตนให้เสรีอยู่แล้ว ถ้าหากพูดถึงการใช้อำนาจอย่างแท้จริง ตนคงไม่ต้องให้ใครพูดอะไรทั้งสิ้น

ซึ่งทำได้อยู่แล้ว แต่ไม่อยากจะทำ ไม่อยากใช้กฏหมายพิเศษเข้าแก้ปัญหา เพราะจะหาว่าไปรังแกใครอีก สรุปว่าวันนี้เราใช้กฎหมายกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไป เราก็ต้องพยายามทำตัวให้มันชัดเจนว่าจะอยู่ตรงไหน ความหมายคือให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นบ้างและได้ชี้แจงต่อกระบวนการยุติธรรม ถ้าใครไม่เข้ากระบวนการยุติธรรม แล้วจะไปคุยกันรู้เรื่องไหม แล้วอย่าไปให้เครดิตมากนัก ฉะนั้นที่พูดมาตนคิดว่าทุกคนมีเจตนาดีไม่ได้มีเจตนาร้าย และไม่ได้จงเกลียดจงชังรัฐบาล แต่ทุกคนมุ่งหวังจะแก้ไขปัญของตนเองหรือภาพรวม โดยไม่ได้นึกถึงกลไกของรัฐ ไม่นึกถึงกฎหมายมันก็ไม่ได้เพราะประเทศชาติอยู่ด้วยกฎหมาย ถ้าบอกว่ากฎหมายไปทำร้าย ไล่ล่า ถามว่าที่ทำมีความผิดไหม ซึ่งการกระทำความผิดเริ่มตั้งแต่การร้องทุกข์กล่าวโทษหรือนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการเมื่อมีการรับเรื่องก็ต่องสอบสวนไป มันไปไล่ตรงไหน ถ้าไม่มีความผิดจะร้องเรียนอย่างไรก็หลุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปหลายคดี บางคดีก็ตัดสินว่าไม่รับฟ้อง ไม่มีความผิดแล้วทำไมไม่เห็นมีใครมาเรียกร้อง


สรุปว่าอะไรที่ตัดสินเข้าข้างตัวเองแล้วดีถือว่าเป็นธรรม อะไรที่ตัดสินแล้วมีความผิดต้องไปแก้คดีก็กลายเป็นว่าไม่เป็นธรรม เป็นการไล่ล่าหรือ ตนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง อย่าคิดแบบนี้ สื่อก็ต้องอย่าไปขยายความในลักษณะแบบนี้ และอยากให้ลดความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ โดยให้กฎหมายว่าไป ผิดก็คือผิด ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีหลักฐาน ไม่ผิด มันจะลงโทษได้อย่างไร แม้กระทั่งคดีเก่าๆ มันก็มีหลักฐานมันก็ผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ เมื่อลงโทษก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มันจะมีอะไรนอกเหนือไปจากนี้ ตนไม่เข้าใจ อย่ามาลากพันกันไปมา เดี๋ยวจะเดือดร้อนไปทั้งประเทศแล้วใครจะรับผิดชอบ ตนขอถามใครที่มาร้องๆ กัน จะรับผิดชอบได้ไหม

"ขอประกาศไว้เลยว่าใครที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายเดือดร้อนจากนี้ไปต้องรับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยรับผิดชอบกันอยู่แล้ว ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมาย ตามระเบียบวินัย ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนทุกพวกทุกพรรค เจตนาดีหรือไม่ก็ไปพิสูจน์กันในศาล ผมตัดสินให้ไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถีงกรณีที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่าผู้ก่อเหตุอาจจะไม่ใช่คนไทย จะโยงไปถึงเรื่องการก่อการร้ายหรือไม่ว่า

 "ประเทศไหนใครทำก็ว่ากันไป แต่อย่าชักศึกเข้าบ้าน อยู่เฉยๆ พอแล้ว ในประเทศก็ตีกันจะตายแล้ว จะไปลากใครเข้ามาอีก จะคิดอะไร ฝากคิดอีกมุมว่าการเสนอแบบนี้จะมีผลกระทบอะไรกับอย่างอื่นไหม ไม่ใช่คิดเอาประเมินเอาแล้วเสนอไป มันไม่ใช่ ไปหามาถ้าเป็นต่างชาติแล้วเขาจะเข้ามาทำเพื่ออะไรอย่าไปลากศึกนอกบ้านเข้ามาอีก"

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์