กกต.ไม่ปิดตาย ทรท.ใช้ชื่อเดิม

นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง


กรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทยว่า ทุกคนควรยอมรับ เพราะคณะตุลาการฯ ก็เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีประมุขถึง 2 ศาลมาร่วมเป็นองค์คณะ และคำวินิจฉัยละเอียดชัดเจน แต่จะให้คำวินิจฉัยเป็นที่ยอมรับของทุกคนคงไม่ได้ แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับ

เมื่อถามว่า พรรคไทยรักไทย

โดยเฉพาะ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่ค่อยยอมรับในบางประเด็น นายอภิชาต กล่าวว่าไม่ขอออกความเห็น เพราะนายจาตุรนต์มีส่วนได้เสียเรื่องนี้อยู่ แต่ในฐานะที่เคยเป็นผู้พิพากษามาหลายสิบปี บอกได้ว่า คำวินิจฉัยพิจารณาได้ละเอียดแล้ว

ทั้งนี้ สำหรับภายหลังการยุบพรรค

จะต้องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาชำระบัญชีภายใน 6 เดือน ดังนั้น ในช่วงนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มีการตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นมี 2 คนซ้อนกันอยู่

นายอภิชาต ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง


ยังกล่าวถึงขั้นตอนภายหลังจากที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคว่า ทาง กกต.ต้องนำคำสั่งยุบพรรคของตุลาการรัฐธรรมนูญไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้รับทราบโดยทั่วกัน จากนั้น สตง.ต้องเข้าไปชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน ตามที่กฎหมายกำหนด แต่หากเสร็จไม่ทันสามารถขยายเวลาได้อีก 30 วัน อย่างไรก็ตาม ความเห็นของตนมองว่า ในระหว่างที่มีการชำระบัญชีอยู่นี้ ต้องถือว่า พรรคยังดำรงอยู่จนกว่าจะชำระบัญชีเสร็จสิ้น

เมื่อถามว่า

หากเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดจะสามารถจัดตั้งพรรคในชื่อเดิมได้หรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่าการจัดตั้งพรรคต้องมีการประชุม เพื่อหาหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคก่อน แต่ไม่มีกฎหมายกำหนดห้ามจดตั้งชื่อพรรคชื่อเดิม หากเสร็จสิ้นการชำระบัญชี ตนมองว่าน่าจะจดในชื่อเดิมได้

เมื่อถามอีกว่า


หลายฝ่ายมองว่าความผิดของพรรคเป็นความผิดร้ายแรง จึงไม่น่าใช้ชื่อเดิมได้ นายอภิชาต กล่าวว่าไม่มีกฎหมายห้ามเรื่องนี้เอาไว้ เมื่อถามอีกว่า มีการมองว่าถ้าให้ใช้ชื่อพรรคเดิม จะเป็นการไม่เคารพคำพิพากษาของศาล หรือละเมิดศาลหรือไม่

นายอภิชาต กล่าวว่า

เป็นหน้าที่ของตนในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะรับไว้พิจารณา ว่าจะให้หรือไม่ให้ใช้ชื่อเดิม ซึ่งหากพิจารณาว่าไม่ให้ใช้ก็สามารถไปยื่นร้องอุทธรณ์ต่อตุลาการรัฐธรรมนูญ แล้วตุลาการรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด ไม่ได้ปิดตายในการจดตั้งชื่อเดิมพรรค ไม่ถึงกับละเมิด แต่เมื่อเราให้ยุบไปแล้ว โดยสามัญสำนึกมันดูแปลกๆ อยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับตุลาการรัฐธรรมนูญ จะเป็นผู้วินิจฉัยขั้นสุดท้าย

สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)


ถึงความคืบหน้ากรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า

ขั้นตอนตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 68 ระบุว่า

หัวหน้าพรรคการเมืองที่ถูกยุบต้องส่งบัญชีงบดุล รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับการเงิน ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 15 วันนับตั้งแต่พรรคเมืองเลิกหรือ ยุบ และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน แต่หากทำไม่เสร็จก็ขยายเวลาได้อีก 6 เดือน

นอกจากนี้ ในมาตราดังกล่าวยังระบุด้วยว่า

หากชำระบัญชีเสร็จสิ้น เมื่อหักหนี้สินและมีทรัพย์สินเหลือเท่าใด ให้โอนแก่องค์กรสาธารณกุศลตามที่ข้อบังคับพรรคการเมืองระบุไว้ แต่ในกรณีที่ไม่ได้ระบุไว้ในข้อบังคับพรรค ให้ทรัพย์สินที่เหลือตกเป็นของกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง

รายงานข่าวแจ้งว่า


ทรัพย์สินดังกล่าวจะรวมไปถึงเงินบริจาคพรรคการเมืองด้วย โดยพรรคไทยรักไทยเฉพาะปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนมีนาคม มียอดบริจาคทั้งสิ้น 12,137,040 บาท อย่างไรก็ตาม ปี 2549 พรรคไทยรักไทยมีเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 134,415,080 บาท




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์