มาร์คชี้กมธ.แก้ปัญหาไม่ถูกจุด ปมเลือกนายกฯโดยตรงจี้ดูให้ดี

มาร์คชี้กมธ.แก้ปัญหาไม่ถูกจุด ปมเลือกนายกฯโดยตรงจี้ดูให้ดี

10 ธ.ค. 57  เมื่อเวลา 09.10 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

กล่าวถึง ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมืองที่เสนอให้มีการเลือกนายกฯและครม.โดยตรง  ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถประชุมได้  วันที่มาให้ความเห็นต่อคณะกรรมาธิการยกร่างนั้น  ได้ให้ความเห็นชัดเจนไปแล้วว่าถ้าเรามองปัญหาของการเมืองที่ผ่านมา เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของฝ่ายบริหารที่เป็นที่มาของวิกฤต การเลือกฝ่ายบริหารโดยตรง น่าจะทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น เพราะว่าคนที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ก็จะอ้างคะแนนเสียงที่มาจากประชาชนตลอดเวลา ทำให้การตรวจสอบหรือ เวลาที่มีการใช้อำนาจในทางไม่ชอบ น่าจะทำให้เกิดความรับผิดชอบยากขึ้นไปอีก มองว่า ไม่ตรงกับการแก้ไขปัญหา เว้นแต่ว่าเขาสามารถที่จะออกแบบระบบให้เกิดความรับผิดชอบที่ชัดเจนบ้าง คิดว่าความพยายามที่จะเปลี่ยนโครงสร้าง โดยไม่ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น จะทำให้ต้องมาเริ่มทดลองกันใหม่ ในขณะที่ถ้าสมมุติว่าเราคงรูปแบบของระบบรัฐสภา แต่ทำอย่างไรให้คนที่เข้าสู่อำนาจต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกินขอบเขตผิดกฎหมาย ทุจริตคอร์รัปชั่น น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากที่สุด
          
เมื่อถามว่าในการประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) เรื่องนี้อาจจะต้องมีการทบทวน หรือไม่ เพราะหลายฝ่ายดูเหมือนไม่เห็นด้วย
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงความเห็นของกลุ่มคนคณะหนึ่ง ที่ไม่ใช่ตัวสภา และไม่ไม่ใช่ความเห็นของคณะกรรมาธิการยกร่าง เข้าใจว่ากลางเดือนนี้จะเป็นโอกาสที่ สปช.จะต้องหาข้อสรุป เพราะต้องส่งกรอบความคิดทั้งหมดให้กรรมาธิการยกร่างฯ และหลังจากนั้นคณะกรรมาธิการยกร่างฯก็จะต้องตัดสินใจ เพราะกรอบที่ส่งไปก็ไม่ใช่ตัวร่างที่จะเกิดขึ้น ยังมีเวลาที่จะต้องทบทวน และพิจารณาข้อดีข้อเสียอีกเยอะ
          
เมื่อถามว่า หากแนวโน้ม เป็นไปตามที่กรรมาธิการปฏิรูปการเมืองเสนอ ทางพรรคการเมืองหรือนักการเมืองจะต้องปรับตัวเองอย่างไรหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าเป็นระบบไหนที่เป็นประชาธิปไตยที่เป็นธรรม เราก็ลงแข่งขันอยู่แล้ว และไม่ได้มีประเด็นที่จะมาเรียกร้องว่าควรจะเป็นอย่างไรบ้างสำหรับเรา แต่ที่ให้ความเห็นไปเพราะเป็นห่วงในเชิงขิงการใช้อำนาจที่ไปกระทบกับปัญหาของประเทศมากกว่า เพราะอย่างที่ย้ำ คือปัญหาที่ผ่านมาคือการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารเกินขอบเขต ตรวจสอบยากหาความรับผิดชอบยาก และหากมีการใช้ระบบแบ่งแยกอำนาจปัญหานี้น่าจะรุนแรงขึ้น
                
ส่วนเรื่องนิรโทษกรรม หากมีการหยิบขึ้นมาหารือ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามันมีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่จะมาพูดในขณะนี้ เพราะวิกฤตที่เกิดขึ้นรอบสุดท้าย มาจากความพยายามผลักดัน วันนี้ถ้าจะมาจำกัดขอบเขตคงมาใช่เรื่องง่ายถ้าสถานการณ์ยังไม่นิ่ง  จะมาพูดถึงความผิดทางการเมืองก็ต้องพุดต่อถึงคนที่ฝ่าฝืนกฏอัยการศึก ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ในวันนี้ต้องได้รับการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ จริงๆแล้วเรื่องใหญ่ที่จะต้องทำมีเยอะมาก เอาเรื่องนี้มากลัวว่าจะไม่ได้ทำอะไรกันสักอย่าง เมื่อถามต่อว่า หากมีเหตุผลว่า จะนิโทษกรรมให้กับบุคคลที่ชุมนุมทางการเมืองไม่เกี่ยวกับคดีอาญา นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอบทันทีว่า หากพรุ่งนี้มีการชุมนุมทางการเมืองจะนิรโทษกรรมให้เขาหรือไม่ หรือหากเขาออกมาชู 3 นิ้ว ก็ต้องนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ ถ้าไม่นิรโทษกรรม ก็เป็นสองมาตรฐาน ถ้านิรโทษกรรมก็ถามว่า คสช.จะดูแลบ้านเมืองอย่างไร
          
เมื่อถามว่า ความเห็นกับการเลือกตั้งระบบเยอรมัน
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  เป็นข้อเสนอที่อยู่ในระบบรัฐสภามีข้อดี1.ทำให้คะแนนเสียงของประชาชนทุกคนที่เลือกพรรคการเมืองมีความหมาย 2.ทำให้สัดส่วนในสภาฯสะท้อนเจตนาของประชาชนแต่ส่ามีความซับซ้อนพอสมควร และหากจะทำต้องทำความเข้าใจว่ามันแปลว่าอะไร วิธีคำนวณคืออะไร โดยหลักของระบบจำนวนส.ส.จะคงที่ไม่ได้ เพราะจะไปกระทบต่อเรื่องของการประชุมร่วม
      
เมื่อถามว่า แต่ระบบของเยอรมันไม่ใช่ของใหม่สำหรับประเทศไทยใช่หรือไม่
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ามันก็เป็นของใหม่ ตรงที่ว่า  ที่ผ่านมา เราเลือกส.ส. 2 ระบบ เราเลือกคู่ขานกันไป แล้วเอาผลมารวมกัน แต่ว่าถ้าจะใช้ของระบบเยอรมันจริงๆ คะแนนเสียงที่ลงให้พรรคการเมือง จะเป็นตัวชี้ขาดว่า ใครจะเป็นรัฐบาลหรือใครจะมีจำนวนส.ส.เท่าไรในสภา ซึ่งทำให้เกิดความซับซ้อนว่า ต้องไปคำนวณว่าส.ส.เขตที่เข้ามา ไม่สะท้อนสัดส่วนตรงนี้จะต้องปรับต้องเติมกันอย่างไร


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์