คุ้มมั้ย..? เสี่ยงเพื่อสะใจ..!

"อย่าไปตั้งหน้าตั้งตาสกัดกั้นนักการเมืองมากเกินไป"


เสียงจากจอมเก๋าระดับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พูดนิ่มๆ ต่อกรณีที่อนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกรอบที่ 2 ว่าด้วยสถาบันการเมือง ที่มีนายจรัญ ภักดีธนากุล เป็นประธาน ได้เสนอความเห็นในมาตรา 96 เพิ่มคุณสมบัติต้องห้าม

หากกรรมการบริหารที่ถูกยุบพรรคจะต้องถูกตัดสิทธิในการลงสมัครเลือกตั้ง

เปิดด่านสอง ตั้งกำแพงเหล็กหนาๆอีกชั้นในการสกัดนักเลือกตั้ง หากรอดวิบากกรรมเว้นวรรค การเมือง 5 ปี จากคดียุบพรรคไทยรักไทยและประชาธิปัตย์

สะท้อนปรากฏการณ์ของ "ธง" ล้างบางนักการเมืองพันธุ์เก่า

หัวขบวนนักเลือกตั้งอาชีพอย่างนายชวน เริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้เกมถอนรากถอนโคน ของพวกรังเกียจนักการเมืองเข้ากระดูกดำ


เปิดเกมสกัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย


เดินหมากกันข้ามช็อต ก่อนจะรู้คำตอบสุดท้ายในคดียุบพรรคด้วยซ้ำ

ล่าสุดเสียงจากของจริง นายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า ขณะนี้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญยังไม่มีการลงมติในคดียุบพรรค ถึงแม้ในการประชุมแต่ละครั้ง คณะตุลาการฯจะอภิปรายในประเด็นต่างๆ แต่ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใครจะตัดสินใจอย่างไร

ดังนั้นกระแสข่าวที่ออกมาบอกว่ามีการลงมติยุบพรรคแล้ว ด้วยคะแนนเท่านั้นเท่านี้

จึงไม่เป็นความจริง

"อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 พฤษภาคม จะได้ข้อสรุปทั้งหมด ตุลาการฯ ทุกคนจะต้องเขียนคำวินิจฉัยส่วนตัวให้เสร็จ เพื่อจะได้มาลงมติกันและ นำไปเขียนคำวินิจฉัยกลาง และนำมาอ่านให้คู่กรณีฟังในบ่ายของวันที่ 30 พฤษภาคม"

นาทีเป็นนาทีตายอยู่ในช่วงวันที่ 29-30 พฤษภาคม

แต่ในห้วงสัปดาห์สุดท้ายของการลุ้นระทึก ว่ากันว่า ถึงนาทีนี้คนที่มีผลต่อคำตอบสุดท้าย ในคดียุบพรรคไทยรักไทยและประชาธิปัตย์ แบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย

ฝั่งหนึ่งก็คือคณะตุลาการ อีกฝ่ายหนึ่งก็คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่มีเสียงของ พันธมิตรม็อบไล่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร แฝงอยู่เบื้องหลัง และอีกฝั่งหนึ่งก็คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี


จะจูนกันลงตัวที่จุดไหน


ล่าสุดแว่วๆมา ทางฝ่ายยุทธศาสตร์ของนายกฯสุรยุทธ์ กำลัง

ขยับหาแนวร่วม เดินหน้าล็อบบี้ฝ่ายที่ไม่อยากให้มีการยุบพรรค รวมถึงการล้างบางอดีตกรรมการบริหารพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี

ในมุมมองที่ว่า เมื่อเป้าหมายจริงๆอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่าย ก็ควรเจาะจงเชือดเฉพาะคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ไม่เหมาเข่งทั้งคนทั้งพรรคให้เกิดเงื่อนไขต่อต้าน

เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

เจาะช่องระบายแรงกดดันทางการเมืองก่อนทะลักจุดเดือด

เหนืออื่นใดเลย เพื่อสนองคำตอบสุดท้ายของคนไทยส่วนใหญ่ ในประเทศที่ต้องการเดินไปสู่คูหาเลือกตั้งในวันที่ 16 หรือ 23 ธันวาคมปลายปี

"สุรยุทธ์" คิดในด้านบวกไว้ก่อน


และเมื่อนำมาลบคูณหารกับผลของการสั่งยุบพรรค


เชือดกรรมการบริหารแบบยกพวง ที่ยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับประเทศไทยโดยส่วนรวม

นอกจากความสะใจของบิ๊กบางคนในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) สนองความต้องการของแกนนำพันธมิตรม็อบไล่อดีตนายกฯทักษิณ และเข้าทางไอ้โม่ง ที่จ้องหาทางลัดเข้าทำเนียบรัฐบาลโดย ไม่ต้องฝ่าด่านนักเลือกตั้ง

มันคุ้มแค่ไหนที่ต้องเอาบ้านเมืองไปเสี่ยง

ไม่ต้องฝันไกลไปถึงการประชามติรัฐธรรมนูญใหม่ ปิดทองเก็บใส่ลิ้นชักได้

นักเลือกตั้งรวมหัวคว่ำไม่เป็นท่าแน่

แต่ที่น่าหวาดเสียวกว่านั้น สิ่งที่อดีต ผบ.หน่วยรบพิเศษอย่างนายกฯสุรยุทธ์หวั่นๆก็คือ แรงต่อต้านจากเครือข่ายนักเลือกตั้ง ระดมมวลชน เกณฑ์ม็อบป่วนเต็มบ้านเต็มเมือง เสริมแรงบวกเครือข่ายอำนาจเก่า เคลื่อนกองหนุนออกมาบนถนน

จุดไฟลามพรึบเร็วเลย

ถึงนาทีนั้นใครจะเอาอยู่



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์