ศาลฎีการะบุถ้าคมช.ไม่ให้ทักษิณขึ้นศาลถือว่าละเมิดอำนาจ

ประธานแผนกคดีคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ระบุ

หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการกลับประเทศเพื่อสู้คดี แต่คมช. ขัดขวางอาจถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจกระบวนการยุติธรรม

นายประพันธ์ ทรัพย์แสง


ประธานแผนกคดีคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับเข้าประเทศ เพื่อดำเนินคดีที่ คตส.ชี้มูลความผิดทุจริต ซื้อขายที่ดินย่านรัชดา ว่า

เมื่อหลักการดำเนินคดีอาญาให้ต้องมีตัวจำเลย

มาแสดงต่อหน้าศาล และในการดำเนินคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ต้องนำตัวจำเลย มาแสดงต่อศาลในนัดพิจารณาคดีครั้งแรกหลังจากที่ศาล มีคำสั่งประทับรับคำฟ้อง ไว้พิจารณาพิพากษาแล้ว

โดยเมื่อข้อเท็จจริง ขณะนี้ปรากฎว่า


ตัวจำเลย ยังอยู่ต่างประเทศ ดังนั้น ก่อนการยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนคดีดอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คตส.และอัยการสูงสุด ควรจะต้องติดตามตัว จำเลยมาแสดงต่อศาลในการนัดพิจารณาคดีครั้งแรก

โดยอัยการสูงสุด


ควรยื่นคำร้อง ขอให้ศาล ออกหมายจับติดตามตัวจำเลยที่อยู่ต่างประเทศกลับเข้ามาเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งการติดตามตัวอัยการสูงสุด จะต้องใช้ช่องทางผ่าน พรบ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

แต่ถ้าในนัดพิจารณาคดีครั้งแรก

ยังไม่มีตัวจำเลยมาแสดงต่อหน้าศาล ศาลก็ต้องจำหน่ายคดีออกไปจากสารบบความเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้ตัวมา

แต่อย่างไรก็ดี หากข้อเท็จจริงเป็นไปในทางว่า


พ.ต.ท.ทักษิณ มีความตั้งใจจะเดินทางกลับเข้ามาประเทศเพื่อต่อสู้คดีแล้ว แต่ คมช.ไม่อนุญาต ก็อาจถือได้ว่าการกระทำของ คมช.จะเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลมีอำนาจที่จะเรียก คมช.มาไต่สวน

และหากพบว่า

การกระทำของ คมช.ปราศจากเหตุผลโดยชอบธรรม และเป็นการขัดขวาง กระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ดำเนินต่อไปได้ ศาลก็อาจมีคำสั่งลงโทษ คมช. ฐานละเมิดอำนาจศาลได้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์